พ่อเชื่ออดีตเมียต้องการประชด ถ่ายคลิปลูก 3 ขวบ ดื่มเหล้าจนอ้วกแตก ก่อนส่งมาเย้ย

พ่อเชื่ออดีตเมียต้องการประชด ถ่ายคลิปลูก 3 ขวบ ดื่มเหล้าจนอ้วกแตก ก่อนส่งมาเย้ย

พ่อเชื่ออดีตเมียต้องการประชด ถ่ายคลิปลูก 3 ขวบ ดื่มเหล้าจนอ้วกแตก ก่อนส่งมาเย้ย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คืบหน้าคลิปแม่บังคับลูก 3 ขวบ ซดเหล้าจนอ้วกแตก พ่อเด็กเดินทางปรึกษาเจ้าหน้าที่ เปิดใจ อยากเอาลูกมาเลี้ยงเอง เชื่ออดีตเมียต้องการประชด

จากกรณี เฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return ได้แชร์คลิปวิดีโอ เด็กวัยประมาณ 3 ขวบ กำลังก้มศีรษะอาเจียนลงที่พื้น ในขณะที่เดียวกันมีเสียงหญิงสาว พูดว่า "ก้ม ก้ม สิ" พร้อมเอามือกดหัวลง ส่วนหญิงสาวอีกคนที่กำลังถ่ายคลิปได้หัวเราะอย่างสนุกสนาน 

ล่าสุด วานนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ที่บ้านคล็อง ต.บุฤาษี อ.เมืองสุรินทร์ หลังจากได้ติดต่อผู้ที่นำคลิปมาโพสต์ ซึ่งเป็นพ่อของเด็กคนดังกล่าว ชื่อ นายวสันต์ อายุ 23 ปี ซึ่งได้เดินทางกลับจากทำงานที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อเช้าวันนี้ โดยเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพื่อที่จะหาทางนำลูกกลับมาเลี้ยงที่บ้านแม่ของตนเอง เนื่องจากตนเองกับแม่ของเด็กได้เลิกรากันไปแล้วราว 2 ปี แม่ของเด็กได้นำลูกไปเลี้ยงดูด้วย ที่บ้านโคกรัง ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์

นายวสันต์ กล่าวว่า ตนเองรับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้ตนเองไม่ได้เลี้ยงดู แต่ก็อยากเอาลูกมาเลี้ยงแต่เขาไม่ให้ ทำอย่างไรจะได้ลูกมาเลี้ยง แม่ของตนเองก็เดินทางไปหาหลานเป็นประจำ ซื้อขนมดื่มหวานไปฝากหลาน แต่แม่ของเด็ก เขาไม่ให้แม่ตนเอง เข้าไปใกล้หลานเลย ตนต้องการจะนำลูกมาเลี้ยง สลับกันเลี้ยงก็ได้

สิ่งที่เขาทำลงไป ให้ลูกดื่มสุรา คาดว่าน่าจะประชดตนเอง ที่ไม่ได้เลี้ยงลูก เขาให้เพื่อนส่งคลิปมาให้ตนเป็นการส่วนตัว ตนเองรับไม่ได้จึงติดต่อเพจทนายเพื่อขอความช่วยเหลือ จะหาทางนำลูกกลับมาเลี้ยงดูแล

ตนเองได้รับคำแนะนำให้ไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ หรือสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอความช่วยเหลือว่าจะมีแนวทางนำลูกมาดูแลได้หรือไม่ นอกจากนี้ ผู้เป็นแม่ของเด็กยังได้ให้เพื่อนทักแชทมาบอกว่าจะฟ้องร้องตนเองที่นำคลิปออกสื่อออนไลน์

ต่อมา นายวสันต์ ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ และได้รับคำแนะนำจาก นายอรรถสิทธิ์ ลัมภเวช นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้ให้คำแนะนำว่า ในการใช้สิทธิ์การมาเยี่ยมเด็กมีระเบียบอยู่ 2 ตัว ควบคุมอยู่คือ พรบ.คุ้มครองเด็ก สองคือความรุนแรงในครอบครัวซึ่งก็เข้าข่าย เพราะมีการอยู่กินฉันสามีภรรยากันโดยเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เยี่ยมเคสก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริง

"ทางเราก็ได้ทราบข้อมูลจากข่าวและน้องที่มาขอรับคำแนะนำ สิ่งทางพ่อต้องการคือให้แม่ของเด็กปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ในการเลี้ยงลูกใหม่ และให้โอกาสในการเยี่ยมลูกด้วย หรืออาจต้องยื่นต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ปกครองรับรองบุตร

มีกฎหมาย 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งเรื่องที่เราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ลูกนี้เกิดจากตัวเรา อาจยื่นเรื่องต่อศาลขอเป็นผู้รับรองบุตร ก็จะมีอำนาจเหมือนกับสามีภรรยากัน

จะต้องหารือกับกองคุ้มครองสิทธิของจังหวัด อัยการจังหวัดเพื่อยื่นคำร้องขอรับรองบุตร ถ้ารับรองบุตรได้ เราก็เป็นพ่อแม่เด็กถูกต้องตามกฎหมาย กรณีอำนาจการไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจะอยู่ที่แม่ก็จริง แต่ถ้ามีการได้ไปรับรองบุตรที่อำเภอ กฎหมายก็จะระบุว่าต้องได้ไปรับรองบุตรที่อำเภอก่อน" นายอรรถสิทธิ์ ระบุ

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของแม่เด็ก น.ส.ฟ้า (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 20 ปี  ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านปู่กับย่า ที่บ้านโคกรัง ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งแม่ของเด็กออกจากบ้านไปทำธุระนอกบ้าน เหลือแต่ย่ากับปู่ ซึ่งสภาพบ้านเรือนฐานะค่อนข้างลำบาก เป็นบ้านชั้นเดียว

ปู่อายุ 70 ปี ย่าอายุ 65 ปี ปู่สายตามองไม่เห็น ย่าตาฝ้าฟางแทบมองไม่เห็นเช่นกัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้ว่าฟ้า แม่เด็กไปที่ไหน ตนมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด และเด็กไปเรียนอนุบาลที่โรงเรียน ตอนเย็นพ่อของฟ้าก็จะนำมาส่งที่บ้าน และนอนแคร่ไม้ที่ตนเองนั่งอยู่

ขณะที่ เพื่อนบ้าน บอกว่า ครอบนี้น่าสงสารนอกจากปู่และย่าที่อยู่อย่างลำบากแล้ว หลานสาวแม่ของเด็กที่เลิกกับสามี ก็ไม่มีงานทำ ตกงาน สภาพความเป็นอยู่จึงค่อนข้างลำบากมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook