รองผู้ว่าฯ มาเอง ปลอมตัวเป็นชาวบ้านย่องซื้อทุเรียนอ่อน หลังรับเรื่องร้องเรียนเพียบ

รองผู้ว่าฯ มาเอง ปลอมตัวเป็นชาวบ้านย่องซื้อทุเรียนอ่อน หลังรับเรื่องร้องเรียนเพียบ

รองผู้ว่าฯ มาเอง ปลอมตัวเป็นชาวบ้านย่องซื้อทุเรียนอ่อน หลังรับเรื่องร้องเรียนเพียบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.64 ที่ว่าการอำเภอทุ่งตะโก จ.ชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน มิ.ย. เป็นช่วงที่ ทุเรียนหมอนทองในภาคใต้ เริ่มออกสู่ตลาด โดยเฉพาะใน จ.ชุมพร เป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนหมอนทองมากที่สุดในภาคใต้ และมากเป็นอันดับสองในประเทศ รองจาก จ.จันทบุรี  จังหวัดชุมพรได้รับคำร้องเรียน จากผู้บริโภค และ ผู้เดินทางระหว่าง ชุมพร และ กทม. รวมถึงผู้ค้าส่งทุเรียนว่า มีการลักลอบนำทุเรียนด้อยคุณภาพ หรือ ทุเรียนอ่อน ออกสู่ท้องตลาดทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของทุเรียนหมอนทองใน จ.ชุมพร ส่งผลให้ราคาทุเรียนลดลงอย่างรวดเร็วจาก 180 บาท เหลือไม่ถึง 100 บาท ทำให้ขาดความเชื่อถือจากต่างประเทศ แต่กลุ่มแก๊งที่ค้าขายทุเรียนอ่อน ได้ผลประโยชน์เพียงจำนวนหนึ่ง ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม ทั้งจังหวัดและประเทศชาติ

จังหวัดชุมพรจึงแต่งตั้งคณะทำงาน และชุดปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดจังหวัดชุมพร อีกทั้งได้ตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจออกตรวจสอบ ปราบปรามแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เข้าทำการตรวจสอบในพื้นที่ อ.ทุ่งตะโก ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 22 มิ.ย. 64 จนได้เบาะแสว่ามีการนำทุเรียนอ่อนออกมาจำหน่าย ทั้งที่แผงขายทุเรียนริมถนนสายเอเซีย 41 และ ล้งรับซื้อทุเรียนเพื่อการส่งออกต่างประเทศ จึงรายงานให้ นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร ทราบ

หลังรับรายงาน นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร ได้ปลอมตัว เป็นชาวบ้าน แต่งตัวด้วยผ้าขาวม้าคาดเอว ใส่เสื้อผ้าแบบชาวบ้าน  เดินทางด้วยรถยนต์ไม่ติดตราราชการ ไปยัง พื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เข้าไปยังแผงขายทุเรียนดังกล่าว พบ นางคำนึง อายุ 66 ปี ชาว จ.ระนอง กำลังขายทุเรียนจำนวนมาก ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงทำทีเป็นผู้ซื้อเข้าไปสอบถามรายละเอียด

นางคำนึงบอกกับ รอง ผวจ.ชุมพร ซึ่งปลอมตัวเป็นชาวบ้านที่ต้องการซื้อทุเรียนว่า ทุเรียนทั้งหมดที่นำมาตั้งขายในแผง เป็นทุเรียนหมอนทองที่แก่จัด พร้อมรับประทานได้แล้ว ขายในราคา กก.ละ 70 บาท นายสมพรจึงทำทีตกลงซื้อ หลังจากนั้น จนท.ทั้งหมดจึงแสดงตัวเป็น จนท.ชุดปฏิบัติการปราบปรามการค้าทุเรียนอ่อน เข้าทำการตรวจสอบทุเรียนหมอนทองในแผง

จากการตรวจสอบพบว่า มีทุเรียนอ่อน จำนวน 77 ลูก น้ำหนัก 222 กก. จึงทำการตรวจยึด และ ผ่าทุเรียนเหล่านั้นพบว่า เนื้อทุเรียนยังขาว ไม่มีกลิ่นหอมของทุเรียนแก่แต่อย่างใด อันแสดงถึงเป็นลักษณะของทุเรียนอ่อน จึงได้ใช้เครื่องมือของ สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ทำการตรวจวัดปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนพบว่ามีปริมาณเพียง 17-18 % เท่านั้น ทั้งที่มาตรฐานของปริมาณแป้ง จะต้องมี ถึง 32 % จึงถือเป็นทุเรียนแก่ พร้อมสุกและ รับประทานได้

เจ้าหน้าที่จึงจับกุมนางคำนึง เจ้าตัวให้การยอมรับว่าเป็นผู้ค้าทุเรียนจำนวนดังกล่าวจริง แล้วควบคุมตัวป้านึงไปทำบันทึกจับกุม นำส่ง ตำรวจ สภ.ทุ่งตะโก ในข้อหา พยายามขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 271 และมาตรา 80  และข้อหาเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ฯลฯ  ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค มาตรา 47 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook