สธ.จับมือ สปสช.จัดบริการค้นหาผู้ป่วยโรคเบาหวานขึ้นตา ป้องกันตาบอด เนื่องในวันเบาหวานโลก

กระทรวงสาธารณสุข จับมือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดบริการค้นหาผู้ป่วยโรคเบาหวานขึ้นตา ป้องกันตาบอด เนื่องในวันเบาหวานโลก และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันภาวะตาบอดจากเบาหวาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และเนื่องในวันเบาหวานโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี โดยในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งปะเทศไทย สมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทย ช่วยกันผ่าตัดรักษาผู้ป่วยที่เบาหวานขึ้นตา จำนวน 9,999 ดวงตาฟรี เริ่มตั้งแต่ตุลาม 2552 กันยายน 2554 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประเทศเดนมาร์ก และมูลนิธิเบาหวานโลก สนับสนุนรถตรวจจอประสาทตาและเลเซอร์รักษาเบ็ดเสร็จเคลื่อนที่ (Mobile Eye Unit) จำนวน 2 คัน มูลค่าคันละ 7 ล้านบาท เป็นรถเคลื่อนที่คันแรกของโลกที่มีเครื่องเลเซอร์รักษาจอประสาทตา สามารถให้บริการได้ทุกท้องที่ ตลอดจนในที่ห่างไกล ทุรกันดาร นอกจากนี้ สปสช.ยังสนับสนุนงบประมาณ 7 ล้านกว่าบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด โดยมีโรงพยาบาลร่วมโครงการนำร่องปี 2553 นี้ 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก และโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานในไทยขณะนี้เข้าขั้นวิกฤติเนื่องจากพบว่ามีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะปี 2551 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรายใหฒ่เพิ่มขึ้นถึง 388,551 ราย เสียชีวิต 7,725 ราย ส่วนทั่วประเทศคาดมีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน โดยจำนวนนี้เกือบร้อยละ 50 ยังไม่รู้ตัว และเนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ไม่หายขาด ต้องกินยาควบคุมต่อเนื่อง ทำให้ไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษากว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี และอาจพุ่งขึ้นเป็นแสนล้านบาท สำหรับโรคแทรกซ้อนอย่างโรคเบาหวานเข้าจอประสาทตา พบได้ 1 ใน 4 ของผู้ป่วย ทำให้สายตาเลือนราง คาดว่าจะมีผู้ป่วยเป็นเบาหวานขึ้นตาขั้นรุนแรงไม่ต่ำกว่า 30,000 คน ส่วนทั่วโลกมีประชากรที่เป็นเบาหวานและเบาหวานขึ้นตา จนตาบอดสนิทไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม จะลดปัญหาตาบอดได้ถึงร้อยละ 50