สลด หนูน้อยวัย 9 ขวบ ชวนพ่อและพี่ฆ่าตัวตายยกครัว หลังถูกโกงจนไม่มีที่จะอยู่

สลด หนูน้อยวัย 9 ขวบ ชวนพ่อและพี่ฆ่าตัวตายยกครัว หลังถูกโกงจนไม่มีที่จะอยู่

สลด หนูน้อยวัย 9 ขวบ ชวนพ่อและพี่ฆ่าตัวตายยกครัว หลังถูกโกงจนไม่มีที่จะอยู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชีวิตรันทด หนูน้อยวัย 9 ขวบ ชวนพ่อและพี่ฆ่าตัวตาย ขอไปเกิดใหม่ดีกว่า หลังบ้านถูกบังคับคดียึดขาย เหตุคนสนิทปลอมชื่อพ่อไปค้ำซื้อรถกระบะแล้วไม่ผ่อน  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน เลขที่ 45 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีครอบครัวที่กำลังลำบากยากจนมาก อีกทั้งกำลังโดนมรสุมลูกใหญ่ถาโถมเข้าสู่ครอบครัวดังกล่าว ถึงขั้นชวนกันฆ่าตัวตายทั้งบ้านเพื่อหนีปัญหาดังกล่าว จึงไปพบเพื่อขอทราบรายละเอียด

นายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 และ นางนวลศรี ทวิชศรี อายุ 67 ปีนายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 และ นางนวลศรี ทวิชศรี อายุ 67 ปี

นายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ได้นำไปพบกับ นางนวลศรี ทวิชศรี อายุ 67 ปี ซึ่งเปิดร้านค้าอยู่ภายในหมู่บ้าน เพื่อสอบถามรายละเอียด เบื้องต้น นายสามารถและนางนวลศรี ได้เล่าเรื่องครอบครัวนี้ว่า นายสุชล มีลูก 3 คน เป็นชาย 1คน และหญิง 2 คน หญิงคนโต อายุ 16 ปี เรียนหนังสือระดับ ปวช.ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชายคนกลาง อายุ 15 ปี เสียสละให้พี่สาวและน้องได้เรียนหนังสือ ส่วนตัวเองออกมาทำสวน และหญิงคนสุดท้อง อายุ 9 ปี เรียนชั้นประถมปีที่ 3 

โดยเมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ภรรยาของนายสุชลได้ป่วยและเสียชีวิตที่ รพ.หลังสวน นำศพกลับมาที่บ้าน ชาวบ้านในตำบลทราบข่าวจึงมาช่วยกันบำเพ็ญกุศลศพ ซึ่งทั้งครอบครัวไม่มีที่ดินหรือบ้านเป็นของตนเอง มีฐานะยากจนมาก อดมื้อกินมื้อ ทั้ง 4 คนพ่อลูก ในขณะนั้นมีชายชราใจบุญในหมู่บ้าน ทราบเรื่องได้บริจาคที่ดินบนภูเขาสูง ให้ครอบครัวนี้ 2 ไร่ 40 ตารางวา เพื่อปลูกทุเรียน

และนายสันต์ ฉิมหาด นายก อบต.บางมะพร้าว ได้ประสานอำเภอหลังสวน ได้งบประมาณ 20,000 บาท สร้างบ้านหลังเล็กๆ มีห้องเดียว ให้พ่อลูก 4 คน อาศัยอยู่ โดยเจ้าของที่ดินได้ทำเรื่องโอนที่ดินให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

แต่เมื่อ 10 เดือน ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากสำนักงานบังคับคดีหลังสวน จ.ชุมพร ว่าได้ทำการยึดที่ดินของนายสุชลที่รับบริจาคมาสร้างบ้าน และยึดบ้านที่ปลูกบนที่ดินดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปขายทอดตลาด ในหนังสือบอกว่านายสุชลเป็นหนี้บริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 4 แสนกว่าบาท และเจ้าหนี้ได้อาศัยคำพิพากษาของศาลให้ยึดบ้านและที่ดิน ที่เป็นชื่อนายสุชลเพื่อขายทอดตลาด โดยกำหนดขายในวันที่ 13 พ.ค.64

นายสุชลได้เอาหนังสือให้ลูกอ่านให้ฟัง ถึงกับเป็นลม เนื่องจากไม่เคยไปขอกู้เงิน หรือค้ำประกันอะไรให้ใครเลย จึงได้ออกสอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้การว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ได้มีคนสนิทในครอบครัวของนายสุชล ได้ไปขอเช่าซื้อรถกระบะ และกู้เงินจากบริษัทดังกล่าวใน จ.ชุมพร โดยมีหลักฐานบัตรประชาชนและลายมือชื่อของนายสุชล เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาทราบเพียงแต่ คนสนิทได้ออกรถยนต์กระบะคันใหม่ และไปเกิดอุบัติเหตุจนรถพังเสียหาย

ซึ่งคนสนิทที่ไปซื้อรถไม่เคยผ่อนชำระเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไป บริษัทดังกล่าวได้ยื่นฟ้องศาลให้ผู้ซื้อและผู้ค้ำชำระหนี้ โดยที่นายสุชลไม่เคยได้รับหมายศาล เพราะที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นบ้านของคนสนิทต่อมาศาลจึงตัดสินให้ นายสุชลชดใช้หนี้ จำนวน 4 แสนกว่าบาท แทนผู้ซื้อ และนำมาสู่การยึดบ้านที่ดินเพื่อขายทอดตลาด

นายสุชลเมื่อทราบเรื่องได้พยายามวิ่งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ทุกหน่วยงานบอกว่า เรื่องหมดอายุความที่จะอุทธรณ์หรือแก้ไขทางกฎหมายแล้ว เหลือแต่เพียงต้องไปประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนจากสำนักงานบังคับคดีหลังสวน ในวันที่ 13 พค.64 เท่านั้น แต่นายสุชลก็จนปัญญาเพราะมียอดหนี้สูง ถึง 4 แสนกว่าบาท และไม่รู้ว่าจะต้องประมูลเท่าไหร่ ในเวลานี้มีเงินในชีวิตเพียงไม่ถึง 100 บาท

ผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยัง สภาทนายความจังหวัดหลังสวน พบนายสุวิทย์ พลานชุน ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน  พร้อมทั้งนำตัวนายสุชลไปพบ เมื่อได้ดูรายละเอียด นายสุวิทย์ บอกว่า ในทางกฎหมายในคดีค้ำประกันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะเลยกำหนดที่จะขอแก้ไขคดี ที่สามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่าไม่ใช่บุคคลที่ค้ำประกันตามสัญญา คงต้องไปต่อสู้ในการประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนเท่านั้น นายสุชล ถึงกับคอตก น้ำตาคลอเบ้า  

นายสุชล ยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ลูกสาวคนสุดท้องอายุ 9 ขวบ ซึ่งรับทราบปัญหาของครอบครัวมาตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ เป็นเด็กที่ไม่เคยมีความสนุกสนาน หน้าตาเศร้าหมองตลอดเวลา ได้เข้ามาพูดกับนายสุชลผู้เป็นพ่อว่า "พ่อเรามาตายกันทั้งครอบครัวเถอะ จะได้พ้นจากความลำบาก และได้ไปเกิดใหม่ อาจจะดีกว่าวันนี้ก็ได้" ทำเอานายสุชล ถึงกับตกใจ บอกกับลูกว่า "อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอย ยังมีหนทางที่จะต่อสู้ได้"  

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ด.ญ.เล็ก (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ ว่าทำไมถึงคิดฆ่าตัวตายพร้อมพ่อ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่อยากเห็นบ้านที่ดินถูกยึด ถ้าตายไปอาจจะเกิดมาสบายกว่านี้ เมื่อถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ด.ญ.เล็ก บอกว่า อยากเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้บ้านถูกยึดจะได้มีที่อยู่ไว้เรียนหนังสือ

ด้าน นางนวลศรี บอกว่า เด็กหญิงคนนี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งขยันและรักพ่อและพี่น้องมาก ส่วนท่านผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือ เด็กหญิง 9 ขวบ และครอบครัวนี้สามารถช่วยได้ที่ บัญชี ธ.ออมสิน เลขที่ 020090458918 ชื่อบัญชี ด.ช.อภิเชษฐ์ ฤทธิรุตม์ อายุ 15 ปี ลูกชายคนกลาง

ซึ่งผู้เป็นพ่อไม่สามารถใช้บัญชีตนเองได้เนื่องจากจะถูกอายัด แต่จะได้เอาเงินไปประมูลซื้อบ้านที่ดินกลับคืนมา ซึ่งคาดว่าใช้เงินไม่น่าเกิน 2 แสนบาท เนื่องจากมูลค่าบ้านและที่ดิน ราคาเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook