บิ๊กตุ๊ด ยันตั้ง นครปัตตานี ขัดรธน.ไทย

บิ๊กตุ๊ด ยันตั้ง นครปัตตานี ขัดรธน.ไทย

บิ๊กตุ๊ด ยันตั้ง นครปัตตานี ขัดรธน.ไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บิ๊กตุ๊ด ยันตั้ง "นครปัตตานี" ขัดรธน.ไทย แบ่งแยกไม่ได้ จวก "บิ๊กจิ๋ว" เอาแผนข้าศึกมาเสนอ หวังผลประโยชน์การเมือง หยันรัฐทุ่มงบมหาศาล แต่ดับไฟใต้ไม่ได้ผล

(7พ.ย.) พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงษ์ อดีตที่ปรึกษานายกฯด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พรางทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เสนอแนวคิดให้ตั้งนครรัฐปัตตานีว่า เรื่องนครรัฐปัตตานี เรารับทราบมาตั้งแต่ปี 2546 แล้ว เพราะหลักฐานที่เรายึดได้จากฝ่ายตรงข้ามชี้ชัดว่า เขามีแผนนี้มานานแล้ว โดยมีการแบ่งเป็น 3 เขตเรียบร้อย คือ 1.เขตตะวันออกแถวนราธิวาส แบ่งด้วยแม่น้ำสายบุรี 2.เขตกลางคือ ปัตตานี และ 3.เขตตะวันตกใช้แนวภูมิประเทศมาทาง จ.สงขลา และ จ.สตูล ซึ่งแนวความคิดแรกเริ่มตั้งแต่ปี 90 การต่อสู้ขององค์กรภูมิภาคต่างๆ ของปัตตานีมีอย่างเดียวคือ ต่อสู้เพื่อแยกดินแดน และจัดตั้งรัฐปัตตานี

" เรื่องที่พูดเป็นการนำแผนของกลุ่มต่อสู้มาเสนอเขา ไม่ใช่แผนเรา เพื่อให้เห็นว่า หากเขาเป็นรัฐบาล หรือเป็นคนตกลงใจในเรื่องนี้จะเอาเรื่องนี้มาคุย ซึ่งอาจจะเป็นการลองหยั่งเสียงเขาดู ซึ่งคนเสนอถนัดวิธีนี้ตั้งแต่สมัยรบกับคอมมิวนิสต์ คือ ชอบเอาแผนข้าศึกมาเสนอ แต่ไม่ว่า คุยอย่างไรก็ทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไทยเป็นเอกรัฐ จึงแบ่งแยกดินแดนไม่ได้ ไม่เหมือนต่างประเทศที่มีเกาะมาก ต้องตั้งเป็นรัฐปกครองพิเศษ แต่ประวัติศาสตร์ดั้งเดิมไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาโดยตลอด ดังนั้นความจริงในทางปฏิบัติทำไม่ได้ เพราะเรามี 3 จังหวัดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เรื่องนี้ต้องคิดให้ดี อย่าเอาประโยชน์ตัวเอง ประโยชน์พรรคการเมืองมา เพื่อเอาไปหลอกทุกฝ่าย เพราะแนวความคิดที่เสนอเพื่อต้องการแย่งชิงความได้เปรียบจากรัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นเรื่องของประชานิยม " พล.อ.วัธนชัย กล่าว

พล.อ.วัธนชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ในเขตปกครองที่เรายึดเอกสารได้ เรามีชื่อคนที่จะมาดำรงตำแหน่งต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทั้งผู้อำนวยเขต ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทางทหารรู้กันมานานแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ เพราะจะถูกฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งการที่รัฐทุ่มงบจำนวนมาก แต่ไม่ได้ผลเลย เพราะไม่ได้เข้าเรื่องความมั่นคง ทำให้ไม่จบ และต้องยอมรับสถานการณ์ขณะนี้ดึงต่างชาติเข้ามาทั้งหมด ทั้งโอไอซี ยูเอ็น แต่เรายืนหยัดมาตลอด ปราบโดยใช้ความเป็นธรรม ไม่ใช้ความรุนแรงมากทางกลุ่มต่อสู้มีการปรับแผนใหม่ตลอด และตั้งแต่กลุ่มเจไอเข้ามา จะมีการรบที่รุนแรง ฆ่าคนต่างศาสนา ฆ่าครู และเด็ก และเท่าที่ทราบเขาจะปรับแผนใหม่เพื่อรับยูเอ็นให้เข้ามาจัดการ

" ตั้งแต่สมัยรัสเซียล่มสลาย สมัยอัฟกานิสถาน ในซาอุดิอาระเบียจะมีกลุ่มวาฮาบี้ เป็นกลุ่มศาสนาที่ต้องการความบริสุทธิ์ของศาสนาอิสลามกับสายนักรบ ซึ่งกลุ่มอัลกออิดะห์นำไปใช้ และสายนักรบที่มาจากทางทิศตะวันออกของเอเชียเรียกว่า เจไอ โดยเข้ามาทางฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งเพิ่งเข้ามาเร็วๆนี้เมื่อปี 46-47 โดยเขาจะใช้เด็กในการรบ ซึ่งเป็นการรบแบบใหม่เรียกว่า กองโจรในเมือง โดยมีครูมาฝึก ทำให้เราตั้งตัวไม่ทัน และยุคสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เราเอาทหารออก เอาตำรวจเข้ามา ทำให้เละไปหมด ซึ่งการแก้ไขปัญหาภาคใต้ไม่มีเอกภาพ รบยังไงก็ไม่มีทางชนะ " พล.อ.วัธนชัย กล่าว

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินเกมนี้ พล.อ.วัธนชัย กล่าวว่า ตนไม่ต้องวิจารณ์ ขอให้มองกลับไปในสมัยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เคยโจมตีเขาเรื่องแนวคิดสภาเปรซิเดี้ยม และจนถึงทุกวันนี้ยังอยู่ในแนวคิดของเขาตลอด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook