เร่งสอบจ่อจับเพิ่มมือโพสต์ข่าวลือ

เร่งสอบจ่อจับเพิ่มมือโพสต์ข่าวลือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ให้ประกัน2ผู้ต้องหาดีเอสไอคลี่คดีทุบหุ้น

ล้อมคอกทุบหุ้น รมว.คลัง ออกมาตรการสั่งตลาดหุ้นแจ้งฝ่ายเศรษฐกิจทันที หากพบหุ้นร่วง 4-5% ก่อนแจ้งนักลงทุนลดความเสี่ยง เผย เจาะรายละเอียด 2 มือโพสต์ ถูกจับ มีเอี่ยวซื้อขายหุ้นส่วนใด ให้ศึกษากรณีนี้เป็นบทเรียน ขณะที่ 2 มือโพสต์ ได้ประกันตัว หลังวางหลักทรัพย์ค้ำรายละ 1 แสนบาท แต่ตำรวจเรียกเพิ่ม พงส.เตรียมหลักฐานเล่นงานคนโพสต์อีก ส่วนดีเอสไอร่วมสอบหาปมทุบหุ้น เชื่อ 2 คนเอี่ยวทุบหุ้น-เชื่อมโยงกลุ่มบุคคลอื่น เตรียมสอบสำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศ เร่งสางใน 30 วัน ด้านนายกฯ ย้ำคดีไม่โยงถึงการเมือง ส่วน พนง.เคที ซีมิโก้ ที่ถูกจับ โดนพักงาน 7 วัน ไม่เกี่ยวบริษัทเป็นความผิดบุคคล

จากกรณีตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีกลุ่มบุคคลปล่อยข่าวลือทำให้หุ้นไทยตกต่ำ สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ที่นำโดย พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. ในฐานะรองหัวหน้าฯ นำกำลังเข้าจับกุมนางธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 43 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ย่านถนนวิทยุ และนายคธา ปาจิริยพงษ์ อายุ 37 ปี พนักงานบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ย่านสีลม หลังพบว่าเป็นบุคคลที่นำข้อความไม่เหมาะสมและเสื่อมเสียไปเผยแพร่ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เบื้องต้นนางธีรนันต์ และนายคธายอมรับเป็นผู้เผยแพร่หรือโพสต์ข้อความดังกล่าวจริงแต่ไม่ได้มีส่วนในการทุบหุ้นแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเตรียมขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ อรุณศรีโสภณ ผบก.ปอท. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.ฯ และพนักงานสอบสวน เรียกนางธีรนันต์ และนายคธา มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ให้ประกันตัวไปเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมกับให้ชุดสืบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม เพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการ เบื้องต้นนางธีรนันต์ ให้การยอมรับว่าเป็นคนแปลเอกสารดังกล่าวจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใด ๆ และขณะนี้รู้สึกสำนึกผิดที่การกระทำของตนเองก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย และถูกดำเนินคดี

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้วในวงเงินคนละ 1 แสนบาท โดยเห็นว่ามีพฤติกรรมไม่หลบหนีไม่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จากนี้พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนต่อไป เตรียมจะตรวจสอบคอมพิว เตอร์ที่ยึดมาและหาความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาทั้งสองคนด้วย เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองคน ไม่ได้คุยโทรศัพท์แต่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้นอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ส่วนเว็บไซต์ 2 แห่ง ได้ประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีให้ดำเนินการแล้ว

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดกฎหมายหลายบททั้งความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ ขณะที่การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ดีเอสไอมีอำนาจเข้าไปดำเนินการได้ โดยคดีดังกล่าวจะมีการประสานข้อมูลจากหลายส่วนทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ต้องหา 2 ราย น่าจะเชื่อมโยงกับการเหตุการณ์ทุบหุ้นและบุคคลอื่น ๆ

นายธาริต กล่าวต่อว่า ดีเอสไอจะรวบรวมข้อมูลในการตรวจสอบแหล่งข่าวที่อาจเชื่อมโยงกับการปล่อยข่าวทั้งสำนักข่าวในและต่างประเทศ ซึ่งข้อเท็จจริงชัดเจนก่อนว่าสำนักข่าวนั้น ๆ ได้เผยแพร่ข่าวสารที่เข้าข่ายกระทำความผิดมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าข้ออ้างที่ผู้ต้องหาระบุว่าเป็นเพียงการแปลข่าวเพื่อโพสต์ในอินเทอร์เน็ตนั้นไม่น่าจะเป็นเจตนาเพียงหนึ่งเดียวแต่น่าจะมีเจตนาอื่นแฝงด้วย โดยพนักงานสอบสวนจะให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความผิดให้เสร็จภายใน 30 วันหรือเร็วกว่านั้น

ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ไถง เดินทางมาดูแลการสอบสวน ที่ บก.ปอท. โดยได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องแรงจูงใจในการกระทำ ก็เป็นเรื่องของเหตุผลส่วนตัวของทั้ง 2 คน ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่อย่างไรก็ดีเมื่อช่วง เช้าได้ไปค้นที่บ้าน และที่ทำงานของผู้ต้องหาทั้งสองแล้วพร้อมกับนำเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อมาหาหลักฐานและตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว

ก่อนหน้านี้ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ต้องดำเนินคดีเกี่ยวกับความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่าคนที่ทำการปล่อยข่าวได้รับประโยชน์จากการปั่นหุ้นและยังไม่มีข้อมูลเชื่อมโยงกับทางการเมือง ขณะนี้เป็นเพียงเรื่องของตัวบุคคลที่เข้าไปใช้เผยแพร่ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น นายอภิสิทธิ์กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ แนวโน้ม ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่จัดโดยบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่นายคธาทำงาน อยู่ โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายคธาเป็นเจ้าหน้าที่ด้านมาร์เกตติ้งและเป็นคนที่เล่นเว็บไซต์ เมื่อถามว่าทางบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการปล่อยข่าวลือด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทางบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเป็น เรื่องตัวบุคคล ส่วนกรณีของนางธีรนันต์ได้ลาออกจากบริษัทหลักทรัพย์ ดังกล่าวไปนานแล้ว

นายเชาว์ อรัญวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด กล่าวว่า พนักงานที่ถูกจับเป็นฝ่ายการตลาดไม่มีสิทธิซื้อขายหุ้น การถูกจับกุมถือเป็นการกระทำส่วนตัว โดยบริษัทได้สั่งพักงาน 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อมูลภายใน เบื้องต้นพบผู้กระทำผิดเพียง 1 ราย อย่างไรก็ตามบริษัทมีระเบียบและนโยบายที่เข้มงวดในการไม่ให้พนักงานปล่อยข่าวลือหรือส่งต่อโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ไม่สนับสนุนการกระทำที่ผิดต่อกฎเกณฑ์ของ ตลท. และก.ล.ต. และเมื่อบริษัททราบเรื่องก็ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านข้อมูล การสืบ สวนและการดำเนินคดีความเป็นอย่างดี

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บล.เคที กล่าวว่า เรื่องทั้งหมด บล.เคที ซีมิโก้ ต้องเป็นผู้ชี้แจง แต่ส่วนตัวได้ให้นโยบายชัดเจนแล้วว่า ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่ต้องการให้เกิดเรื่องขึ้น และขณะนี้ยังไม่พบผลกระทบทั้งทางตรงและจิตวิทยากับทางธนาคาร

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้หารือร่วมกับ ตลท. และ ก.ล.ต. เพื่อทบทวนความเสียหายที่เกิดขึ้นในตลาดหลัก ทรัพย์จากข่าวลือเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พร้อมหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ตลท. เป็นหน่วยงานหลัก เพื่อชี้แจงข้อมูลต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที ทั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาธิการ ก.ล.ต. และ รมว.คลัง หากพบข่าวประเภทใดก็ตามที่ทำให้ดัชนี่ยนแปลง 4-5% จากนั้นจะนำข้อเท็จจริงมาแยกแยะเพื่อชี้แจงต่อสาธารณชน นักลงทุน และประชาชนเพื่อช่วยลดปัญหาการตื่นตระหนก ส่วนมาตรการหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราว (เซอร์กิต เบรกเกอร์) คงไว้ที่ระดับเดิมคือ ปรับลง 10%

รมว.คลัง เผยต่อว่า ส่วนการสอบ สวนที่มาของข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้นพบว่ามีกลุ่มนักลงทุนไม่กี่รายที่ได้ประโยชน์ แต่ยังไม่มีนัยสำคัญ โดยดีเอสไอได้รับข้อมูลจากตลท.และ ก.ล.ต. เพื่อนำไปขยายผลเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ได้รับประโยชน์ดังกล่าวมีส่วนต่อการเผยแพร่ข่าวลือหรือไม่อย่างไร ส่วนกรณีตำรวจจับกุมผู้ที่เผยแพร่ข่าวลือนั้น ก.ล.ต. และตลท.ได้ตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายหุ้นไม่พบความผิดปกติ แต่ได้มอบหมายให้ ตรวจสอบบุคคลที่ใกล้ชิดบุคคลที่ถูกจับกุมทั้ง 2 รายว่ามีการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวโยงกับการเผยแพร่ข่าวลืออย่างไร ซึ่งตนไม่เห็นข้อความแต่เป็นบทเรียนต่ออนาคตให้ทุกคนรับผิดชอบต่อการกระทำ ใด ๆ ที่กระทบความมั่นคง

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบบัญชีต่างประเทศที่มีปริมาณซื้อขายหุ้นผิดปกติในช่วงก่อนและหลังหุ้นผันผวน ก.ล.ต. รายงานว่าเป็นกองทุน เช่นเดียวกับกรณีที่นักลงทุนในประเทศที่มีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน ซึ่งดีเอสไอกำลังตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ปล่อยข่าวลือหรือไม่

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิ การ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่ง ให้รายงานข้อมูลการซื้อขายหุ้นในบัญชีผู้ต้องหาทั้ง 2 รายรวม ถึงบัญชีบุคคลที่ใช้นามสกุลเดียวกับบุคคลทั้ง 2 บัญชี บุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ และเทปคำสั่งการซื้อขายหุ้น เพื่อตรวจสอบว่าผู้ต้องหาทั้งสองซื้อขายหุ้น และได้ประโยชน์จากข่าวลือหรือไม่ แต่ทั้งนี้เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองรายยังไม่พบความเกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติในบัญชีการซื้อขายจากต่างประเทศ

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมผู้บังคับ หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกประจำเดือน พ.ย.ว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้มอบ นโยบายการทำงาน และข้อห่วงใยในภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพบกโดยเน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยสร้างความเข้าใจต่อกำลังพลและครอบ ครัว รวมถึงให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วนของกองทัพบกใน 4 เรื่องคือ การปกป้องสถาบัน การแก้ไขปัญหายาเสพติด การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และการช่วยเหลือประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่ตำรวจได้มีการจับ กุมผู้ปล่อยข่าวลือ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว ว่า เรื่องนี้แยกเป็น 2 ประเด็น 1.เรื่องการจาบจ้วงสถาบัน หรือการกระทำที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันนั้น ในส่วนกองทัพบกได้ดำเนินการ โดยให้หน่วยในพื้นที่มีการตรวจสอบการกระทำต่าง ๆ ที่หมิ่นเหม่และจาบจ้วง 2.เรื่องข่าวลือ ผบ.ทบ.ได้ให้ผู้บังคับหน่วยได้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับกำลังพลถึงข่าวลือที่ออกมาเป็นระยะ ทำให้กำลังพลมีความมั่นใจ และไม่ทำให้ข่าวลือสร้างผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook