เขมรจับวิศวกรไทยล้วงข้อมูล ทักษิณ

เขมรจับวิศวกรไทยล้วงข้อมูล ทักษิณ

เขมรจับวิศวกรไทยล้วงข้อมูล ทักษิณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เขมรจับวิศวกรไทย แอบดูเที่ยวบิน ทักษิณ ตั้งข้อหาสายลับ สื่อนอก ระบุว่า แม้ว ออกรอบกอล์ฟผู้นำกัมพูชาที่เสียมราฐ ขณะที่ ปณิธาน ระบุ ไทยได้รับรายงานเขมรจับคนไทยแล้ว ส่วน 50ส.ส.พท. ตบเท้าไปคารวะ"ทักษิณ"ที่เขมร

(13พ.ย.) สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของกัมพูชา เขียด จันทริต ว่า ตำรวจได้จับกุมวิศวกรชาวไทยคนหนึ่ง พร้อมตั้งข้อหาเป็นสายลับ โดยได้ส่งตัวขึ้นศาลในวันนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้

หนังสือ พิมพ์ รัศมี กัมพูชารายงานว่า วิศวกรไทยรายนี้มีชื่อว่า นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วัย 31 ปี ซึ่งทำงานเป็นวิศวกรของบริษัทกัมพูชา แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส หรือ CATS ถูกจับกุมเมื่อพุธที่ผ่านมาตามหมายจับของอัยการศาลแขวงพนมเปญ

ทางการกัมพูชากล่าวหาว่า นายศิวรักษ์ สอดแนมด้วยการก็อบปี้เอกสารเกี่ยวกับเที่ยวบินของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผ่าน บริษัท CATS ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเที่ยวบินทุกเที่ยวในกัมพูชา และรายงานกลับไปยังประเทศไทย

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรักษาการโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวกรณีที่ทางการกัมพูชาจับกุมวิศวกรชาวไทยในชข้อหาจารกรรมข้อมูล ว่า รัฐบาลกำลังสอบถามรายละเอียดการจับกุมอยู่ ซึ่งจนท.ทูตที่นั่นกำลังหาข้อมูล ข้อเท็จจริง รายงานเข้ามา เมื่อได้ข้อกล่าวหาแล้วรัฐบาลจะมาพิจารณาดูในขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตามสถานทูตมีหน้าที่แนะนำ ดูแลความเรียบร้อย ให้เป็นไปตามหลักสากลหรือตามกม.ระหว่างประเทศอยู่แล้ว ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้ไม่ควรเป็นประเด็นที่เราไปยุ่งการสืบสวนสอบสวนของฝ่ายเขา

นอกจากนี้นายปณิธาน ยังกล่าวด้วยว่า ปกติเรื่องเที่ยวบินของผู้นำก็อยู่ในชั้นไม่เปิดเผย ซึ่งต้องไปดูว่ารั่วออกมาได้อย่างไร แต่ถ้าเป็นข้อมูลในเรื่องการเดินทางทั่วไปก็เป็นข้อมูลเปิดเผยอยู่แล้ว ไม่ถือเป็นการจรกรรมแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มของนายศิวลักษณ์มีสายสัมพันธ์กับสถานทูตไทยใน กัมพูชา นายปณิธาน กล่าวว่า เราต้องให้ความเป็นธรรมกับคนของเราด้วย โดยเฉพาะเมื่อยังไม่ผ่านการสอบสวน ข้อกล่าวหาตั้งกันได้ แต่ต้องให้โอกาสเขาชี้แจงซึ่งในส่วนของนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คงไม่ลงไปกำกับดูแลอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ต้องกำชับให้คนไทยที่นั่นระมัดระวัง และดูแลคนไทยให้ดี ไม่ทำอะไรขัดกฎหมายของเขา

สำหรับมาตรการทางการทูตที่มีต่อกัมพูชานับจากนี้ นายปณิธาน กล่าวว่า เราคทบทวนความสัมพันธ์ไปอีกระยะ และพิจารณาดูขั้นตอน กระบวนการต่างๆ โดยฉพาะผลประโยชน์ทับซ้อนที่ทำให้เราเสียเปรียบ แต่อย่างไรก็ต้องไม่ให้กระทบประชาชน รวมถึงไม่ให้กระทบกระเทือนความร่วมมือในภูมิภาค

ด้านเว็บไซท์หนังสือพิมพ์ สเตรท ไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหลบหนีการถูกดำเนินคดีที่ประเทศไทย ได้มีกำหนดจะพบกับผู้สนับสนุนในวันนี้ หลังจากออกรอบกอล์ฟกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ที่เมืองเสียมราฐ ที่กัมพูชาเรียกว่า เสียมเรียบ ที่แปลว่า สยามแพ้ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ร้าวลึกระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีการตอบโต้กันด้วยการขับนักการทูตของแต่ละฝ่าย ที่ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ที่บาดหมางกันอยู่แล้ว จากการที่กัมพูชาแต่งตั้งพตท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ยิ่งเสื่อมทรามลงไปอีก

นายเขียว คัณหฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา เปิดเผยว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจจากการรัฐประหารโดยปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อ เมื่อปี 2549 และหลบหนีไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการรับโทษจำคุกในข้อหาคอรัปชั่น ซึ่งเขามีแผนจะพบปะกับผู้สสับสนุนหลังออกรอบกอล์ฟ กับผู้นำกัมพูชา ที่เสียมราฐ เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยว ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ได้อาศัยตำแหน่งใหม่ที่ได้รับ โจมตีรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของไทย ในระหว่างการไปบรรยายที่กรุงพนมเปญ เมื่อวันพฤหัสบดี ด้วยการระบุว่า รักชาติแบบจอมปลอม

นายกอย กวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่า ได้ขับเลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่ตรงกับตำแหน่ง ขณะที่ไทยได้ดำเนินการตอบโต้ในระดับเดียวกัน ด้วยการสั่งให้เลขานุการเอกประจำสถานทูตกัมพูชา เร่งเดินทางออกจากประเทศไทยภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างเรียกกลับเอกอัครราชทูตของกันและกัน โดยมีสาเหตุมาจากการประกาศแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เวลา 11.00 น. ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย 40-50 คน เดินทางออกจากพรรคเพื่อไทยโดยรถตู้ เพื่อไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็ฮุน เซน และที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา เพื่อตั้งใจไปคารวะและให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคงไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษนอกจากการพบปะเยี่ยมเยียนและรับประ ทานอาหารเย็นร่วมกัน

โดยมีสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกฯกัมพูชา เป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารเย็น เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่กระทบต่อการเมืองในประเทศ เพราะ ไปตามธรรมเนียมของคนไทยที่มีความผูกพันรักกัน โดยเฉพาะเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ มาอยู่ใกล้บ้าน จึงถือโอกาสนี้มาเยี่ยมเยียนตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย บอกมีการตั้งทีมสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตั้งค่าหัว 150 ล้านบาท ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของนายประชา ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่ามีเหตุขนาดนั้น เรื่องแบบนี่ไม่น่าเกิดขึ้นกับคนไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยถูกมองว่าเดินทางไปรับท่อน้ำเลี้ยง ส.ส.หนองคาย กล่าวว่า ไม่มี เราไม่ได้ไปพูดคุยเรื่องนี้ แค่ไปพบปะกันธรรมดาในฐานะที่พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนผลักดันและรักประชาธิปไตย ซึ่งมี ส.ส.บางส่วนเดินทางไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ยืนยันว่าการเดินทางไปครั้งนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทย -กัมพูชามากขึ้น เพราะไปนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับรัฐบาลอย่านำมาโยงกัน


เมื่อเวลา 12.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีที่ทางการกัมพูชาได้จับกุมตัววิศวกรชาวไทยของบริษัท กัมพูชา แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส( CATS ) ในฐานะที่เข้าไปล้วงดูข้อมูลเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโดยตั้งข้อหาเป็นสายลับ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องขอเวลาไปตรวจสอบข้อมุลก่อนว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับรายงานเรื่อง นี้มาหรือไม่

เมื่อถามถึง กรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยออกมาปูดว่า มีบุคคลสำคัญชื่อย่อย "ส." ร่วมลงขันตั้งค่าหัวลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ สูงถึง 150 ล้านบาท นายสุเทพ หัวเราะพร้อมย้อนถามว่า "แล้วเป็นใครล่ะชื่อ"ส." สุเทพ เหรอ ถ้าตนมีเงินขนาดนั้นก็ตายไปนานแล้ว ไม่มีหรอก ทำเป็นพูดไป ทั้งนี้ไม่ทราบสาเหตุที่นายประชาออกมาพูดเรื่องในตอนนี้เพื่อผลอะไร อย่างไปยุ่ง อย่าไปสนใจ มันบ้า ๆ พูดไปเรื่อย "

เมื่อถามว่า การออกมาพูดเรื่องนี้เป็นความพายามที่จะสร้างความปั่นป่วนให้สอดคล้องกับการเดินเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณและ เครือข่าย นายุสเทพ กล่าวว่า เป็นการกระทำให้มันยุ่งเข้าไว้ ในยุคอย่างนี้ไม่น่าจะมีการลงขันลอบสังหารใคร ข่าวนี้ไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าจะเป็นไปได้ คนไทยเขาไม่คิดทำอย่างนั้นหรอก ถ้าตนมีเงิน 150 ล้าน ไปทำอย่างอื่นดีกว่า

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook