รฟท-แจงอุปกรณ์โทรมขอซ่อม2พันล้านได้400ล้าน

รฟท-แจงอุปกรณ์โทรมขอซ่อม2พันล้านได้400ล้าน

รฟท-แจงอุปกรณ์โทรมขอซ่อม2พันล้านได้400ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้ว่ารฟท.แจงอนุสิทธิฯอุปกรณ์เก่าขอ2พันล้านได้400ล้าน รับดูอุทธรณ์พนง.6คน คาดม.ค.ซ่อมไม่เต็มร้อย นิรันดร์ ตรวจดูคำสั่งไล่ออก-หัวจักร

คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิการเมือง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) มี น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณากรณีสหภาพแรงงานการรถไฟ ยื่นร้องให้ตรวจสอบการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า ขัดขวางการใช้สิทธิในการตรวจสอบของสหภาพฯหรือไม่

โดยในวันนี้ได้เชิญผู้บริหารการรถไฟฯเข้าชี้แจง ประกอบด้วย นายประจักษ์ มโนธัม รองผู้ว่าการการรถไฟฯ และนายวิฑูรย์ สรรเสริญ หัวหน้าสำนักงานอาณาบาล นายสิทธิพงษ์ พรมลา รองวิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกลด้านลากเลื่อน รวมทั้งเชิญตัวแทนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) ประกอบด้วย นายภิญโญ เรือนเพชร รองประธานสหภาพฯ และวิรุฬห์ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพฯ หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ถูกไล่ออก

นายประจักษ์ ระบุถึงเหตุผลในการไล่พนักงานออกว่า เนื่องมาจากการหยุดงาน การยึดหัวรถจักร และขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แม้ว่าสหภาพจะระบุว่าไม่ได้ยึดหัวรถจักร แต่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยไม่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์นั้น แต่จากการตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยไม่ได้เปิดใช้แต่ต้น อย่างไรก็ตามทางฝ่ายบริหารก็ยอมรับว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยก็มีการชำรุดบ้าง เนื่องจากมีการใช้งานมานานตั้งแต่ปี 2524 แต่ทั้งนี้ความปลอดภัยก็ไม่ได้ขึ้นกับอุปกรณ์ทั้งหมด แต่ต้องเกี่ยวกับความพร้อมของพนักงานขับรถด้วย อย่างไรก็ตาม พนักงานที่ถูกไล่ออกทั้ง 6 คนซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์ไว้ทางการรถไฟจะนำกลับพิจารณาอีกครั้ง

นายประจักษ์ กล่าวว่า ในการจัดซื้ออุปกรณ์ซ่อมแซมนั้น ก็คงต้องใช้เวลาและอาจส่งผลถึงการซ่อมบำรุงประกอบกับยังมีปัญหาเรื่องงบประมาณ โดยเบื้องต้นการรถไฟของบประมาณในการซ่อมบำรุงไปจำนวน 2,000 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติเพียง 400 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ก็ต้องนำไปใช้ในการปรับปรุงรางรถไฟด้วยและทำให้ไม่เพียงพอในการนำมาดำเนินการ และหลังจากนี้การรถไฟฯจะดำเนินการเร่งซ่อมแซมหัวจักรให้สมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าอาจจะเสร็จสิ้นในราวเดือน ม.ค.2553 แต่อาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

ขณะที่ นายสาโรจน์ สุขแสวง พนักงานขับรถซึ่งมาชี้แจงร่วมกับการรถไฟระบุว่า อุปกรณ์ Deadman นั้น แม้จะมีความสำคัญ แต่หากชำรุดก็ยังสามารถเดินรถได้ตามปกติ ที่ผ่านมาก็มีการเดินรถโดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ดังกล่าว และไม่เกิดปัญหาใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชี้แจงมีเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ซึ่งมาร่วมกับฝั่งผู้บริหารระบุว่า อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งถูกสหภาพฯข่มขู่ให้ลาป่วย เป็นเวลา 2 วัน โดยใช้สิทธิตามกฎระเบียบ ที่สามารถทำได้ และยังมีสหภาพฯบางคนขับรถจักรยานยนต์ไปขู่ถึงบ้านทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าออกมาปฏิบัติงาน บางครั้งแม้หัวรถจักรจะสมบูรณ์แต่ก็มีคนมาถอดอุปกรณ์ให้รถชำรุดและไม่สามารถนำรถออกให้บริการได้ เมื่อถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่สหภาพฯ ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ผู้ที่มาชี้แจงในวันนี้ทั้งหมดเป็นสหภาพจากหาดใหญ่จึงไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ การซ่อมบำรุงหัวรถจักรจะเสร็จในต้นเดือนมกราคม นายภิญโญ กล่าวว่า เป็นไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ขั้นตอนการซื้ออุปกรณ์อาจจะมีปัญหาและเกิดความล่าช้า โดยอาจมีเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการซื้ออุปกรณ์ส่อไปในทางทุจริต ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง


ประธานอนุกก.ระบุจะตรวจสอบคำสั่งไล่ออก-หัวรถจักร

น.พ.นิรันดร์ กล่าวว่า ต่อเรื่องนี้คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีเหตุผลที่จะยึดหลักสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนั้น จึงต้องดูปัญหาที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าฝ่ายบริหารต้องดูแลหัวรถจักรที่ชำรุดให้ดีขึ้นเพราะถือเป็นเรื่องความปลอดภัยและเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในหลายครั้งที่ผ่านมา และวิธีการแก้ปัญหาคือการแก้โดยสันติวิธี เช่นการมานั่งคุยและทำบันทึกข้อตกลง อย่างที่หาดใหญ่ที่นำผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจและทหาร ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจา ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีความพยายามจะทำให้เกิดการแตกหักโดยประชาชนต้องเป็นผู้รับเคราะห์

"หลังจากนี้ กรรมการสิทธิฯ จะมาตรวจสอบว่าคำสั่งไล่พนักงานออกเป็นการแก้ไขที่ถูกต้องหรือไม่ โดยต้องการให้การรถไฟส่งข้อมูลและเหตุผลการไล่ออก และผลการสรุปอุบัติเหตุในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมารวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์การซ่อมบำรุง และหลังจากนี้ กรรมการสิทธิฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบว่าหัวรถจักรมีความเสียหายเท่าไหร่ และจากข้อมูลเบื้องต้นทราบมาว่าเสียหายประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์" ประธานอนุกรรมการฯ ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook