เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ผีแดง 1-0

เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ผีแดง 1-0

เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ผีแดง 1-0
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เฟอร์กี้ เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน โทษผู้ตัดสินไม่ทันเกม ทำ ปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ออกไปพ่าย สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี 0-1 ในพรีเมียร์ลีก นัด ซูเปอร์ซันเดย์ ด้วยลูกโขกฟรีคิกของ เจที จอห์น เทอร์รี และทำให้ เชลซี ทิ้งห่างออกไปแล้ว 5 แต้ม

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "ซูเปอร์ซันเดย์" คืนวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่า เชลซี จ่าฝูง เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 1-0 ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง จาก จอห์น เทอร์รี เซ็นเตอร์แบ็กกัปตันทีม นาที 76 ซึ่งเติมเกมขึ้นมาโขกลูกโยนฟรีคิกของ แฟรงค์ แลมพาร์ด กองกลางตัวเก่ง ทำให้ "ปีศาจแดง" เสียประตูจากลูกตั้งแต่เป็นครั้งแรกของฤดูกาลแข่งขันล่าสุด

ชัยชนะเกมนี้ทำให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ชนะในบ้าน 6 เกมรวด นับตั้งแต่เปิดซีซั่น และแข่ง 12 นัด มี 30 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยทิ้ง อาร์เซนอล ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด 5 แต้ม ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องแพ้เป็นนัดที่ 3 และแข่ง 12 นัด มี 25 แต้มเท่าเดิม หล่นไปอยู่อันดับ 3 เพราะแม้แต้มเท่ากันแต่ผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า "ปืนโต" ถึง 11 ประตู

นอกจากนั้นยังทำให้ "เรดเดวิล" พบทีมร่วมกลุ่ม "บิ๊กโฟร์" หมดแล้ว โดยชนะ อาร์เซนอล ก่อนจะมาแพ้ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ตามลำดับ ขณะที่ "สิงห์บลู" เพิ่งพบทีมร่วมกลุ่ม "บิ๊กโฟร์" 2 ครั้งชนะรวด ทั้ง ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล และมีโปรแกรมบุกไปเยือนถิ่นเอมิเรตส์ ของ "เดอะ กันเนอร์ส" ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้

หลังเกม เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกับหัวเสียและออกมาจวก มาร์ติน แอตกินสัน ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวว่า ไม่ทันเกม เพราะในจังหวะฟรีคิกเสียประตู ดิดิเยร์ ดร็อกบา หัวหอกเชลซี ได้ทำฟาวล์ เวส บราวน์ กองหลังยูไนเต็ด จนล้มคว่ำในเขตโทษ ซึ่งทำให้บอลผ่านตัว บราวน์ พุ่งเข้าประตูทันที

"ดร็อกบา ดึง บราวน์ จนล้มลงไปกับพื้น เพื่อให้พ้นวิถีบอล และสำเร็จพวกเขาได้ประตู น่าหัวเราะอย่างยิ่งเพราะผู้ตัดสินยืนอยู่จุดที่เห็นได้ชัดเจน มันเป็นจังหวะฟาวล์ไม่ใช่เป็นประตู เป็นการตัดสินที่แย่มาก แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว บางครั้งเหตุการณ์แบบนี้ทำให้คุณหมดศรัทธาในตัวผู้ตัดสิน และสำหรับเรามันเป็นอีกหนึ่งเกมที่เลวร้าย เราเป็นฝ่ายครองเกมได้ทั้งหมด เราเป็นทีมที่เล่นดีกว่า เรามีโอกาสหลายครั้งในการเข้าทำ แต่เราทำไม่ได้เอง"

ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเชลซี กล่าวว่า "เราชนะทีมที่ดีได้อีกหนึ่งทีม และผลชนะทำให้เราได้เปรียบทั้งอันดับและคะแนนรวม แต่เราก็รู้ว่าหนึ่งฤดูกาลมันไม่ใช่แค่ 12 นัด นี่แค่เกือบหนึ่งในสามของระยะทางเท่านั้น"

ขณะที่ ฮัลล์ ซิตี้ เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 ในถิ่นคิงสตัน ของตัวเอง แถม "ช่างปั้นหม้อ" ขึ้นนำก่อนจาก แมทธิว เอเธอริงตัน นาที 29 แต่ต้องสังเวยหนึ่งใบแดง เมื่อ อับดุลลาเย ฟาย ถูกไล่ออกนาที 87 ส่วน "เสือลาย" ทวงคืน 2 ประตูรวดจาก เซยี จอร์จ โอลอฟฟินยานา นาที 62 และ แยน เฟนเนกูร์ ออฟ เฮสเซลลิงค์ นาที 90

ส่งผลให้ ฮัลล์ แข่ง 12 นัด มี 11 แต้ม เขยิบจากอันดับ 19 รองสุดท้าย มาอยู่อันดับ 17 ก่อนพื้นที่ตกชั้นสำเร็จ ขณะที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เจ้าของพื้นที่เดิม ต้องหล่นไปอยู่อันดับ 18 เมื่อมี 10 แต้มเท่าเดิม เพราะพ่าย เอฟเวอร์ตัน 1-2 คาถิ่นอัพตัน ปาร์ค ของตัวเอง โดย "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ได้ 2 ประตูนำจาก หลุยส์ ซาฮา นาที 27 และ แดน กอสลิง นาที 64 ส่วน "ขุนค้อน" ตีไข่แตกจากการทำเข้าประตูตัวเองของ โทนี ฮิบเบิร์ท นาที 65

ส่วนอีกคู่ ฟูแล่ม บุกตีเสมอ วีแกน แอธเลติก 1-1 ถึงถิ่นดีดับเบิลยู โดย "เดอะ ลาติกส์" ขึ้นนำก่อนจาก เอมเมอร์สัน บอยซ์ นาที 13 ขณะที่ "เดอะ คอทเทจเจอร์" ทวงคืนได้จากจุดโทษของ คลินท์ เดมป์ซีย์ นาที 39

สำหรับศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี คืนเดียวกัน แวร์เดอร์ เบรเมน รองจ่าฝูง และ ฮัมบูร์ก ทีมอันดับ 3 ต่างทำได้แค่ผลเสมอ ส่งผลให้ทั้งคู่แข่ง 12 นัด มี 23 แต้มเท่ากัน เพิ่มช่องว่างห่างจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทีมอันดับ 1 ไปแล้ว 3 แต้ม แถมผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง 4 และ 6 ประตูตามลำดับ

เมื่อ เบรเมน โดน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ บุกมาเสมอ 1-1 ถึงถิ่นเวเซอร์ ทั้งที่ "นางนวล" ขึ้นนำก่อนจาก เมซุต โอซิล นาที 36 ทว่า ดอร์ทมุนด์ ไล่ตีเสมอได้จาก ลูคัส บาร์ริออส นาที 54 ส่วน ฮัมบูร์ก ออกไปนำ ฮันโนเวอร์ ถึงถิ่นอาเวเด อารีนา ได้ 2 ครั้ง 2 ครา แต่กลับจบเกมด้วยผลเสมอ โดย ฮัมบูร์ก ได้ประตูจาก มาร์เซลล์ แยนเซน นาที 15 และ เอลเยโร เอเลีย นาที 44 ส่วน ฮันโนเวอร์ ได้ประตูจาก ดิดิเยร์ ยา โคนัน นาที 26 และจุดโทษของ ยิรี สไตจ์เนอร์ นาที 88

ด้าน โคโลญจน์ บุกชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 1-0 ถึงถิ่นโอลิมปิก เบอร์ลิน จาก มิลิโวเย โนวาโควิช นาที 79

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook