''เพื่อไทย''รุกใหญ่

''เพื่อไทย''รุกใหญ่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จิ๋วผุดแคมเปญใหม่ ปชป.โว ศก.กำลังฟื้น

เพื่อไทยหักหน้ารัฐบาลมาร์คเปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ เผยบิ๊กจิ๋วผุดแคมเปญ ไทยร่มเย็น เป็นมิตรเพื่อนบ้าน เย้ยบริหาร 10 เดือนมีศัตรูรอบบ้านแถมใจไม่ถึงไม่กล้าแตะตัวปัญหาอย่าง กษิต ขณะที่ ทักษิณ ได้ฤกษ์ส่งเอสเอ็มเอสบอกอยู่ดูไบสบายดี พร้อมประเดิมเปิดช่อง โอทอปแชลเนล ช่วยเกษตรกรขายสินค้าไปทั่วโลก ขณะที่ ปชป.โวเศรษฐกิจ กำลังฟื้น แต่ยังปากเก่งอัดเสื้อแดงตัวถ่วงความเจริญ ฝ่ายสภาสูงวิ่งขาขวิดแย่งเก้าอี้ประธานกรรมาธิการหลังหมดเวลาที่ตกลงกันไว้ 1 ปีครึ่งตามสัญญาลูกผู้ชาย ด้าน วุฒิสภาฟาดแข้งกับรัฐบาล มาร์ค ตัวจี๊ดกดแฮตทริก ฝ่ายเตรียมทหาร 10 เตรียมร่างแผนงานเสนอพรรค จิรเดช ปัดข่าวยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ลั่นจะทำงานต่อไป

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงถึงกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงว่าพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไม่สมควรเดินทางไปต่างประเทศเพราะจะทำให้เกิดปัญหาว่า อยากถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงการบริหารงานที่ผ่านมา 10 เดือน ในนโยบายด้านความมั่นคงและต่างประเทศมีความล้มเหลวหรือไม่ เพราะความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มความรุนแรงอีกด้วย

สำหรับนโยบายต่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีความสัมพันธ์ย่ำแย่กว่ารัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมา ขาดมิตรมีแต่ศัตรูเพิ่มมากขึ้น เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ ทั้งที่เพื่อนบ้านมีรั้วติดกันมีผลประโยชน์ร่วมกันทางการค้าและการท่องเที่ยวมหาศาลปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่รัฐบาลชุดนี้กลับสร้างปัญหาแบบขาดความรู้และความเข้าใจ รวมทั้งไม่กล้าตัดสินใจปลดนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน

พรรคเพื่อไทยจะแถลงนโยบายด้านความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศภายใต้ชื่อ ไทยร่มเย็น เป็นมิตรเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พ.ย. โดยพล.อ.ชวลิตและคณะผู้บริหารพรรคร่วมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังจะมีการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย นายพร้อมพงศ์กล่าว

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประเดิมส่งเอสเอ็มเอสครั้งแรกทางโทรศัพท์มือถือเพื่อทักทายสมาชิก โดยระบุว่า ดีใจได้คุยกัน ผมอยู่ดูไบสบายดี คิดถึงห่วงใยพี่น้อง ขอบคุณที่ให้กำลังใจ สำหรับการส่งเอสเอ็มเอสดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ในชื่อเครือข่าย Thaksinbiz ที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้สื่อสารกับแฟนคลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พ.ต.ท. ทักษิณได้ประเดิมออกอากาศทีวี 100 ช่องผ่านทาง www.100channelstv.com เป็นครั้งแรกใน 2 ช่องคือ โอแชลเนลหรือช่องสินค้าโอทอป และ clever channel หรือช่องเพื่อการศึกษา ซึ่งเปิดกวดวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์จากติวเตอร์ชื่อดัง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวผ่านโอแชลเนลตอนหนึ่งว่า เมื่รั้งที่ตนเป็นรัฐบาลได้ริเริ่มโครงการโอทอปขึ้นมาเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกร แต่วันนี้โอทอปของเราแย่ลงไปเยอะ เนื่องจากว่าไม่ได้รับการดูแล ตนเลยอยากจะกลับมาฟื้นว่าจะทำอย่างไรให้โอทอปของเรากลับมาผงาดอย่างเดิม จึงตั้งเปิดโอทอปแชลเนลขึ้นมาให้โอทอปไทย ออกไปสู่ตลาดโลก

พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท. 10) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 พ.ย. สมาชิก ตท.10 จะนำเสนอแผนงานด้านต่าง ๆ ต่อที่ประชุมพรรค ซึ่งมีเรื่องของการต้านการรัฐประหารและการปฏิวัติด้วย สำหรับความสัมพันธ์กับ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรอง ผบ.ทบ.ก็เป็นพี่เป็นน้องกันอยู่แล้ว เรามาช่วยเพราะมีอุดมการณ์ตรงกันก็ทำงานด้วยกันได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา

ด้าน พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรอง ผบ.ทบ.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ยื่นใบลาออกยืนยันว่าจะช่วยงานพรรคต่อไป เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นการปล่อยข่าวจากคนในพรรคหรือไม่ พล.อ.จิรเดชกล่าวว่า ไม่ทราบ การทำงานกับพรรคก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ส่วนตัวไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้น จะอยู่ช่วยงานพรรค อย่างที่เคยพูดไว้

นายสุริยะใส กตะศิลา ว่าที่เลขาธิ การพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิตจะเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านว่า ขอให้หยุดเล่นการเมืองที่เอาคนไทยและประเทศเป็นเครื่องมือทางการเมือง วิธีการที่ พล.อ.ชวลิตทำอยู่นี้เป็นการทำร้ายประเทศ ยิ่งมีความคิดว่าจะไปทาบ ทามพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. ให้เดินทางไปด้วย หากจริง พล.อ.สนธิต้องตอบคำถามประชาชนว่า จุดยืนทางการเมืองคืออะไร

นายสำราญ รอดเพชร ว่าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงว่า ต้องการกดดันให้รัฐบาลยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งใหม่ เพราะคาดว่าศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท. ทักษิณในเดือน ม.ค. 53 คนเสื้อแดงจึงต้องทุ่มเททุกอย่างเพราะหวังว่าจะชนะการเลือกตั้ง เพื่อกดดันกระบวนการยุติธรรม ถ้าคนเสื้อแดงรวบรวมผู้สนับสนุนได้ 1 ล้านคนตามเป้า อาจกดดันให้รัฐบาลต้องยุบสภาได้

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 มีแนวโน้มเป็นบวก ยอดขอการส่งเสริมการลงทุนทะลุถึง 4 แสนล้านบาท ในปี 53 คาดว่าจะทะลุถึง 5 แสนล้านบาท การปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเริ่มเป็นบวก คาดว่าตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เดิมคาดว่าในปี 53 จะอยู่ที่ 3-5% จะเพิ่มเป็น 3-5.3% แต่พรรครู้สึกเป็นห่วงในปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อการปรับตัวเศรษฐกิจไม่บรรลุตามเป้าใน 3 ประเด็นคือ 1.การดึงประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นเครื่อง มือ อาจกระทบความสัมพันธ์ 2. การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่ประกาศยืดเยื้อถึงสิ้นเดือน ธ.ค. และ 3. การประกาศใช้สื่อปลุกระดมสร้างความขัดแย้งทางการเมือง

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นป.ประกาศชุมนุม ยืดเยื้อ พร้อมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลและบ้านสี่เสาเทเวศร์นั้น ขอบอกไปยังนายจตุพรว่า อย่าทำตัวเป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ การประกาศโดยไม่มีเหตุผล ถือเป็นความต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจให้กับฝ่ายของตนเองขึ้นมาใช้อำนาจรัฐแทน

ด้านเอแบคโพลได้สำรวจความเห็นของประชาชนใน 27 จังหวัด จำนวน 8,686 คนเรื่อง ความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่ออายุการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่า ความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง 60.6% ควรแก้ไข 39.4% บอกว่าไม่ต้องแก้ไข ส่วนการลงมติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 81.7% บอกว่าควรทำ ขณะที่ 10.4% บอกว่าไม่ควรทำ ส่วนความเชื่อมั่นต่ออายุการทำงานของรัฐบาล 54.3% มั่นใจว่ามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ส่วน 45.7% บอกว่าไม่เกิน 6 เดือน

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์หน้าวุฒิสภามีความเคลื่อนไหวที่จะต้องจับตามองคือ การเลือกตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญของวุฒิสภา จำนวน 22 คณะกันใหม่ เพื่อเสนอชื่อให้ ที่ประชุมวุฒิฯรับทราบ ซึ่งตามวาระที่ตกลงกันไว้คือ 1 ปีครึ่ง อย่างไรก็ตามมีหลายคณะแข่งขันช่วงชิงกันสูง มีการเดินสายล็อบบี้กันเกือบทุกวัน โดยคณะ กมธ.ที่มีการแข่งขันสูง ประกอบด้วย กมธ.พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน กมธ. การกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ กมธ.การศึกษา กมธ.การเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ กมธ. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กมธ. การทหาร กมธ.แรงงานและสวัสดิการสังคม กมธ.การยุติธรรมและการตำรวจ ส่วนคณะที่เหลือประมาณกว่าครึ่งหนึ่งประธานฯยังเป็นคนเดิม

เย็นวันเดียวกันที่สนามฟุตบอลเมืองทองยูไนเต็ด มีการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและวุฒิสภา โดยในส่วนทีมของรัฐบาลนั้นนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในชุดสีฟ้า ขณะที่วุฒิสภานำโดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานรัฐสภา มาในชุดขาว ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่าเสมอกันไป 3 ประตูต่อ 3 ซึ่งในส่วนทีมรัฐบาลนั้นนายกฯเป็นผู้ยิงคนเดียวทั้ง 3 ประตู อย่างไรก็ตามการแข่งขันครั้งนี้นายไบรอัน ร็อบสัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยได้มาชมการแข่งขันครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งชื่นชมนายกฯที่สามารถทำแฮตทริกได้ และหลังการแข่งขันได้มีงานเลี้ยงสังสรรค์ต่อ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook