แอปเปิลเดลี หนังสือพิมพ์ฮ่องกงหนุนประชาธิปไตย ประกาศปิดกิจการ หลังจีนกดดันหนัก

แอปเปิลเดลี หนังสือพิมพ์ฮ่องกงหนุนประชาธิปไตย ประกาศปิดกิจการ หลังจีนกดดันหนัก

แอปเปิลเดลี หนังสือพิมพ์ฮ่องกงหนุนประชาธิปไตย ประกาศปิดกิจการ หลังจีนกดดันหนัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แอปเปิลเดลี หนังสือพิมพ์ฮ่องกงที่สนับสนุนประชาธิปไตย ประกาศปิดกิจการเมื่อวันพุธ (23 มิ.ย.) โดยจะปิดเว็บไซต์หลังเที่ยงคืนวันดังกล่าว และจะตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับวันพฤหัสบดี (24 มิ.ย.) เป็นฉบับสุดท้าย

"แอปเปิลเดลีขอขอบคุณผู้อ่าน สมาชิก ผู้ลงโฆษณา และชาวฮ่องกง ที่รักและสนับสนุนมาตลอด 26 ปี ลาก่อนและดูแลตัวเองด้วย"

หนังสือพิมพ์ดังกล่าวตีพิมพ์มายาวนาน 26 ปี แต่ต้องยุติบทบาทลงหลังจากคณะกรรมการบริหารของบริษัท เน็กซ์ มีเดีย มีมติดังกล่าวออกมา โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน

ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์นี้ ที่นายจิมมี่ ไหล่ เป็นผู้ก่อตั้ง แสดงจุดยืนสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างชัดเจน และมักวิจารณ์คณะผู้บริหารฮ่องกง ตำรวจฮ่องกง และรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เมื่อช่วงที่ผ่านมาของวันเดียวกันนี้ หัวหน้านักเขียนบทความเชิงแสดงความคิดเห็นของแอปเปิลเดลี ก็เพิ่งถูกตำรวจจับ โดยอ้างกฎหมายความมั่งคงแห่งชาติ

ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจก็จับกุมผู้บริหาร 5 คน ซึ่งมีบรรณาธิการและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) รวมอยู่ด้วย โดยกล่าวหาว่าสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติเพื่อทำลายความมั่นคงของชาติ ทั้งยังส่งตำรวจหลายร้อยนายไปบุกห้องข่าว และยึดอุปกรณ์สำนักงานจำนวนมากของนักข่าวไปด้วย

ตำรวจเผยว่าแอปเปิลเดลีตีพิมพ์บทความหลายบทความที่เรียกร้องให้ต่างชาติคว่ำบาตรคณะผู้บริหารฮ่องกงและรัฐบาลจีน

ไม่ใช่แค่นั้น ตำรวจยังอายัดสินทรัพย์ของบริษัท 3 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับแอปเปิลเดลี คือ แอปเปิลเดลี จำกัด แอปเปิลเดลี พรินทิง จำกัด และเอดี อินเทอร์เน็ต จำกัด รวมมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (73.85 ล้านบาท) และอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (2,051.26 ล้านบาท) ด้วย

การอายัดสินทรัพย์และบัญชีเหล่านี้ ทำให้แอปเปิลเดลีเผยเมื่อวันจันทร์ (21 มิ.ย.) ว่าจ่ายเงินให้พนักงานหรือจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจไม่ได้ 

จีนและสหราชอาณาจักร ที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคมของฮ่องกง ทำสนธิสัญญากันก่อนการส่งมอบฮ่องกงคืนสู่จีนเมื่อปี 2540 ว่าจีนจะคงอำนาจในการบริหารตนเองในระดับสูงของฮ่องกงเอาไว้ และจะต้องรักษาเสรีภาพต่างๆ ในฮ่องกง รวมถึงเสรีภาพในการแสดงออก เป็นระยะเวลา 50 ปี หรือจนถึงปี 2590

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook