ผู้ประกอบการอสังหาฯฟันธงดีมานด์คอนโดแนวรถไฟฟ้าสดใส

วงการอสังหาฯ ฟันธงดีมานด์คอนโดแนวรถไฟฟ้าสดใส เอเจนซี่ฯแจงช่วง 10ปีที่ผ่านมา ราคาขยับเพิ่ม1-2เท่าตัว ระบุมูลค่าที่ดินรอบ 41 สถานี 4.04แสนล้าน

ฝ่ายสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ธนาคารเกียรตินาคิน จัดสัมมนาเรื่อง "ทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยกับแนวรถไฟฟ้าใหม่ และส่วนต่อขยาย" โดยมีนักวิชาการและผู้ประกอบการ รวมถึงตัวแทนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) โดยสรุปเห็นพ้องกันว่า ที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้ายังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ในขณะเดียวกันราคาที่ดินก็ขยับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเป็นกว่าเท่าตัว

นายโสภณ พรโชคชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียล เอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาที่ดินบริเวณรถไฟฟ้า ในรอบ 10 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2542-2552 เพิ่มขึ้น 1-2 เท่าตัว เช่น ที่ดินติดรถไฟฟ้า บริเวณห้วยขวางเพิ่มขึ้นเป็น 200% ขณะที่ที่ดินในบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่ติดรถไฟฟ้า เช่น ย่านโชคชัย 4 ราคาขยับเพิ่ม 139% เป็นต้น

ทั้งนี้ หากรวมมูลค่าของที่ดินที่อยู่รอบสถานีทั้งใต้ดินบนดินรวม 41 สถานี คาดว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินได้เพิ่มขึ้นมากถึง 404,105 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าค่อนข้างมาก ดังนั้น การมีรถไฟฟ้าจึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และในขณะเดียวกันการขยายตัวของเมืองก็จะออกสู่รอบนอกมากขึ้น

ด้าน นายอธิป พีชานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการลงทุนนั้นเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าลงทุนในช่วงไหนถึงจะเหมาะสมและได้ ประโยชน์สูงสุด แต่ส่วนตัวเห็นว่าการลงทุนในแต่ละครั้งนั้นผู้ประกอบการต้องสำรวจความพร้อม ของตนเองในทุกๆ ด้าน ทั้งเงินทุน ทีมงาน และแบรนด์สินค้า แต่อย่างไรก็ดี ส่วนตัวมั่นใจว่าคอนโดมิเนียมยังมีดีมานด์ แต่ต้องขึ้นอยู่กับทำเลและขีดความสามารถของผู้ประกอบการรายนั้นๆ รวมถึงแหล่งเงินทุนที่สนับสนุนจากสถาบันการเงิน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีหลักการพิจารณาในการปล่อยกู้ที่เข้มขึ้น