ไอเอ็มเอฟขายทองคำให้อินเดีย

ไอเอ็มเอฟขายทองคำให้อินเดีย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เตือนฮ่องกงที่อยู่ราคาพุ่งสูง

ไอเอ็มเอฟขายทองคำให้กับธนาคารกลางอินเดียเพื่อระดมเงินทุนไปพยุงฐานะการเงินและปล่อยกู้ให้ชาติยากจน ขณะเดียวกัน ก็เตือนฮ่องกงจะเผชิญหน้ากับราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เริ่มทยอยขายทองคำมากกว่า 400 ตัน โดยระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะขายทองคำเกือบครึ่งหนึ่งให้แก่อินเดีย ประเทศผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกในราคาลดพิเศษ ไอเอ็มเอฟ ประกาศขายทองคำจำนวน 200 ตัน มูลค่า 6,700 ล้านดอลลาร์ให้แก่ธนาคารกลางของอินเดียตลอดช่วง 2 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 19-30 ต.ค. ซึ่งไอเอ็มเอฟจะนำเงินจากการขายทองคำดังกล่าวไปพยุงฐานะทางการเงินของไอเอ็มเอฟ และจะทำให้สถาบันการเงินแห่งนี้มีเงินไปสนับสนุนประเทศยากจนที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มได้ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลก

การขายทองคำให้อินเดียในครั้งนี้ เป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของทองคำ 403.3 ตัน ที่ไอเอ็มเอฟตั้งเป้าจะขายให้หมดภายในไม่กี่ปีข้างหน้า และมีขึ้นในขณะที่ ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไอเอ็มเอฟระบุว่า การขายทองคำในแต่ละวันจะอิงราคาตามพื้นฐานของราคาจริงในตลาด นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า เขาเห็นด้วยอย่างยิ่งในการขายทองคำจำนวนนี้ให้แก่ธนาคารกลางอินเดีย เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้เป้าหมายของโครงการขายทองคำในขอบเขตจำกัดของไอเอ็มเอฟประสบความสำเร็จ ซึ่งจะสามารถนำไปใช้เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของไอเอ็มเอฟในระยะยาว และทำให้ไอเอ็มเอฟสามารถปล่อยกู้ให้ประเทศยากจนได้ตามที่ต้องการด้วย

ปัจจุบันนี้ ไอเอ็มเอฟมีทองคำอยู่ 3,217 ตัน มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและเยอรมนี ส่วนอินเดียก็เป็นประเทศผู้บริโภคทองคำใหญ่ที่สุดของโลก นำเข้าทองคำระหว่าง 700-800 ตัน เป็นประจำทุกปี หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของความต้องการทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟ แถลงเมื่อวันอังคารว่า ฮ่องกงจะเผชิญหน้ากับราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และเห็นด้วยกับแผนการของรัฐบาลในการผ่อนคลายความร้อนแรงในตลาด โดยคำเตือนของไอเอ็มเอฟ มีขึ้น ขณะที่ ราคาอสังหาริมทรัพย์อย่างหรูในฮ่องกง เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 40 ตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ทะยานขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนจากผู้ซื้อชาวจีนแผ่นดินใหญ่ พุ่งสูงขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อแฟลตหรูแห่งหนึ่งถูกขายไปในราคา 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าแพงที่สุดในโลก คิดเป็น 11,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุต.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook