ผู้โดยสารซึ้งใจ ขอบคุณแท็กซี่ รู้ว่าเสี่ยงโควิดยังเต็มใจรับไป รพ. พูดให้กำลังใจตลอดทาง

ผู้โดยสารซึ้งใจ ขอบคุณแท็กซี่ รู้ว่าเสี่ยงโควิดยังเต็มใจรับไป รพ. พูดให้กำลังใจตลอดทาง

ผู้โดยสารซึ้งใจ ขอบคุณแท็กซี่ รู้ว่าเสี่ยงโควิดยังเต็มใจรับไป รพ. พูดให้กำลังใจตลอดทาง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้โดยสารซึ้งใจขอบคุณแท็กซี่ผ่าน จส.100 รู้ว่าเสี่ยงโควิดยังเต็มใจพาไปส่ง รพ. พร้อมปลอบไม่ให้เครียด บอกเป็นแล้วก็หายได้

ตามที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @kumakephed เมนชั่นถึง JS100 อยากขอบคุณผู้ขับแท็กซี่คันหนึ่ง หลังเรียกรถแท็กซี่หลายคันไปโรงพยาบาลแล้วไม่มีใครรับ แต่แท็กซี่คันดังกล่าวเต็มใจจะไปส่ง ทั้งที่รู้ว่าตนอาจเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งตลอดเส้นทาง ยังได้ปลอบและให้กำลังใจมาตลอดทางว่าไม่ต้องกลัว ติดเชื้อแล้วก็รักษาหายได้

JS100 ได้พูดคุยกับคุณแพร เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้(18 ก.ย.64)ว่า "ตอนนั้นหนูเครียดมาก พอดีพี่ที่ทำงานติดเชื้อโควิด หนูเลยตรวจ ATK ผลปรากฏว่า 2 ขีด มีความเสี่ยงว่าอาจพบเชื้อ จึงเก็บข้าวของและเตรียมไปตรวจยืนยันให้แน่ชัด เพราะอาจต้องไปนอน Hospitel โดยเรียกรถแท็กซี่จากแถวจอมทอง ไปที่รพ.เพชรเวช ด้วยความกังวลที่ไม่อยากนำเชื้อไปแพร่ต่อให้ใคร จึงใส่มาสก์หลายชั้น ฉีดแอลกอฮอล์ทุกจุดที่ตนเองจำเป็นต้องสัมผัส และบอกแท็กซี่ไปตามตรงว่าตนเองอาจมีความเสี่ยง ทำให้ไม่มีแท็กซี่คันไหนรับ

"จนมาถึงคันที่ 4 คนขับแท็กซี่บอกให้ขึ้นมาเลย ไม่ต้องกังวล แต่ขอเปิดหน้าต่างไปตลอดทาง ยอมรับว่าตอนนั้นสติแตกมาก ซึ่งเขาคงสังเกตว่าหนูกังวล จึงชวนหนูคุยและปลอบว่าไม่ต้องกลัว เขาก็เคยติดเชื้อและรักษาหายแล้ว และให้กำลังใจขอให้ผลตรวจยืนยันไม่ติด"



"ซึ่งต่อมาหลังจากเข้ารับการตรวจมาตรฐานด้วยวิธี RT-PCR ที่ รพ.เพชรเวช ยืนยันไม่พบเชื้อ จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด เป็นเพราะเพิ่งได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ามาเมื่อวันศุกร์(17 ก.ย.64) อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ 14 วัน ยังคงต้องไปตรวจซ้ำอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นหนูอยากบอกน้าคนขับแท็กซี่ให้เขาสบายใจด้วยว่าหนูตรวจแล้วไม่พบ และอยากขอบคุณเขาอีกครั้ง" คุณแพรเล่าเหตุการณ์

ต่อมา JS100 ติดต่อไปยังกรมการขนส่งทางบก ให้ช่วยตรวจสอบตามบัตรประจำตัวผู้ขับแท็กซี่ ทราบชื่อคือ นายวงดาว หอมรื่น ขับแท็กซี่ สีเขียวเหลือง 1มก-1947 กทม. และประสานงานตามภูมิลำเนาให้ช่วยติดต่อจนได้พูดคุยกัน นายวงดาว เล่าว่า "ตอนนั้นสังเกตจากแววตาน้องเขารู้เลยว่าเครียดมากๆ ผมกลัวว่าน้องเขาจะคิดสั้น เลยชวนคุยและออกตัวเลยว่าตัวผมและครอบครัว 5 คน ก็เคยติดเชื้อ แต่ก็รักษาหายแล้ว ถ้าครอบครัวผมหายได้ น้องก็ต้องหายได้ถ้าติดเชื้อขึ้นมาจริงๆ มันก็เหมือนไข้หวัดนั่นแหละ ไม่มีอะไรต้องรังเกียจกัน อย่าเครียดไปเลย ก่อนลงรถผมก็อวยพรให้น้องขอให้ผลเป็นลบนะ"

"ตอนนั้นรู้สึกเคว้งคว้างมาก คิดวนเวียนในหัวตลอดว่าถ้าติดแล้วจะเป็นยังไงต่อ ไม่มีใครอยู่ข้างๆเลย มีเพียงคุณน้าที่ขับแท็กซี่คอยปลอบ เป็นกำลังใจจากคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน น้ำตาซึมทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ขอบคุณคุณวงดาวมากจริงๆค่ะ" คุณแพรกล่าวขอบคุณ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook