หนุ่มอ่างทองขอโวย พ่อป่วยเบาหวาน ติดโควิดจากเตียงข้างๆ ถาม รพ.เอาผู้ป่วยมาปนกันได้ไง

หนุ่มอ่างทองขอโวย พ่อป่วยเบาหวาน ติดโควิดจากเตียงข้างๆ ถาม รพ.เอาผู้ป่วยมาปนกันได้ไง

หนุ่มอ่างทองขอโวย พ่อป่วยเบาหวาน ติดโควิดจากเตียงข้างๆ ถาม รพ.เอาผู้ป่วยมาปนกันได้ไง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าว จ.อ่างทอง ได้รับการร้องเรียนจาก นาย ท.(นามสมมติ) วัย 39 ปี ชาวอ่างทอง ระบุว่า พ่อของตน อายุ 66 ปี ที่นอนรักษาตัวด้วยโรคเบาหวาน อยู่ที่โรงพยาบาลชื่อดังในจังหวัดอ่างทอง  ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ป่วยเตียงข้างเคียงที่มีการปกปิดประวัติเสี่ยง ส่วนแม่ของตน ซึ่งกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เพราะไปนอนเฝ้าไข้พ่อที่โรงพยาบาล ตรวจรอบแรกได้ผลเป็นลบ แต่โรงพยาบาลแจ้งให้กลับบ้าน รอการมาตรวจรอบที่สอง นาย ท. บอกว่า เหตุใดโรงพยาบาลจึงไม่รับผิดชอบ นำแม่ของตนไปกักตัวตามมาตรการ เพื่อรอตรวจซ้ำ หากแม่กลับบ้านก่อน แล้วผลตรวจรอบสองพบว่าติดเชื้อ ครอบครัวที่บ้านที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีก 3 คน ก็ต้องเป็นกลุ่มเสี่ยงไปด้วยอีก  

เรื่องดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ่อของตนมีนัดตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจแผลกดทับติดเชื้อที่ขา แพทย์ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล ต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 14 หรือ 15 มีผู้ป่วยทีมีอาการไข้ ไอ มานอนพักที่เตียงติดกับพ่อ ซึ่งผลการตรวจโควิดของคนที่เพิ่งมายังไม่ทันออก เจ้าหน้าที่ก็เอาขึ้นมาปะปนกับผู้ป่วยปกติแล้ว

หลังจากนั้นผลของผู้ป่วยรายนี้เป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยนั้นออกไป กระทั่งรุ่งเช้าอีกวันก็มีการตรวจโควิด-19 เจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยและคนเฝ้าไข้ ทั้งตึก ซึ่งผลตรวจรอบแรก ทั้งพ่อและแม่มีผลเป็นลบ แต่ต่อมาพ่อเริ่มมีอาการไข้ แต่ทางโรงพยาบาลก็ยังไม่ตรวจ จนเมื่อวานทางโรงพยาบาลมาตรวจครั้งที่ 2 พบว่าพ่อติดเชื้อโควิด แต่ของแม่เป็นลบ ซึ่งแม่เฝ้าไข้คลุกคลีอยู่กับพ่อตลอดเวลา ใช้อุปกรณ์หลายอย่างด้วยกันกับพ่อ

หลังผลออกทางเจ้าหน้าที่ได้นำแม่ไปกักตัวในห้องพิเศษของตึก แยกกับพ่อที่เป็นห้องรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่พอเช้าวันนี้ทางโรงพยาบาลให้แม่กลับไปกักตัวที่บ้าน โดยแจ้งว่าไม่มีอาการ ซึ่งทางแม่ก็โทรมาแจ้งตน ตนจึงแจ้งไปว่าไม่เห็นด้วย และอยากคุยกับหมอ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งหากนำแม่กลับมากักตัวที่บ้าน โดยที่ยังไม่มีผลตรวจยืนยันชัดเจน หรือกักตัวให้ครบตามระยะที่กำหนด ก็จะกลายเป็นว่าทั้งครอบครัวจะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงอีกกลุ่มหนึ่งทันที จึงอยากจะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไข เพราะตอนนี้ตนมองว่าโรงพยาบาลไม่มีความรับผิดชอบ เอาผู้ป่วยที่ยังไม่ได้คัดกรองโควิด มารวมกับผู้ป่วยรายอื่นๆ จนพ่อของตนต้องติดโควิด 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามไปยัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ถูกพาดพิงดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงสาเหตุและการดำเนินการในเรื่องของผู้ป่วยโควิด-19 รายนี้ ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook