ตำรวจหนุ่มเสียชีวิตคาบ้าน พ่อปักใจเกี่ยวกับวัคซีน เผยลูกบ่นว่าไม่อยากฉีดแต่เป็นคำสั่ง

ตำรวจหนุ่มเสียชีวิตคาบ้าน พ่อปักใจเกี่ยวกับวัคซีน เผยลูกบ่นว่าไม่อยากฉีดแต่เป็นคำสั่ง

ตำรวจหนุ่มเสียชีวิตคาบ้าน พ่อปักใจเกี่ยวกับวัคซีน เผยลูกบ่นว่าไม่อยากฉีดแต่เป็นคำสั่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 12 มิถุนายน บรรยากาศที่บ้านในพื้นที่ ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ชาวบ้านไปช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานศพให้กับ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ สุรินต๊ะ อายุ 36 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ช่วยราชการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ หลังเสียชีวิตกะทันหันเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เมื่อสิบวันที่ผ่านมา โดยทางครอบครัวและคนในหมู่บ้านเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการฉีดวัคซีน

นายบุญมี อายุ 66 ปี บิดาของ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายมาบอกว่าได้รับคำสั่งให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อซิโนแวค ลูกชายบ่นว่าไม่อยากฉีด เพราะกลัวมีผลข้างเคียง แต่เมื่อเป็นคำสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม โดยเข้าฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

หลังจากฉีดวัคซีนได้ประมาณ 3 วัน ลูกชายมีผื่นแดงขึ้นที่หลัง แต่หลังจากนั้นก็หายเอง ส่วนอาการข้างเคียงอื่นๆ ไม่มี ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและไปทำงานได้ตามปกติ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ลูกชายมาหาที่บ้านตามปกติ ก่อนจะกลับไปบ้านของตัวเองที่อยู่กับภรรยาในหมู่บ้านใกล้เคียง ประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากนั้นได้อาบน้ำประมาณ 5 ทุ่ม และมานั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ในช่วงนั้นภรรยาและลูกสาวได้เข้านอนไปแล้ว ปรากฏว่าในช่วงเช้ามืดประมาณตี 5 ภรรยาออกมาพบว่าล้มไปนอนกับพื้นและเสียชีวิตไปแล้ว  

นายบุญมี บอกว่า ลูกชายเป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ไม่พบมีโรคประจำตัว จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เสียชีวิตกระทันหันนอกจากผลจากการฉีดวัคซีน

เรื่องที่เกิดขึ้นทางครอบครัวเสียใจมาก เพราะ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลภรรยาและลูกสาววัยเพียง 6 ขวบ และ ที่ผ่านมาก็ได้ดูแลพ่อแม่มาตลอด ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด และขอให้รับผิดชอบหากยืนยันผลการเสียชีวิตว่าเกิดจากวัคซีน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ศพของ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ ยังอยู่ระหว่างการชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คาดว่าทางครอบครัวจะนำกลับไปประกอบพิธีศาสนาได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ได้รับทราบข้อมูลและอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook