โควิดอินเดีย ติดเชื้อทุบสถิติโลกอีก! 6 โรงพยาบาลเดลี ไม่เหลือออกซิเจนรักษาคนไข้

โควิดอินเดีย ติดเชื้อทุบสถิติโลกอีก! 6 โรงพยาบาลเดลี ไม่เหลือออกซิเจนรักษาคนไข้

โควิดอินเดีย ติดเชื้อทุบสถิติโลกอีก! 6 โรงพยาบาลเดลี ไม่เหลือออกซิเจนรักษาคนไข้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลมากถึง 6 แห่งในกรุงนิวเดลีของอินเดีย หมดลงโดยสิ้นเชิง เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ท่ามกลางตัวเลขผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาของอินเดียเมื่อวันศุกร์ (23 เม.ย.) ยังทำลายสถิติเดิมของตัวเองและสถิติโลก ที่ราว 332,000 ราย

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในกรุงนิวเดลีหลายคนโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียว่า โรงพยาบาลไม่เหลือออกซิเจนสำหรับรักษาคนไข้โรคโควิด-19 และโรคอื่นๆ แล้ว

ส่วนโรงพยาบาลฟอร์ทิส ในรัฐหรยาณา ใกล้กรุงนิวเดลี ก็โพสต์ลงในบัญชีทวิตเตอร์ของโรงพยาบาลเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ให้หน่วยงานรัฐอนุญาตให้นำแท็งก์ออกซิเจนจากเมืองบีวาดี มาใช้กับโรงพยาบาลก่อน

กักออกซิเจนให้รัฐตัวเอง

การติดเชื้อจำนวนมากในอินเดีย ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งรองรับคนไข้ไม่ไหว ส่วนบางพื้นที่ก็ยังถูกกล่าวโจมตีว่ากักแท็งก์ออกซิเจนเอาไว้ให้ตัวเอง โดยไม่ยอมช่วยเหลือรัฐใกล้เคียง

ด้านนายมานิช ซิโซเดีย รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกรุงนิวเดลี ก็ส่งหนังสือด่วนหนึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เตือนว่าโรงพยาบาลบางแห่งในเมืองหลวงเหลือออกซิเจนใช้อีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และขอให้ส่งออกซิเจนไปให้โรงพยาบาล 6 แห่งที่ออกซิเจนหมดไปแล้วทันที และยืนยันว่ามีการกักออกซิเจนจริง เพราะพบว่าตำรวจรัฐอุตตรประเทศและรัฐหรยาณา ที่อยู่ติดกับกรุงนิวเดลี ไม่ยอมปล่อยให้ขนส่งออกซิเจนเข้ามา

รายใหม่กว่า 332,000 ราย

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ในอินเดียแพร่ระบาดในอัตราที่สูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญวิจาณณ์ว่าเป็นเพราะรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค และมีเชื้อแบบกลายพันธุ์ที่ติดได้ง่ายกว่าเดิม

เหตุนี้ทำให้อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุบสถิติอีกครั้งในวันศุกร์ (23 เม.ย.) ที่ 332,348 ราย หลังจากทำลายสถิติโลกไปแล้วครั้งหนึ่งในวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ที่ราว 312,000 คน

กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเผยเมื่อเช้าวันศุกร์ (23 เม.ย.ป อีกว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,250 คน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook