กมธ.บี้เปิดโปงบิ๊กร่วม''ราเกซ''ยักยอก

กมธ.บี้เปิดโปงบิ๊กร่วม''ราเกซ''ยักยอก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ปูดชื่อนักการเมือง''พท.''ตั้งชุด ฉก.ลุยพ่อมดการเงินผวาฯ

ราเกซ สักเสนาหวั่นใจถูกผู้ต้องขังในเรือนจำจับตามอง เจ้าหน้าที่จับแยกนอนในห้องพิเศษแดนพยาบาลชั่วคราว ส่ง 2 นักโทษชั้นดีประกบ เผย คืนแรกนอนคุก ราเกซ สดชื่นขึ้น กินมาม่าตอนดึก รุ่งเช้าซดข้าวต้ม-นม เผย เรือนจำให้พัดลมระบายร้อน ไม่เครียดแล้วปรับตัวได้ ไม่ร้องขออะไรพิเศษ ผบ.เรือนจำ ห้ามเด็ดขาด จนท. รับสินบน ส่วน นายกฯ อภิสิทธิ์ ยินดีสั่งลูกพรรคให้ข้อมูลคดี ราเกซ ด้านเพื่อไทย จี้ นายกฯ รักษาคำพูดให้จัดการคนเอี่ยวคดียักยอกเงิน การันตี อดีต กลุ่ม 16 ในซีกเพื่อไทย ไม่มีส่วนเอี่ยว แฉ ตัวการใหญ่มีอักษรย่อ น.-ส. เตรียมชงคดีเข้ากมธ. เล็งส่งหนังสือเรียก กอร์ปศักดิ์ แจงข้อมูลลับ ด้าน ทักษิณ-สมชาย แจม ทีมเฉพาะกิจเพื่อไทย ดึง อดีตขุนคลัง-ผู้ว่าการธปท. คุ้ยเบื้องหลังคดีดัง

ภายหลังจากที่ชุดพนักงานสอบสวนคดียักยอกทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ที่นำโดยพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10) มีการนำตัวนายราเกซ สักเสนา อายุ 57 ปี ชาวอินเดีย เจ้าของฉายา พ่อมดการเงิน ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และไม่ขอรับตัวกลับ ให้ทางศาลนำตัวเข้าไปควบคุมไว้ในเรือนจำ เนื่องจากหลังรับตัวนายราเกซ มาจากประเทศแคนาดาแล้วนั้น พนักงานสอบสวนได้ร่วมกันสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแต่นายราเกซ ให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทำให้นายราเกซ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีสำคัญและหนีการดำเนินคดีในประเทศไทยมานานกว่า 13 ปี ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (ลาดยาว) โดยมีนักโทษชั้นดีคอยประกบเพื่อความปลอดภัยนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายราเกซ ในคืนแรกว่า นายราเกซซึ่งมีอาการป่วยได้พักอยู่ในแดนพยาบาล โดยไม่พบว่ามีปัญหาอะไร โดยเมื่อเช้าได้มีโอกาสไปพบกับนายราเกซ ก็บอกว่านอนหลับสบายดี และมีสีหน้าสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากวันแรกที่ถูกส่งตัวเข้ามา โดยนายราเกซ หลับยาวตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเมื่อเช้าก็สามารถรับประทานอาหารที่เตรียมไว้สำหรับนักโทษคนอื่น ๆ ได้ ตามปกติทั้งข้าวต้มและนม

เมื่อคืนที่ผ่านมานายราเกซ รับประทานมาม่าซึ่งทางเรือนจําก็จัดให้ ส่วนอากาศภายในเรือนจํา ซึ่งร้อนต่างจากประเทศแคนาดา เมื่อคืนทางเรือนจําก็จัดพัดลมให้ 1 ตัว ซึ่งนายราเกซชอบใจมาก ทั้งนี้นายราเกซ ยอมรับว่าวันแรกที่เดินทางมาถึงเมืองไทยต้องอดนอนและรู้สึกเครียด แต่ขณะนี้เริ่มปรับตัวได้แล้วและไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติมเป็นพิเศษ มีเพียงวันแรกที่ถูกนำไปควบคุมตัวที่แดนพยาบาล ซึ่งได้นำไปอยู่รวมกับนักโทษป่วยคนอื่น ๆ แต่นายราเกซบอกว่ารู้สึกไม่สบายใจ เมื่อสังเกตว่าผู้ต้องขังรายอื่นที่รู้ข่าวคดีดังกล่าวของตัวเองแล้วทำให้นายราเกซรู้สึกเหมือนถูกจับตามองตลอดเวลา นายโสภณ กล่าว

รักษาการ ผบ.เรือนจำ เผยต่อว่า ขณะนี้ตนได้ย้ายนายราเกซ มาควบคุมตัวอยู่ที่ห้องแยกขังสำหรับผู้ป่วยโรคติดต่อ ซึ่งมีอยู่ 5 ห้องและขณะนี้มีห้องว่างอยู่ โดยภายในห้องจะมีเตียงสำหรับคนไข้ เนื่องจากนายราเกซเป็นอัมพฤกษ์ และมีห้องน้ำในตัว โดยจะมีนักโทษชั้นดี 2 คนคอยประกบอยู่ตลอด เพื่อรักษาความปลอดภัยเผื่อกรณีอาจมีการคิดสั้น ทั้งนี้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯพยายามเน้นเรื่องการให้ความปลอดภัยอย่างเต็มที่ที่สุด เพราะเข้าใจว่านายราเกซเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญหากเป็นอะไรไประหว่าถูกควบคุมตัวในเรือนจำก็อาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะนายราเกซคือผู้ร้ายข้ามแดนที่ประเทศแคนาดาอนุญาตให้นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เรื่องการให้ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่กำชับมาอย่างดีอยู่แล้ว

นายโสภณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มีการเตรียมแผนกรณีที่อาจต้องนำตัวนายราเกซเดินทางจากเรือนจำไปยังศาลด้วย ส่วนการปฏิบัติตัวของเจ้าหน้าที่ผู้คุมที่เข้าเวรยามดูแลนายราเกซ ย้ำไปแล้วว่าจะต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดห้ามรับสินบนใด ๆ ทั้งสิ้นหากพบจะดำเนินการทางวินัยทันที ส่วนการจัดระเบียบการเข้าเยี่ยมนายราเกซ ในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) ก็คงเป็นไปตามกฎของทางเรือนจําให้เยี่ยมวันละ 2 รอบ เช้า 08.30-14.30 น. อย่างไรก็ตามหากมีปัญหาร้องขอสิ่งใดก็ขอให้ร้องมาได้ที่ตนโดยตรง เช่นเรื่องที่อาจขอไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เรือนจำจะพิจารณาถึงความจำเป็นและมีแพทย์ที่คอยวินิจฉัยความเหมาะสมอยู่แล้ว

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวถึงคดีนายราเกซว่า ในทางกฎหมายคำให้การซัดทอดของจำเลยในชั้นศาล ถือว่ามีน้ำหนักน้อย เว้นแต่มีพยานแวดล้อมอื่นมาสนับสนุนจนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยัง ไม่มีใครรู้ว่านายราเกซ จะให้การอย่างไร สำหรับคดียักยอกทรัพย์บีบีซีนั้น แม้เป็นคดีความผิดตาม พ.ร.บ.แนบท้ายการสอบสวนคดีพิเศษ แต่เป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนดีเอสไอจะก่อตั้งขึ้น คดีที่สอบสวนไว้ทั้งหมดแล้วกว่า 20 สำนวน จึงเป็นอำนาจสอบสวนของตำรวจ เว้นแต่จะมีการพิจารณาเป็นคดีพิเศษ

ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมน ตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 37 และที่ผ่านมาระบบการตรวจสอบก็เปลี่ยนแปลงไปมาก จะเห็นได้ว่าการเกิดวิกฤติทางการเงินที่ผ่านทำให้สถาบันการเงินของเราเข้มแข็งขึ้น แต่การดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และใช้เวลานานมากกว่าจะได้ตัวนายราเกซกลับมา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่ต้องใช้ระยะเวลานานอย่างนี้ทำให้การขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทำได้ยากขึ้น แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

หากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลจากฝ่ายการเมืองผมก็ยินดี โดยเฉพาะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ และยึดประโยชน์ของประเทศ นอกจากนั้นผมยินดีที่จะบอก ส.ส. ทุกคน ที่เคยมีข้อมูลในเรื่องนี้จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ส่วนที่มีคนเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของนายราเกซนั้น เราก็ต้องดูแล นายกรัฐมนตรี กล่าว

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่าคดีของนายราเกซ เกี่ยวโยงกับบุคคลใด ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้นนั้น ตนขอให้นายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาคำพูด และดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้ระบุว่าน่าจะมีบุคคลที่เป็นนักการเมืองในอดีตสังกัดกลุ่ม 16 บางคน ซึ่งดำรงตำแหน่งในรัฐบาลขณะนั้นได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลักฐานต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ตรวจสอบและพิสูจน์ได้ไม่ยาก

นายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมน ตรี สามารถสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องออกมาพูดสร้างภาพ จึงเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ว่าจะกล้าทำตามที่พูดหรือไม่ เพราะบุค่น่าจะเกี่ยวข้องมีส่วนสำคัญที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นข้อพิสูจน์ภาวะความเป็นผู้นำของนายอภิสิทธิ์ด้วย ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดจะหมดความน่าเชื่อถือ ส่วนอดีตสมาชิกกลุ่ม 16 ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ผมมั่นใจว่าไม่มีใครเกี่ยวข้องเพราะได้ตรวจสอบมาแล้ว ตัวละครหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องก็คือนักการเมืองใหญ่อักษรย่อ น และ ส โดยนายราเกซ จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะเปิดเผยข้อมูลของผู้ร่วมขบวนการ จึงขอฝากให้นายอภิสิทธิ์คุ้มครองนายราเกซให้ดี นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการดำเนินคดีกับนายราเกซ ว่า ในการประชุม กมธ. วันที่ 4 พ.ย. นี้ ตนจะนำกรณีของนายราเกซ เข้าหารือในคณะกรรมาธิการฯ เป็นการด่วน เนื่องจากเป็นต้นตอการทำลายระบบโครงสร้างเศรษฐกิจไทย โดยตนจะขอเอกสารคำอภิปรายของฝ่ายค้านในขณะนั้นมาศึกษาข้อมูล รวมถึง กมธ. จะออกหนังสือเชิญให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ในฐานะบุคคลที่เคยเดินทางไปหานายราเกซ เพื่อขอข้อมูลใน เชิงลึก มาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ ด้วย

นายประชา กล่าวว่า ในฐานะที่นายราเกซ ถือเป็นกุญแจดอกเดียวในคดีนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญผู้บัญชาการเรือนจำ มากำชับให้ดูแลความปลอดภัยของนายราเกซ เป็นพิเศษ ตนทราบมาว่าก่อนหน้าที่นายราเกซ จะถูกส่งตัวกลับเมืองไทย ได้มอบข้อมูลลับหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นอีเมล หรือซีดี ให้กับคนระดับสูงเอาไว้แล้ว เพื่อการป้องกันว่าข้อมูลหลักฐานจะหายไปกับเขาเอง

รายงานข่าวระดับสูงของพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า พรรคได้ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมารวบรวมข้อมูลคดีนายราเกซ ที่ได้มาจากบุคคลหลายฝ่ายประกอบด้วย อดีต รมว. คลัง อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อาทิ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช นายโอฬาร ไชยประวัติ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมให้ข้อมูลด้วย เชื่อมโยงบุคคลอื่น ๆ กับนายราเกซ โดยมีการเตรียมจะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย

นายสำราญ รอดเพชร ว่าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ขอให้นายกอร์ปศักดิ์ นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์บีบีซี ที่เคยรับข้อมูลมาจากนายราเกซ เมื่อครั้งที่เคยไปพบกับนายราเกซ เมื่อปี 47 มาเปิดเผยกับพนักงานสอบสวน หรือสื่อมวลชน และขอรัฐบาลให้สั่งการและกำชับในเรื่องการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดให้กับนายราเกซ เพื่อป้องกันการฆ่าตัดตอน ส่วนนายสุริยะใส กตะศิลา ว่าที่เลขาธิการพรรค กล่าวว่า คดีของนาย ราเกซ มีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินจำนวนกว่า 20,000 ล้านบาท รวมทั้งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง จึงอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งสำนวนคดีนี้ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบคดี.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook