ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ชี้แจงเคสหญิงวัย 40 ป่วยหนักหลังฉีดวัคซีน หมอต้องเจาะไขสันหลัง

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ชี้แจงเคสหญิงวัย 40 ป่วยหนักหลังฉีดวัคซีน หมอต้องเจาะไขสันหลัง

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ชี้แจงเคสหญิงวัย 40 ป่วยหนักหลังฉีดวัคซีน หมอต้องเจาะไขสันหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีชายคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ ระบุว่า หลังจากที่ภรรยาของตนไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อ Astrazeneca ที่โรงพยาบาลกันทรวิชัย วันที่ 07 มิถุนายน 2564 หลังจากนั้น เวลา 21.00 น.โดยประมาณ ภรรยา คือ นางกิ่งแก้ว สุรินทร์ อายุ 40 ปี มีอาการไข้ หนาวสั่น เวียนหัว อาเจียนแน่นหน้าอก และปวดหัวอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะเจาะไขกระดูกสันหลัง เพื่อดูว่าเยื่อหุ้มในสมองอักเสบหรือไม่ ตอนนี้อาการน่าเป็นห่วง ทั้งๆ ที่โรคประจำตัวไม่มี และมีร่างกายแข็งแรงสามารถทำงานได้อย่างปกติทุกอย่าง ขณะนี้ทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาสารคามครับ

ล่าสุด สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.มหาสารคาม เผยว่า นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มค 0017.3/10048 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2564 ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่าในหนังสือว่า

จังหวัดมหาสารคาม ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ปรากฏดังนี้

ผู้ป่วยชื่อ นางกิ่งแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านท่าขอนยาง ตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน Astrazeneca ซึ่งได้รับการฉีดเข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 9:00 น และประมาณ 10 ชั่วโมงหลังได้รับวัคซีน ผู้ป่วยมีอาการไข้สูงหนาวสั่น แน่นหน้าอกหายใจลำบาก ปวดศีรษะ รู้สึกชาปลายมือปลายเท้าซีกซ้ายมากกว่าซีกขวา กล้ามเนื้อไม่อ่อนแรง ญาตินำส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม และจากการตรวจร่างกายแรกรับรู้สึกตัวปกติพูดคุยได้ดี อุณหภูมิ 38.7 องศาเซลเซียส ความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติ อัตราการหายใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับค่าออกซิเจนที่วัดได้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยผู้ป่วยมีน้ำหนักตัว 87 กิโลกรัมส่วนสูง 158 เซนติเมตร

การตรวจอาการทางระบบประสาทพบว่าไม่สามารถก้มหรือเงยศีรษะได้ แพทย์ส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองไม่พบภาวะผิดปกติ เจาะตรวจน้ำไขสันหลังพบว่าความดันน้ำไขสันหลังสูงกว่าปกติ เซลล์ในน้ำไขสันหลังอยู่ในเกณฑ์ปกติจากอาการ และการตรวจทางห้องปฏิบัติการเข้าได้กับโรคความดันโลหิตสูงในกะโหลกศีรษะที่ไม่ทราบสาเหตุ แพทย์รักษาด้วยยาลดไข้ยาปฏิชีวนะ 2 ชนิด ขณะนี้อาการไข้ลดลงปวดศีรษะลดน้อยลงก้มเงยศีรษะได้

ในส่วนการแนะนำและสร้างความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยนั้น ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจังหวัด ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยและญาติที่โรงพยาบาลและที่บ้าน สอบถามอาการความไม่สบายใจ และได้แนะนำเรื่องแนวทางการรับการช่วยเหลือจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งผู้ป่วยและญาติจะได้ยื่นคำขอความช่วยเหลือหลังจากที่รักษาอาการป่วยหายดีแล้ว

ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะช่วยในการดำเนินเรื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้น สำหรับการวินิจฉัยว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะได้ส่งข้อมูลให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook