ประวิตร ห่วงอาเซียนสั่งการข่าวระวัง

ประวิตร ห่วงอาเซียนสั่งการข่าวระวัง

ประวิตร ห่วงอาเซียนสั่งการข่าวระวัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อภิสิทธิ์เชื่อฮุน เซนแยกแยะหน้าที่ได้ กลาโหมเผย "ประวิตร" ห่วงอาเซียน สั่งการข่าวเฝ้าระวังจับตาเข้ม ตั้งจุดตรวจป้องคาร์บอมบ์ ระวังอุบัติเหตุอาเซียนเลน ยันการข่าวยังไร้เหตุร้ายแรง เผย "รมว.กลาโหม" มั่นใจทีมรปภ.ทำอาเซียนฉลุย "เสื้อแดง" ยื่นหนังสือปึกเตียน ส่งตัวแทนรับ เผย "สุเทพ" เตรียมนำผบ.เหล่าทัพตรวจเยื่ยมพื้นที่

(22 ต.ค.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์การรักษาความปลอดภัยในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่มีอะไร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้ทุกส่วนต้องดูแลอย่างใกล้ชิดอำนวยความสะดวกให้กับผู้นำอาเซียน และประชาชน เกี่ยวกับเรื่องของอาเซียนเลนที่ตามจุดต่างๆจะมีเจ้าหน้าที่กำกับดูแลป้องกันอุบัติเหตุ ตั้งแต่เส้นอุทยานชะอำที่เป็นจุดเริ่มต้นของอาเซียนเลนไปจนจุดสุดท้ายคือบริเวณเขาตะเกียบ ซึ่งตลอดระยะเส้นทางของอาเซียนเลนประมาณ 27 กิโลเมตร เราจะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติโดยเฉพาะบริเวณจุดกลับรถ

ส่วนการยื่นหนังสือถึงผู้นำอาเซียนของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น อาจจะมีผู้แทนอาเซียนที่จะเดินทางมารับหนังสือ เพราะกลุ่มเสื้อแดงจะไปยื่นหนังสือที่สถานต่างอากาศหาดปึกเตียนเป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงจึงไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มเสื้อแดงประกาศเจตนารมย์ว่าจะไม่ขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งจะต้องขอบคุณทุกส่วน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ พลเรือน และกลุ่มเคลื่อนไหว ที่ให้ความสำคัญกับการประชุม และมีการแสดงออกให้เหตุถึงความเรียบร้อยเพื่อแสดงความเชื่อมั่นต่อประเทศต่างๆ ทั้งนี้จากการข่าวเรามีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงดูแลประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว ทั้งพื้นที่ โรงแรม ซึ่งขณะนี้ไม่มีข่าวว่าจะมีเหตุการณ์อะไรมากระทบต่อการประชุม และไม่มีอะไรกระทบต่อผู้นำอาเซียน

พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้นำที่จะลงมาที่ท่าอากาศยานหัวหิน จะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ต่างๆ จะนำผู้นำอาเซียนจากสนามบินมายังที่พัก และจะดูแลคณะคู่สมรสไปทำกิจกรรม เมื่อถามว่า มีการระมัดระวังในเรื่องของการวางระเบิด และเหตุการณ์คาบอมบ์ พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า มีการเฝ้าระวัง และมีการตั้งจุดตรวจทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่ประกาศเขต พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งเรามีชุดจุดตรวจ และมีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดอย่างละเอียด โดยเฉพาะรถทุกคันที่เข้ามาในพื้นที่การประชุม ส่วนกรณีที่ นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความกังวลจะมีคาบอมบ์ใน กทม. และสถานที่ใกล้เคียงการประชุมอาเซียนนั้น คงเป็นเพียงข้อห่วงใย ซึ่งเมื่อมีข้อห่วงใยเราก็มีการกำชับอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทุกหน่วยมีความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและมีการซักซ้อมขั้นตอนในการรักษาความปลอดภัย และแผน ซึ่ง รมว.กลาโหม ได้ฝากข้อห่วงใย และชมเชยทุกหน่วยที่มีการซักซ้อมเป็นอย่างดี

พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ล่าสุด รมว.กลาโหม ได้ไปดูการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยพลเรือน ซึ่งได้มีการแสดงขั้นตอนในการนำพาผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งภายหลังที่ได้มาตรวจเยี่ยมก็มีความเชื่อมั่นในการมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย เพราะเรามีความพร้อมทั้งกำลังพล และเครื่องมือต่างๆ ทั้งนี้ท่านได้ฝากเน้นย้ำในการเฝ้าระวังในจุดต่างๆ และพยายามให้ทุกคนติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ได้ไปตรวจเยี่ยมการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่การประชุม ซึ่งจากการตรวจเยี่ยม พล.อ.ประวิตร ก็พอใจ และในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร และ ผบ.เหล่าทัพ จะเดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยเริ่มตั้งแต่ 13.30 น.เป็นต้นไป

พล.ต. ดิษฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร(กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้ระวังการก่อเหตุวางระเบิดนอกพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงใน กทม. ว่า เจ้าหน้าจะติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆที่พยายามจะก่อเหตุในช่วงที่มีการประชุมอย่างเข้มข้นมากกว่าปกติ เพราะเราไม่อยากให้มีอะไรมากระทบไปถึงการประชุม ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันระมัดระวังรวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านการข่าวทุกด้านให้รายงานสถานการณ์มาให้ทราบเป็นระยะๆ ส่วนกลุ่มเสื้อแดงที่จะมายื่นหนังสือนั้น ต้องเป็นดุลพินิจของกระทรวงต่างประเทศจะเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสม ซึ่งวิธีการดำเนินมีขั้นตอนอยู่แล้วตามหลักสากล

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง แต่โดยภาพรวมแล้วเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็มีความระมัดระวังในเรื่องนี้อยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศมีงานสำคัญๆ ซึ่งเรามีหน่วยงานทำงานทางด้านนี้อยู่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากำชับให้เข้มงวดในการตรวจตราดูแลสถานที่สำคัญๆที่คาดว่าจะมีการก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพ รวมถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันนี้ เพราะท่านรู้สึกเป็นห่วง ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ใดก็จะส่งผลกระทบไปถึงการประชุม ทั้งในเรื่องความเชื่อมั่นจากผู้นำประเทศต่างๆ และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและขอให้ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า อยากวิงวอนให้ทุกฝ่ายรวมถึงประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากมีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบการประชุมครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญและเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ จึงอยากจะขอร้องให้กลุ่มคนที่ไม่หวังดีที่พยายามฉวยโอกาสจะสร้างความวุ่นวายขอให้เป็นแก่ชาติบ้านเมือง เพราะถ้าหากการประชุมครั้งนี้ไม่ราบรื่นก็จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศรวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ

กอ.รมน. ปัดวิจารณ์"บิ๊กจิ๋ว"พบฮุนเซน

พล.ต.ดิษฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร(กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาต้องการให้ไทยกับกัมพูชา ถอนกำลังออกจากพื้นที่ตามแนวชายแดนประสาทเขาพระวิหารเพื่อลดการเผชิญหน้าว่า ในส่วนของตามแนวชายแดนเรามีการวางกำลังในพื้นที่เพื่อรักษาอธิปไตยและดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน ทั้งนี้ กำลังของเราไม่ได้มีมากกว่ากัมพูชา เรามีประมาณใกล้เคียงกัน ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซ็นต้องการให้ทั้ง 2 ฝ่าย ถอนกำลังออกจากพื้นที่เพื่อลดการเผชิญหน้านั้น เรื่องนี้เรามีเจ้าหน้าที่ทั้ง 2ประเทศ ดำเนินการอยู่ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบสมเด็จฮุนเซนนั้น ไม่อยากวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 วันที่ 23-25 ตุลาคมนี้ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ที่มีกำหนดเดินทางถึงในวันที่ 22 ตุลาคม คือ นายกรัฐมนตรีสหภาพพม่า ที่มีกำหนดเดินทางมาถึงในเวลา 13.05 น. ต่อด้วยผู้นำบรูไน ลาว และสิงคโปร์ ส่วนมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ แจ้งว่าจะมาไม่ทันพิธีเปิดการประชุม

มาเลเซียแจ้งว่า ติดภารกิจในการพิจารณางบประมาณประจำปีเข้าสู่การพิจารณาของสภา ขณะที่อินโดนีเซียติดภารกิจในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ ส่วนฟิลิปปินส์กำลังเตรียมการรับพายุลูกใหม่ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางมาหลังพิธีเปิดการประชุม โดยยังไม่ทราบเหตุผลชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีอุบัติเหตุระทึกก่อนการประชุมด้วย โดยเมื่อเวลา 11.30 น. รถยนต์เจ้าหน้าที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในขบวนรถผู้นำลาวที่จะเข้าร่วมประชุมอาเซียน ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางพลิกคว่ำอีกฝั่งถนน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เจ้าหน้าที่ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต

อภิสิทธิ์เชื่อฮุน เซนแยกแยะหน้าที่ได้

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ติดใจกรณีที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่าสร้างบ้านพักรับรอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมาได้พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน หลายครั้ง ก็พูดตรงไปตรงมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพื่อน ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวสามารถแยกแยะได้ ระหว่างเพื่อนกับการทำหน้าที่ ซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งยึดหลักการทำงานเพื่ออนาคต

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ากัมพูชา ประเทศไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนด้วย มั่นใจว่าสมเด็จฮุน เซน จะให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวนั้นเชื่อว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในประเทศไทยและไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยคาดว่าระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หากมีโอกาสก็จะหารือกับสมเด็จฮุน เซน ด้วย ขณะที่การเดินทางมาร่วมพิธีเปิดประชุมอาเซียนล่าช้านั้น ไม่ได้เป็นการสร้างเงื่อนไข เพราะหลายประเทศก็มาไม่ทันเช่นเดียวกัน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook