นรกบนรถตู้...พิษรักพระฆ่าสีกา
ย้อนรอยเส้นทางอำมหิต พระธนากร มหาวีโร พระลูกวัดบ้านโคกจักจั่น ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ฆ่าศิษยานุศิษย์ที่มาติดพันเสียงเทศน์และหลงรูปกาย จากสองพยานปากสำคัญที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ระหว่างขึ้นรถตู้จาก อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ไปจนถึง จ.อุบลราชธานี กว่า 200 กิโลเมตร มันคือนรกอเวจีบนรถตู้ดีๆ นี่เอง !?!
พระธนากรเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังรูปงาม เทศกาลบุญกฐินปีนี้รับกิจนิมนต์ยาวเหยียด มีคิวไปเทศนาธรรมทั้งใน จ.อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ได้จตุปัจจัยคิดเป็นเงินหลายพันหลายหมื่นบาท มีแม่ยกคนหนึ่งที่หลงใหลในเสียงและรูปกายลงทุนซื้อรถตู้เก่าจากสำนักงานเกษตรจังหวัดอำนาจเจริญไว้บริการรับส่ง ตามติดไปฟังเทศน์ตามที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด
ต่อมาคืนวันที่ 27 ตุลาคม พระธนากรสั่งให้ "โคบาลกับสอ" เด็กวัดบ้านโคกจักจั่น ขับรถตู้จาก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ไปหานางบุญหอม สารภี อายุ 41 ปี ทายิกาคนสนิท ที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 2 ต.นาหว้า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ หลังจากสืบรู้ว่าระยะหลังทายิกาผู้นี้เริ่มตีตัวออกห่าง เพราะนางบุญหอมกำลังจะมีแฟนใหม่ เมื่อไปถึงบ้านภิกษุสงฆ์ผู้ประพฤตินอกรีตเห็นรถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่หน้า บ้านอย่างผิดสังเกต เลยร้องเรียกให้นางบุญหอมเปิดประตู แต่ไม่มีเสียงตอบรับแม้พระธนากรจะใช้กำลังทุบประตูส่งเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง จนเพื่อนชายของนางบุญหอมตกใจกลัวกระโดดหนีลงไปทางหน้าต่าง ขึ้นรถกระบะขับหนีไป
เมื่อนางบุญหอมยอมเปิดประตูให้เธอก็ถูกพระธนากรต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะลากถูลู่ถูกังขึ้นรถตู้ สั่งให้สองเด็กวัดขับรถไปตามเส้นทางสาย อ.ปทุมราชวงศา เข้าเขต จ.อุบลราชธานี เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ระหว่างทางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถตู้แทบ จะเรียกได้ว่านรกบนดิน เมื่อนางบุญหอมถูกพระธนากรทุบตีอย่างหนัก หากเงียบเสียงลงเมื่อใดเด็กวัดทั้งสองให้การในภายหลังว่า เป็นช่วงที่พระนอกรีตลงมือข่มขืนเหยื่ออย่างทารุณ จนเด็กวัดโคบาลทนดูเหตุการณ์ไม่ไหวต้องขอร้องให้หยุดกระทำชั่ว แต่ก็ถูกตะเพิดกลับอย่างรุนแรงว่าอย่ายุ่ง ให้ทำหน้าที่ขับรถไปอย่างเดียว
สภาพการณ์แห่งความชั่วร้ายดำเนินไปท่ามกลางสายตาของเด็กวัดทั้งสองคน จนท้ายที่สุดก็ทนดูต่อไปอีกไม่ได้ จอดรถห่างจากสี่แยกไฟแดงในเขตเทศบาลตำบลม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ไปประมาณ 500 เมตร แล้วเปิดประตูวิ่งหนีไปปล่อยให้พระธนากรทำหน้าที่ขับรถพานางบุญหอมในสภาพ สะบักสะบอมไปตามถนนชยางกูรมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอำนาจเจริญ
ระหว่างทางมารศาสนาที่อาศัยชายผ้าเหลืองแวะพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 44 ตอนตี 4 ให้นางบุญหอมเข้าไปล้างเลือดในห้องน้ำ ก่อนจะออกเดินทางต่อไปที่วัดบ้านโคกจักจั่นติด ขณะนั้นเหยื่อยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ย่ำแย่อย่างหนักบ่นปวดหัวและร้องขอน้ำดื่ม พอดื่มน้ำไปได้สักพักนางบุญหอมก็สิ้นใจตายคากุฏิวัด
อย่างไรก็ดี พระธนากรได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพระและเด็กวัดรอบข้าง แต่ทุกคนปฏิเสธเนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ผิดทั้งวินัยสงฆ์และผิดกฎหมายอย่างรุนแรง กระทั่งรุ่งสางวันที่ 28 ตุลาคม ชาวบ้านส่วนหนึ่งพบเห็นรถตู้นิ สสัน สีขาว ทะเบียน นข 341 อำนาจเจริญ จอดแน่นิ่งอยู่ข้างศาลาที่พักผู้โดยสารหน้ากองร้อย ตชด.ที่ 222 ถนนชยางกูรอำนาจเจริญ-อุบลราชธานี ห่างจากวัดบ้านโคกจักจั่นไป 500 เมตร ภายในรถมีศพผู้หญิงถูกฆ่าตายอยู่ที่เบาะหน้าข้างคนขับในสภาพเปลือยกายล่อน จ้อน ปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์
เมื่อ พล.ต.ต.กรกต สาริยา ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ ได้รับรายงานทางวิทยุจึงรีบรุดไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ พ.ต.อ.วีระพงษ์ พงษ์พุ่ม ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ และพ.ต.ท.ชัยพจน์ สีม่วง รอง ผกก.นำชุดสืบสวนแกะรอยจากพยานหลัก โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่ในรถเกิดเหตุ และชื่อเจ้าของรถตู้คัน เกิดเหตุ จนรู้ตัวคนร้ายใจอำมหิต คือ พระธนากร มหาวีโร หรือ นายธนากร โล่คำ อายุ 35 ปี พระลูกวัดบ้านโคกจักจั่น ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ หลังจากนั้นก็ได้พยานปากสำคัญ คือ สองเด็กวัดนั่นเอง
"พยานทั้งสองคนเล่าว่าเห็นพระธนากรใช้เหล็กแป๊บเท่าแขนเด็ก ทุบใส่หัวนางบุญหอม 3-4 ครั้งจนเลือดกระเซ็นติดรถ แม้นางบุญหอมจะร้องขอชีวิตก็ไม่เป็นผล คาดไม่ถึงว่าพระจะกระทำกับผู้หญิงได้เช่นนั้น" พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าว
หลังนายธนากรถูกจับสึกและตกเป็นผู้ต้องหาให้การว่า ได้กระทำผิดจริงตามหลักฐาน สาเหตุที่ทำลงไปเพราะความหึงหวง ไม่ต้องการให้นางบุญหอมไปอยู่กินกับชายอื่น โดยนายธนากรยอมรับว่ามีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งมานานแล้ว
สุชาติ สูงเรือง
