ผัวแทงเมียดับหลังแต่งงาน 2 เดือน อ้างถูกสวมเขา พ่อเชื่อใจสะใภ้ซัดลูกชายอย่ามโน

ผัวแทงเมียดับหลังแต่งงาน 2 เดือน อ้างถูกสวมเขา พ่อเชื่อใจสะใภ้ซัดลูกชายอย่ามโน

ผัวแทงเมียดับหลังแต่งงาน 2 เดือน อ้างถูกสวมเขา พ่อเชื่อใจสะใภ้ซัดลูกชายอย่ามโน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผัวแทงเมียสาววัย 20 ดับหลังแต่งงาน 2 เดือน เดินเมาแอ๋มามอบตัวกับตำรวจ อ้างถูกเมียสวมเขา พ่อเชื่อใจสะใภ้ซัดลูกชายอย่ามโน

(15 พ.ค.64) เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.อ.เจษฎากรณ์ กะพี้โสม รอง สว.สอบสวน สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุสามี ใช้อาวุธมีดแทงภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในห้องนอนบริเวณบ้าน ม.7 บ.กิ่ว ต.นาพู่ อ.เพ็ญ ขณะที่รถกู้ชีพ อบต.นาพู่ นำตัวส่งห้องฉุกเฉินช่วยเหลือชีวิตที่ รพ.เพ็ญ แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.อารีญา หรือ น้องแบม อายุ 20 ปี ถูกอาวุธมีดแทงบริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจทะลุด้านหลัง 

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายชัยวัฒน์ อายุ 26 ปี หรือ แม็กกี้ สามีผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีเขียวไม่ติดแผ่นป้ายหลบหนีไป จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.ดิษฐวัฒน์ ภาวรสินพงค์ รอง ผกก.สภ.เพ็ญ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจป้องกันและปราบปราม ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน รุดตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยมีญาติผู้ตาย ญาติผู้ก่อเหตุ และชาวบ้านมายืนมุงดูกันจำนวนมาก 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงคล้ายกับบ้านน็อกดาวน์ขนาดเล็ก อยู่บริเวณทางเข้าบ้านหลังใหญ่ สร้างอยู่ในเนื้อที่ 5-6 ไร่ ตรวจสอบภายในห้องนอนมีร่องรอยการต่อสู้ และพบกองเลือด และมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 ซม. อยู่บนที่นอน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปมอบตัวกับ พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ปักเคธาตุ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ด้วยอาการเมาพูดจาเอะอะโวยวายไม่รู้เรื่อง และในมือถือขวดเหล้าเหลือประมาณครึ่งแบน พร้อมกับบอกว่าขอเข้ามอบตัว หลังจากใช้อาวุธมีดปอกตาลแทงภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในห้องนอน และยังไม่ทราบว่าภรรยาได้เสียชีวิตแล้ว โดยอ้างว่าถูกภรรยาสวมเขา หรือนอกใจ จึงได้ประสาน พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติ สว.สส.สภ.เพ็ญ พร้อมตำรวจชุดสืบสวนมาควบคุมตัวพร้อมรถจักรยานยนต์ และขวดเหล้าไปที่ สภ.เพ็ญ เพื่อสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด 

จากการสอบสวน นายพูลษีร อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านและเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายคนโต ทำงานอยู่ที่โรงไฟฟ้าชีวมวล  ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี และมีนิสัยเป็นคนใจร้อน แต่ก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับใครรวมถึงคนในครอบครัว หลังจากคบหาดูใจกับผู้ตายที่เป็นลูกสะใภ้มา 5 ปี และเพิ่งจัดงานแต่งไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนรักผู้ตายเหมือนลูกสาวแท้ๆ เพราะไม่มีลูกสาว มีแต่ลูกชาย 2 คน หลังจากแต่งงานกันเสร็จ จึงให้ลูกชายคนโตมาอยู่ที่บ้านหลังเล็กที่ตนสร้างให้เป็นเรือนหอ ที่ผ่านมาก็มีปากเสียงเรื่องหึงหวงเป็นประจำเพราะลูกชายรักเมียมาก 

โดยในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเสร็จพิธีแต่งงานเสร็จ ลูกสะใภ้ขอให้ลูกชายเลิกกินเหล้า เพราะหากเวลาเมาเหล้าจะพูดจาไม่รู้เรื่อง เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ลูกชาย จึงได้นำดอกไม้มาขอขมาตนและภรรยา ว่าจะเลิกกินเหล้านับตั้งแต่วันนั้น เพื่อให้ภรรยาของเขาและพ่อแม่ จะได้สบายใจ ก่อนหวนกลับมากินเหล้าอีกในวันนี้ที่บ้านเพื่อนที่ บ้านดงสร้างควาย ต.นากว้าง อ.เมืองอุดรธานี

ก่อนเกิดเหตุซึ่งลูกสะใภ้ทำงานอยู่ที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือกับน้องสาวของตนเองที่บ้านหมูม่น ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี และทราบข่าวว่าสามีนั่งกินเหล้าจนเมาที่บ้านเพื่อน  ลูกสะใภ้ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปตามให้กลับบ้าน และลูกชายตนก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น  

ทุกครั้งที่มีปากเสียงกัน ตนก็ว่ากล่าวตักเตือนให้หยุดทะเลาะกัน และสั่งสอนลูกชายว่าอย่าคิดมากว่าภรรยาจะนอกใจ หรืออย่ามโนไปเอง เพราะตนเชื่อว่าลูกสะใภ้ไม่เป็นคนแบบนั้น และเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายตลอดระยะเวลาที่คบหากัน และยังเป็นคนรู้จักความเหมือนกับแม่บ้านแม่เรือนทั่วไป ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่บ้าน ตนไปร่วมงานศพที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งเหตุทางโทรศัพท์จากภรรยาก็รีบขับรถกลับมาบ้าน ส่วนภรรยาและลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้คนเล็กไปขายลูกตาลขายที่ ถนนอุดรธานี-หนองคาย ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่มีลางบอกเหตุหรือฝันร้ายแต่อย่างใด โดยคงจะต้องปล่อยให้รับกรรมที่ลูกชายก่อไว้ และให้เป็นไปตามขบวนการของกฎหมายบ้านเมือง 

นายเตวิทย์ อายุ 19 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุ ให้การว่า พี่ชายตนเป็นคนใจร้อน และสัญญาว่าจะเลิกกินเหล้าหลังจากแต่งงานกับพี่สะใภ้ เพิ่งกลับมากินเหล้าวันนี้ก็เกิดเรื่องขึ้น เพราะพี่ชายตนรักเมียมาก และหึงมากด้วยที่ผ่านมาก็มีปากเสียงกันบ้าง พ่อกับแม่ก็ลงจากบ้านมาพูดว่ากล่าวสั่งสอน และไม่คิดว่าจะถึงขั้นทำร้ายกันจนเสียชีวิต และอีกสาเหตุตนเชื่อว่าพี่ชายผิดคำพูดหลังจากขอขมากับพ่อแม่สัญญาว่าจะไม่กินเหล้าอีก จึงเกิดเหตุที่ทุกคนในครอบครัวแบบไม่คาดคิดมาก่อนเลย และตนรักพี่สะใภ้เหมือนกับพี่สาวแท้ๆ เพราะเป็นคนดีเป็นแม่บ้านแม่เรือน เลิกงานมาก็ซื้อกับข้าวกลับมานั่งล้อมวงกินข้าวกันทุกเย็น 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook