อนุทิน ย้ำ! วัคซีนไฟเซอร์บริจาคจากสหรัฐ 1 ล้านโดส อยู่ที่ความพร้อมของประเทศต้นทาง

อนุทิน ย้ำ! วัคซีนไฟเซอร์บริจาคจากสหรัฐ 1 ล้านโดส อยู่ที่ความพร้อมของประเทศต้นทาง

อนุทิน ย้ำ! วัคซีนไฟเซอร์บริจาคจากสหรัฐ 1 ล้านโดส อยู่ที่ความพร้อมของประเทศต้นทาง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"อนุทิน" แจงวัคซีนไฟเซอร์บริจาค 1 ล้านโดสจากสหรัฐอเมริกาอยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารจากต้นทาง ยืนยันไม่ล่าช้า หากเอกสารมาถึงดำเนินการแล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์

วันนี้ (27 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีสหรัฐอเมริกาจะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 1 ล้านโดสให้ประเทศไทย ว่า สถานทูตสหรัฐอเมริกาได้ออกแถลงการณ์ว่าอยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสาร รวมถึงแถลงการณ์จากเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันระบุอย่างชัดเจนว่ายังไม่ได้รับบริจาค ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ที่รัฐบาลไทยจะได้รับจากสหรัฐอเมริกามีทั้งหมด 2.5 ล้านโดส มาถึงแล้ว 1.5 ล้านโดส ส่วนอีก 1 ล้านโดสเป็นเจตจำนงที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะมอบให้ซึ่งยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ขอยืนยันว่าวัคซีนที่ได้รับบริจาคถือเป็นการเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า เราจะได้รับวัคซีนบริจาคเมื่อทางสหรัฐอเมริกามีความพร้อมซึ่งเป็นสิทธิของประเทศต้นทางที่จะบริจาค ไม่สามารถไปทวงได้ ยืนยันว่าหากส่งเอกสารมาเราไม่มีทางล่าช้าแน่นอน เช่นที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้บริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 4 แสนกว่าโดสให้ไทยใช้เวลาติดต่อไม่เกิน 2 สัปดาห์ วัคซีนล็อตดังกล่าวได้ถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม วัคซีนล็อตที่ได้รับการบริจาคจะต้องมีการละเว้นการเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ เช่น อาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล

นอกจากนี้ รองนายกฯ และ รมว.สธ. ยังให้สัมภาษณ์กรณีการจับกุมผู้ต้องหาทุจริตการจองคิวรับวัคซีนโควิดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจรถไฟ ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเรียกรับผลประโยชน์จากการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งรัฐบาลขอยืนยันว่าการให้บริการฉีดวัคซีนเป็นภาระและหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการให้กับประชาชนคนไทยทุกคนรวมถึงชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศ ขอประชาสัมพันธ์ว่าวัคซีนโควิด 19 เป็นวัคซีนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าฉีด ค่าอุปกรณ์ หรือการดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์ ทุกอย่างเป็นค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลรับผิดชอบทั้งสิ้น

ขอให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นบทเรียน หากเข้ารับบริการฉีดวัคซีนของภาครัฐแล้วถูกเรียกร้องใดๆ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฉีดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดหรือเอาเปรียบประชาชน

“ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประสานการทำงานใกล้ชิดกับกรมการแพทย์เร่งรัดจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ขอให้ความมั่นใจว่าจะไม่ยกเว้นการกระทำผิดและจะดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป” นายอนุทิน ระบุ

อ่านข่าวตำรวจรถไฟ บุกรวบ 2 หัวโจกแก๊งทุจริตลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด เร่งล่าอีก 5 ร่วมขบวนการ

ทั้งนี้ พบผู้กระทำผิดจากการทุจริตลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวน 7 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่เข้ามาช่วยงานรับลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด 19 ส่วนเรื่องคดีได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ประชาชนไปแล้วกว่า 50 ล้านโดส และขอเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ทั้งเข็มที่ 1, 2 และ 3 ตามที่ได้นัดหมายไว้ หากพื้นที่ใดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขอให้โรงพยาบาลบริหารจัดการการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เช่น การออกให้บริการนอกสถานที่ เป็นต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook