ผอมแล้ว! ลิง "ก็อตซิลล่า" น้ำหนักลด 6.2 กก. ที่แท้ป่วยไทรอยด์ หมอแนะส่งคืนเจ้าของ

ผอมแล้ว! ลิง "ก็อตซิลล่า" น้ำหนักลด 6.2 กก. ที่แท้ป่วยไทรอยด์ หมอแนะส่งคืนเจ้าของ

ผอมแล้ว! ลิง "ก็อตซิลล่า" น้ำหนักลด 6.2 กก. ที่แท้ป่วยไทรอยด์ หมอแนะส่งคืนเจ้าของ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลิงอ้วน "ก็อตซิลล่า" น้ำหนักลด 6.2 กิโลกรัม ใน 3 เดือน หมอแนะกรมอุทยานฯ ส่งคืนเจ้าของ เพราะต้องป้อนยาตลอดชีวิต

จากกรณีดรามม่า ลิงแสม เพศผู้ อายุ 3 ขวบ ชื่อ "ก็อตซิลล่า" ที่มีรูปร่างอ้วนกว่าลิงปกติ เจ้าของเลี้ยงดูอย่างดี รักเหมือนลูก และเกิดเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ก่อนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานมารับตัวไปเพื่อดูแล เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และระบุว่าลิงแสมนั้นไม่ใช่สัตว์เลี้ยงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 

และเมื่ออยู่ในความดูแลของกรมอุทยานฯ ก็เกิดปัญหาการดูแล กรมอุทยานฯ จึงประสานโรงพยาบาลสัตว์คริสตัล เพ็ท ย่านรามอินทรา โดยจัดทำบันทึกการส่งมอบ-รับมอบ สัตว์ป่าเพื่อการรักษาพยาบาล ที่ลงนามโดย สัตวแพทย์หญิงมัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) กับนายสัตวแพทย์ศุภเสกข์ ศรจิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เสนอตัวแบ่งเบาภาระของทางราชการ

ล่าสุด หลังจากผ่านไป 3 เดือน วันนี้ (18 มิ.ย.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า ตอนนี้ เจ้าก็อตซิลล่า น้ำหนักลดลงไป 6.2 กิโลกรัม จากเดิม 22 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ 15.8 กิโลกรัม หลังจากที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย

ด้าน คุณมานพ เจ้าของเจ้าก็อตซิลล่า บอกว่า ตอนนี้ก็อตซิลล่าหุ่นดีแล้ว น้ำหนักลดลง จนเห็นกล้ามเนื้อ จากเดิมที่พุงย้อยอย่างเดียว ตั้งแต่เกิดเรื่องเจ้าหน้าที่นำไปดูแล ครอบครัวก็ไปหาเจ้าก็อตซิลล่าทุกวัน สลับสับเปลี่ยนกันไป

พ่อแม่และคุณมานพ ก็พาเจ้าก็อตซิลล่าออกกำลังกาย ใน 1 อาทิตย์ ต้องว่ายน้ำ 2 ครั้ง ครั้งละ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ก็อตซิลล่าชื่นชอบ และในแต่ละวันก็จะออกกำลังกายเคลื่อนย้ายร่างกาย เล่นบอล กระโดด ปีนป่าย ตามกายภาพของลิงแสม

ยอมรับว่าตอนนี้ ก็อตซิลล่ามีความสุขทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย โดยคุณหมอบอกว่า ตามปกติน้ำหนักของลิงแสม วัย 3 ขวบ อยู่ที่ 11-13 กิโลกรัม แต่ก็อตซิลล่าหนัก 15 กิโลกรัมแล้ว เกือบปกติ

อาหารที่เจ้าก็อตซิลล่ากิน ก็เป็นธัญพืช ผัก ผลไม้ และในหนึ่งอาทิตย์ จะได้กินของโปรด 1 วัน แบบเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขนมปัง จะให้กินเล็กน้อย ต่างจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง

ส่วนการกลับมาครอบครองและเลี้ยงเหมือนเดิมนั้น คุณมานพบอกว่า ในใจก็ยังมีความหวัง แต่กฎหมายระบุอย่างไรก็พร้อมทำตามแต่ความเป็นจริงคือรักก็อตซิลล่ามาก เพราะเขาคือน้องชาย และตั้งแต่เปลี่ยนสถานที่ดูแล ก็ยังไม่ได้คุยกับจนท.กรมอุทยานฯ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าอาหารของก็อตซิลล่า ทางครอบครัวก็เป็นคนรับผิดชอบ

ด้าน น.สพ.ศุภเสกข์ ศรจิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์คริสตัล เพ็ท ให้สัมภาษณ์ว่า เวลานี้เจ้าก็อตซิลลามีท่าทีที่ผ่อนคลาย ไว้ใจและเข้ากับเจ้าหน้าที่ได้ดี พร้อมให้ความร่วมในการตรวจสุขภาพ ตื่นเต้นกับเมนูมื้ออาหารสุขภาพที่จัดให้ในแต่ละวัน

อย่างไรก็ตาม จากการเจาะเลือดตรวจเช็กร่างกายแบบละเอียดพบว่า เจ้าก็อตซิลลา มีโรคประจำตัวคือ โรคไทรอยด์ และ Cushing Syndrome คือ ภาวะร่างกายอาจผลิตสเตียรอยด์ ออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะอ้วน หน้ากลม

รวมทั้งเวลานี้ ยังมีภาวะโรคเบาหวานเข้ามาแทรกอีกด้วย คาดว่า ไม่สามารถลดน้ำหนักไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว แต่ก็สามารถควบคุมดูแลสุขภาพได้

“จากการตรวจร่างกายแบบละเอียดทำให้เรารู้ว่าเจ้าก็อตซิลลาไม่ได้อ้วนเพราะเจ้าของ แต่ว่าอ้วนเพราะร่างกายเขาเอง อ้วนเพราะความผิดปกติของร่างกาย ทางโรงพยาบาลทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแล้วว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ทางโรงพยาบาลเสนอว่าควรส่งเจ้าก็อตซิลลาคืนให้เจ้าของ

เนื่องจากไม่สามารถส่งกลับเข้าฝูงได้อีกต่อไป ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องกินยาตลอดชีวิต ซึ่งการป้อนยานั้นหมอทุกคนไม่สามารถทำได้ แต่เจ้าของทำได้ง่ายๆเลย ทั้งนี้หากส่งก็อตซิลลาคืนให้เจ้าของได้ ทางโรงพยาบาลก็ยังยินดีที่จะช่วยดูแลสุขภาพเจ้าก็อตซิลลาด้วยตลอดไป” น.สพ.ศุภเสกข์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook