มาร์คเบรกตอบโต้เพิ่มเขมรผ่อนเปิดคุกให้เยี่ยมวิศวกร

โทรฯบอกแม่สบายดีอย่าห่วงปัดข้อหาจารชน-ลุ้นประกัน!

วิศวกรหนุ่มโต้ข้อหาจารชน รอทนายยื่นศาลเขมรไฟเขียวอิสาภาพชั่วคราว เจ้าตัวเปิดปากหลังเขมรเปิดคุกให้อุปทูตไทยพบหน้า แถมอนุญาตต่อสายข้ามประเทศคุยกับมารดา เผยอยู่ในคุกสบาย จนท. ดูแลดี สภาพไม่อิดโรย อาหารการกิน-หยูก ยาพร้อมสรรพ ฝ่าย บัวแก้ว หาทางพาแม่ไปเยี่ยมลูกที่เปรซอร์ พร้อมป้อนข้อมูลสู้คดีเต็มที่ โฆษกรัฐบาลเปลี่ยนใจไม่ตั้งทนายช่วย หวั่นเอิกเกริก ขณะที่ มาร์ค ปรับแผนตอบโต้ ฮุนเซน ตรองหยุดใช้มาตรการฉีกเอ็มโอยูหวั่นปัญหาลามเอาไม่อยู่ ตั้งธง ยูเออีไล่ แม้ว ไม่ให้ใช้ดูไบเป็นฐานถล่มไทย กษิต เย้ย แม้ว นักโทษหนีคุกช่วยอะไรได้ ยันไม่หวงเก้าอี้ ส่วน กก. สิทธิฯ เล็งยื่นมือเข้าช่วย ชูกลไกอาเซียนขับเคลื่อน ด้าน แม้ว กร้าวพวกกูทำอะไรก็ผิด ส่งสัญญาณ แดง ใกล้ปะทุเดือดเต็มแก่ ส่วน 111-เพื่อแม้ว สบช่องลุย ศาล รธน. ฟื้นคดียุบไทยรักไทย ด้าน เทือก ขู่ฟ้องกลับ พัลลภ ปิ่นมณี ฝ่าย ภูมิใจไทย ลั่นชงแก้ ก.ม. เพิ่มโทษหมิ่นเบื้องสูงจำคุกอ่วม จากเดิม 5 ปีเป็น 15 ปี

* อุปทูตได้เยี่ยมศิวรักษ์แล้ว

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.40 น. วันนี้ (17 พ.ย.) นายชโลธร เผ่าวิบูล อุปทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทย 2 คน เพื่อเข้าพบนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ พนักงานบริษัทกัมพูชา แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิส ในเครือบริษัท สามารถเทเลคอม ที่ถูกกัมพูชาควบคุมตัวที่เรือนจำเปรซอร์เป็นเวลา 30 นาที และได้ขออนุญาตเรือนจำเปิดโอกาสให้นายศิวรักษ์โทรศัพท์หามารดาที่อยู่ประเทศไทยเป็นเวลาสั้น ๆ สรุปแล้วนายศิวรักษ์มีขวัญกำลังใจดี และมีจิตใจที่เข้มแข็ง สภาพภายนอกดูแล้วไม่มีอาการอิดโรยแต่อย่างใด

รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกนายศิวรักษ์ไปสอบสวนแล้ว และนายศิวรักษ์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาไปแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมของฝ่ายกัมพูชาว่าจะมีการไต่สวนหรือจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งฝ่ายไทยต้องติดตามดู และหวังว่านายศิวรักษ์จะได้รับความเป็นธรรม

* ลุ้นศาลเขมรให้ประกันตัว

ส่วนการขอประกันตัวนั้น นายธานี กล่าวว่า ในหลักการคงขอได้ แต่ขึ้นอยู่กับ การพิจารณาของศาล ในชั้นนี้ยังต้องรอฟังฝ่ายทนายความของนายศิวรักษ์ว่าจะเดินเรื่องต่อไปอย่างไร สำหรับการจัดหาทนายความให้กับนายศิวรักษ์นั้น ทางกระทรวงฯ ได้แนะนำทนายความให้นายศิวรักษ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่นายศิวรักษ์จะพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนการว่าจ้างกระทรวงฯ และรัฐบาล จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นางมธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ได้ไปพบนางสิมารักษ์ ณ นครพนม แม่ของนายศิวรักษ์ เพื่อย้ำความพร้อมของกระทรวงการต่างประเทศ ในการอำนวยความสะดวกให้กับศิวรักษ์ ส่วนการที่มารดาของนายศิวรักษ์จะขอเข้าเยี่ยมนั้น เมื่อกำหนดการเดินทางแน่นอนแล้ว ทางกระทรวงฯ พร้อมประสานกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อขออนุญาตเข้าไปเยี่ยม

* รองอธิบดีไปโคราชให้กำลังใจ

ที่ จ.นครราชสีมา เวลา 11.00 น. นางมธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายอัคร์วุฒิ จิตรปฏิมา นักการทูตชำนาญการพิเศษ และนายธนพล หวังอ้อมกลาง หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองหนังสือเดินทาง กรม การกงสุล เดินทางมาที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา เพื่อเยี่ยมนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัทกัมพูชา แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิส ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมมอบกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายแสดงน้ำใจไมตรี ก่อนที่ทั้งหมดจะปิดห้องพูดคุยกันนานกว่า 30 นาที และระหว่างนั้น นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับ นางสิมารักษ์ แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ แต่นางสิมารักษ์ยังมีท่าทีเป็นกังวลตลอดเวลา

* ต่อสายแม่-ลูกถามทุกข์สุข

นางสิมารักษ์ ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าดีขึ้นว่า ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจถึงโคราช ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยว ไม่ถูกทอดทิ้ง และได้รับการดูแลช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลไทย ทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับลูกชายแล้ว เป็นการพูดคุยเพียงสั้น ๆ โดยอุปทูตไทยในกัมพูชาต่อสายมาให้ ตนได้ถามลูกชายไปว่า เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม? ลูกชายก็ตอบด้วยน้ำ เสียงปกติกลับมาว่า อยู่ที่นี่สบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ตนก็ถามกลับไปอีกว่า อยู่อย่างไร เขาดูแลลูกอย่างไร? ลูกชายก็ตอบว่า ทางนี้ดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่ลำบากอะไร แม่ไม่ต้องห่วงนะ ก่อนวางสายไป

แม่ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้ยิน เสียงลูกชายเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินทางกลับไปกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ดีใจ จนลืมคำถามอื่นไปเลย จึงได้คุยกับลูกชายเพียงสั้น ๆ แค่นี้ แต่ก็รู้สึกมั่นใจว่าทางรัฐบาลไทยจะนำตัวลูกกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ อ.สิมารักษ์ ระบุ

* หาทางให้แม่เดินทางไปเยี่ยม

ขณะที่ นางมธุรพจนา เปิดเผยว่า มาเยี่ยมและให้กำลังใจกับคุณแม่สิมารักษ์ พร้อมกันนี้ รมว.การต่างประเทศ ได้แสดงความปรารถนาดีและให้ความมั่นใจกับนาง สิมารักษ์ว่ากระทรวงฯ จะดูแลนายศิวรักษ์อย่างดีที่สุด และจะดำเนินการเรื่องนี้โดยรวดเร็วที่สุด อีกทั้งก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.45 น. อุปทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ในเรือนจำเปรซอร์ พร้อมต่อสายโทรศัพท์ให้นายศิวรักษ์พูดคุยกับคุณแม่แล้ว ทำให้คุณแม่สบายใจขึ้น ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหานี้ยังคงต้องรอการรายงานและประสานงานกับทางสถานทูตไทยที่กัมพูชาอีกครั้ง โดยเรากำลังพยายาม หาทางให้คุณแม่ไปเยี่ยมน้องศิวรักษ์ที่กัมพูชา หลักการแล้วสามารถทำได้ ทางสถานทูตกำลังพยายามประสานเรื่องนี้อยู่ และคงมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้

* กษิตหยันแม้วช่วยอะไร

นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือวิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับตัวว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตได้ไปพบกับวิศวกรคนดังกล่าวแล้วและได้นำยาที่จำเป็นไปมอบให้ด้วยพร้อมกับต่อโทรศัพท์ให้คุยกับคุณแม่ด้วย ขั้นตอนในการช่วยเหลือต่อไปยังมีอีกหลายช่องทาง เช่น การตั้งทนายช่วยเหลือ พร้อมกับจัดให้มารดาไปเยี่ยมด้วย

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสเรียกร้องให้เปลี่ยนตัว รมว.การต่างประเทศ เพราะเดินเกมด้านต่างประเทศอ่อนเกินไป รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ใครที่ไม่ชอบตนก็บอกว่าอ่อน ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ไม่ได้เอาเรื่องนี้เป็นสาระ เพราะมาทำงานไม่ได้มาสร้างคะแนนนิยม การวิจารณ์ก็ควรพูดกันในเนื้อหา ไม่ใช่พูดลอย ๆ ว่า นายกษิต เฮงซวย ผมจะไปตอบได้อย่างไรว่านายกษิตไม่ได้เฮงซวย ควรบอกว่าในเรื่องนี้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยหรือฝ่ายค้านมีอะไรที่ทำได้ดีกว่ารัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ นายกษิต กล่าวว่า คุณทักษิณยังหนีคุกอยู่เลยจะมาพูดอะไรได้

* กก.สิทธิมนุษยชนฯ ยื่นมือช่วย

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ตามหลักสิทธิมนุษยชน นายศิวรักษ์ ต้องได้รับความคุ้มครองเพื่อไม่ให้ถูกละเมิด พร้อมทั้งต้องได้รับการดูแลเรื่องความเป็นอยู่ และต้องได้รับสิทธิพบทนายความเพื่อแก้ต่างในคดี อีกทั้งต้องได้รับการดูแลไม่ให้ถูกทารุณกรรม ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลไทยต้องทำในขณะนี้คือต้องแจ้งให้คนไทยรับรู้ถึงความคืบหน้า และจำเป็นต้องมีการดำเนินการเพื่อพยายามช่วยเหลือ

เรื่องนี้ต้องแยกว่าต้องให้ความคุ้มครองสิทธิเมื่อถูกกล่าวหา เพราะเป็นคนละเรื่องกับการเมืองแม้ว่าอาจจะมีการกระทำความผิดจริง แต่ประเทศกัมพูชาก็ต้องให้กระบวนการเปิดเผย และให้สิทธิของผู้ต้องหา เช่น การต่อสู้คดี หรือคุ้มครองความปลอดภัยต้องได้รับการปกป้อง เรื่องนี้มิใช่เรื่องการแทรกแซงการเมืองแต่อย่างใด กสม. ระบุ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายศิวรักษ์ ยังไม่ได้รับการคุ้มครองจะประสานกับองค์กรสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า วันที่ 18 พ.ย. นี้ กสม. คงต้องประชุมหารือกันว่าจะขอความช่วยเหลือหรือไม่ เพราะไทยเป็นสมาชิกขององค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ นอกจากนี้ต้องดูว่าจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่เพิ่งตั้งขึ้นมาหรือไม่ และเรื่องนี้ถือเป็นวาระเร่งด่วน

* มาร์ค-กษิต-ประวิตรเครียด

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ก่อนการประชุม ครม. จะเริ่มขึ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้ยืนพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด ประมาณ 10 นาที โดยนาย กษิตได้รายงานความคืบหน้าที่อุปทูตไทยประจำกัมพูชา ติดต่อขอเข้าพบนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ทางการกัมพูชาจับกุมตัว รวมถึงประเมินท่าทีของกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเกรงกันว่าหากรัฐบาลไทยยกเลิกข้อตกลงและโครงการต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือกัมพูชาตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลปี 2544 อาจจะส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับได้ และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชายิ่งลดลงมากขึ้น จึงควรชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อน

* ไม่มีมาตรการตอบโต้เพิ่มเติม

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในการประชุม ครม. วันเดียวกันนี้ นายกษิต ไม่ได้หยิบยกเรื่องการทบทวนข้อตกลงและโครงการให้ความช่วยเหลือกัมพูชาต่าง ๆ เข้าสู่ที่ประชุมแต่อย่างใด รวมทั้งที่ประชุม ครม. ไม่ได้หยิบยกปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาเข้าหารือด้วย นอกจากนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. แล้ว นายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ยังได้หารือกันอีกครั้ง โดยมีนายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการ ครม. เข้าร่วมด้วย โดยใช้เวลาเกือบ 30 นาที อย่างไรก็ตามนาย กษิต เปิดเผยว่า เป็นการหารือถึงท่าทีของอาเซียนในการประชุมเพื่อลดภาวะโลกร้อน ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

* มาร์คโอ่มีหวังช่วยคนไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมไม่ได้พิจารณามาตรการต่อประเทศกัมพูชาเพิ่มเติม มีแต่เฉพาะการติดตามกรณีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับกุมในกัมพูชา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ไทยสามารถเข้าเยี่ยม รวมถึงมอบของใช้และยาแก่นายศิวรักษ์เรียบร้อย เหลือแต่การประสานงานเรื่องข้อกฎหมายที่ต้องมีเรื่องการตั้งทนายความเข้าไป ถือว่ากัมพูชา ได้ดำเนินการมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้มีการเข้าเยี่ยมได้ ทั้งนี้ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ แล้ว ซึ่งบอกว่าสุ้มเสียงของบุตรชายเป็นปกติ กำลังใจดี สุขภาพดี และอยากขอพบบุตรชาย รวมถึงอยากให้บุตรชายได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด ทั้งหมดเป็นแนวทางที่รัฐบาลพยายามดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม เราก็มีความหวังแต่ตอนนี้ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน

* 18 พ.ย. ทราบข้อหา-ตั้งทนายสู้

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนความชัดเจนในเรื่องข้อกล่าวหาตอนนี้ยังไม่มี คงเป็นเพราะมีปัญหาเรื่องของภาษาในการ ให้การหรือการสอบสวน แต่คิดว่ากระบวนการเรื่องข้อกฎหมายและทนายจะมีความชัดเจนไม่เกินวันที่ 18 พ.ย. นี้ สำหรับการออกมาตรการเพิ่มเติมต่อกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศอยู่ในช่วงที่ต้องรวบรวมต่อไป อย่างไรก็ตามต้องแยกกับกรณีการจับตัวคนไทย โดยไทยต้องรักษาสิทธิคนไทย ทั้งนี้หวังว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะดีขึ้น

เมื่อถามว่า จะมีการทบทวนตัวบุคคลที่กัมพูชารู้สึกไม่สบายใจ เช่น นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องนี้ แม้แต่ตอนที่กัมพูชาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่เคยพูดคุยกันถึงเรื่องนี้

ต่อข้อถามถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทวิตข้อความด้วยว่า จะขอร้องให้คนเสื้อแดงอดทนได้อีกนานแค่ไหนไม่รู้ คิดว่าเป็นการส่งสัญญาณใด ๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า พ.ต.ท. ทักษิณหมายถึงอะไร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา เรื่องคดีความก็ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลไปยัดเยียดให้

* เล็งยูเออีขับแม้วอีกรอบ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์ที่ทำให้ไทยมีปัญหากับกัมพูชานั้น คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องรู้ตัวว่าถ้าไม่มีเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่เกิด จึงไม่มีอะไรที่เราใส่ร้าย ตนทำหน้าที่รักษาประโยชน์ของประเทศเท่านั้น ถ้าไม่อยากให้มีปัญหาก็ต้องไปเรียกร้องจากคนที่สร้างปัญหาขึ้นมา คุณทักษิณน่าจะทราบว่าขณะนี้คนไทยต้องการให้บ้านเมืองสงบ เดินไปข้างหน้า และให้ประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับทุกคนทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังในการเอาเป้าหมายส่วนตัวหรือเป้าหมายทางการเมืองของตัวเองมาทำให้กระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ของประชาชน

ส่วนการประสานงานกับทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) นั้น นายกฯ กล่าวว่า มีการประสานอยู่แล้วตามช่องทางความร่วมมือระหว่างประเทศ แต่ไม่สามารถตอบแทนทางการยูเออีได้ว่าจะเชิญ พ.ต.ท. ทักษิณออกนอกประเทศเหมือนช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาหรือไม่

* กษิตไม่ได้คุยฮอร์ นัม ฮง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชวนนท์ อินทร โกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า อุปทูตไทยในกัมพูชาและ เจ้าหน้าที่ทูตไทย 3-4 คน ได้เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ ที่เรือนจำเพซอแล้ว และรายงานมาว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย อาหารการกินพร้อม มียารักษาโรค ความเป็นอยู่ถูกสุขลักษณะ แต่ก็ยังอยู่ในเรือนจำ ส่วนเรื่องคดีตอนนี้อุปทูตไทยกำลังสอบถามว่าข้อกล่าวหาคืออะไรก่อนจัดหาทนายความที่เหมาะสมต่อไป

เมื่อถามว่า นายกษิต รมว.การต่างประเทศ ได้คุยกับนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา แล้วหรือไม่ เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า นายกษิตมีหนังสือไปยังกัมพูชาเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางกัมพูชาแจ้ง กลับมาว่าจะให้เราเข้าพบคนของเรา แต่นาย กษิตยังไม่ได้พูดคุยกับนายฮอร์ นัม ฮง ตอนนี้ต้องใจเย็น หวังว่าจะเป็นแนวโน้มและสัญญาณที่ดีในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ เชื่อว่าน่าจะเริ่มต้นเดินหน้าเจรจาได้ เพราะฝ่ายกัมพูชามีท่าทีอ่อนโยนลงบ้าง ฝ่ายไทยก็ยินดีที่จะเดินหน้าหาความสงบ

* บัวแก้วเดินเครื่องช่วยเหยื่อ

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุม ครม. ว่า รมช.ต่างประเทศของกัมพูชาได้โทรศัพท์แจ้งผ่านมายังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เมื่อค่ำ วันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าวันนี้ (17 พ.ย.) จะประสานให้ไทยไปยื่นหนังสือขอหมายศาล และยื่นเรื่องขอพบตัวนายศิวรักษ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยจะไปเดินเรื่องที่ศาล เบื้องต้นจะดูเรื่องข้อกล่าวหาและความเป็นอยู่ตามระเบียบข้อปฏิบัติปกติกรณีการดูแลของเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศต่อคนไทยที่ถูกจับกุม เข้าใจว่านายศิวรักษ์คงมีทนายชาวกัมพูชาที่มีความเชี่ยวชาญการทำคดีอยู่แล้ว โดยกระทรวงฯ มีหน้าที่ประสานงานกับคณะทนายของนายศิวรักษ์ และดูแลความสะดวกต่าง ๆ ในการต่อสู้คดี

* ย้ำไทย-เขมรยังจูบปากกันดี

ส่วนการพิจารณามาตรการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาเพิ่มเติมนั้น นายปณิธาน กล่าวว่า โครงการความร่วมมือและความช่วยเหลือที่อยู่ในข่ายชะลอหรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวกับเครือข่ายคมนาคมและมีการกู้ยืมเงิน เช่น โครงการปรับปรุงเส้นทางสาย 68 ระยะทาง 113 กิโลเมตร จากด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ผ่านไปยัง ต.โอเสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย สิ้นสุดที่เมือง กอลัน จ.เสียมราฐ เป็นต้น

โฆษกรัฐบาล ยืนยันว่า ไทยกับกัมพูชายังมีความสัมพันธ์ที่ดี ในระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐที่ประเทศสิงคโปร์ นายกฯ ยังได้เชิญชวนสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ให้ไปร่วมประชุมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนหน้าด้วย

* รัฐบาลไม่แต่งตั้งทนายความให้

นายปณิธาน เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ว่า การประชุม ครม. วันนี้ที่ไม่มีการหารือมาตรการทบทวนการให้ความช่วยเหลือหรือมาตรการกดดันกัมพูชาเพิ่มเติมว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติให้กระทรวงการต่างประเทศไปทบทวนว่าจะดำเนินการอย่างไรที่แสดงถึงท่าทีของรัฐบาลไทยต่อกัมพูชา ดังนั้นเมื่อกระทรวงฯ รับไปต้องทำงานอย่างเป็นระบบ โดยการประเมินจะให้น้ำหนักใน 2 ระดับ คือ ความสัมพันธ์ที่จะกระทบจริง ทั้งการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) การงดเงินช่วยเหลือในการก่อสร้างระบบคมนาคม ขณะนี้ไทยถือว่ามีทางเลือกมากจึงต้องรอดูท่าทีของกัมพูชาด้วย ระดับที่สองประเมินว่าตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากกัมพูชา ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ระดับความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้น ดังนั้นจึงปล่อยให้กลไกต่าง ๆ เดินหน้าไปด้วยตัวเอง

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัว รัฐบาลได้ติดตามและให้ความช่วยเหลือทั้งขั้นตอน ข้อกฎหมายและกระบวนการทางการเมือง โดยมีอดีตนักการทูตและนักกฎหมายระหว่างประเทศในกรุงเทพมหานครรวมตัวกันคอยส่งข้อมูลไปยังสถานทูตไทยในกัมพูชาให้ดำเนินการตามช่องทางของกฎหมาย ทั้งนี้ทางรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือหากมีการร้องขอ คาดว่านายศิวรักษ์คงจะมีทนายความส่วนตัวอยู่แล้ว รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องตั้งทนายความเข้าไปดูแลเนื่องจากไม่อยากให้ถูกมองว่าเป็นการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจนเกินไป

* เทือกฟุ้งอยู่ในวิสัยเจรจาได้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือวิศวกรชาวไทยที่ถูกดำเนินคดีในกัมพูชาว่า รัฐบาลพยายามให้การช่วยเหลือโดยตนจะช่วยออกแรงอีกทาง รัฐบาลต้องร่วมกันรับผิดชอบ เพราะมั่นใจว่าคนไทยที่ถูกจับเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ต้อง ดำเนินการตามกฎเกณฑ์และกติกา ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาได้ หากยังอยู่ในวิสัยที่จะพูดจาเจรจาต่อรองกันได้ก็จะพยายามทำ

ต่อข้อถามว่า เหตุใดไม่ยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา หรือมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ต่อสายถึง พล.อ.เตีย บันห์ รมว.กลาโหมกัมพูชา รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ยกหูถึงกันขนาดนั้น เพราะแต่ละคนยังมีอารมณ์กันอยู่ แต่รัฐบาลไม่ทอดทิ้งและพยายามให้คนที่พอจะทำหน้าที่ติดต่อได้ช่วยอธิบายความ

* ไม่ให้แม้ว-จิ๋วเป็นพระเอก

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนและ พล.อ.ประวิตร จะพยายามกันต่อไป ส่วนกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคนของกัมพูชาจะช่วยเจรจาให้ตนก็ขอขอบคุณ และคิดว่าเมื่อสมเด็จฮุนเซน ได้รู้ความจริงว่าวิศวกรคนไทยไม่ใช่ผู้กระทำความผิด สมเด็จฮุนเซนจะมีความคิดได้ ดังนั้นทุกคนในรัฐบาลต้องช่วยกัน แม้ว่า รมว.การต่างประเทศ จะมีปัญหากับกัมพูชา แต่เชื่อว่า รมว.การต่างประเทศ เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาทำงานนี้ได้ เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รมว. การต่างประเทศ เป็นกำลังสำคัญทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนประสบผลสำเร็จ

ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจาหากรัฐบาลไทยร้องขอ รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่จำเป็นขนาดนั้น จะไปร้องขอ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังหนีคดีอยู่ให้มาช่วยเหลือคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย แต่งตัวรอเป็นพระเอกเพื่อเข้าไปไกล่เกลี่ยคดีนี้ก็ให้ทั้งสองคนแต่งตัวรอต่อไป

* วอนฮุนเซนคิดใหม่ทำใหม่

นายสุเทพ ยืนยันว่า คดีนี้ไม่จำเป็นที่จะให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือ และ อยากส่งผ่านไปยังสมเด็จฮุนเซน ว่า แม้รัฐบาลจะทะเลาะกันผิดใจกันก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาลงที่ประชาชน สมเด็จฮุนเซน จะตระหนักได้ดีว่ารัฐบาลไทยได้ดูแลคนกัมพูชาและผลประโยชน์กัมพูชาในประเทศไทยด้วยความเคารพในหลักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีต่อกัน เพราะฉะนั้นรัฐบาลกัมพูชาจึงต้องปฏิบัติต่อคนไทย และผลประโยชน์ของคนไทยด้วยดีเช่นเดียวกัน การพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะดำเนินการกับคนกัมพูชาที่ทำผิดกฎหมายในไทย เพื่อเป็นการตอบโต้ เพราะไทยเป็นเมืองพุทธ มีเมตตาธรรม มีจิตเคารพในกฎหมาย ทุกอย่างว่าไปตามกฎเกณฑ์และกติกา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการขนอาวุธเบาจากฝั่งกัมพูชามายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อฝึกให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงาน เชื่อว่ากัมพูชาไม่ต้องการใช้กำลังและไทยก็ไม่ต้องการเช่นกัน

* ชวนเตือนอย่าละเมิดกติกา

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า โดยทั่วไปในอารยประเทศ ผู้ที่ถูกควบคุมตัวจะได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากรัฐบาลประเทศนั้น เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหายังไม่ได้เป็นจำเลยหรือนักโทษ ความจริงเป็นอย่างไรคงจะพิสูจน์ได้ ซึ่งทั้งสองรัฐบาลมีความสัมพันธ์กันอยู่ก็จะต้องติดต่อดูแล รัฐบาลไทยและคนไทยก็ต้องให้กำลังใจผู้ที่ถูกคุมขังด้วย อย่างไรก็ตาม ได้ทราบข่าวว่าวิศวกรไทยคนดังกล่าวได้โทรศัพท์ มาบอกแม่ของเขาแล้วว่าสบายดี ก็โล่งใจไป

เมื่อถามว่า มีการเสนอให้รัฐบาลใช้มาตรการทางการทูตที่รุนแรงขึ้น อดีตนายกฯ กล่าวว่า อย่าไปทำอะไรด้วยอารมณ์ ต้องใช้เหตุผล ยึดความถูกต้อง เพราะถ้าทำอะไรไปในวันนี้จะผูกมัดในวันข้างหน้า ถ้าพูดในสิ่งไม่จริงหรือขัดต่อหลักปฏิบัติระหว่างประเทศ จะมัดตัวเองในวันข้างหน้า ดังนั้นอย่าทำอะไรให้สะใจ แต่ต้องทำด้วยความชอบธรรม ถูกต้องตามหลักที่อารยประเทศทำกัน

* ตอกทักษิณคนนอกเลิกจุ้น

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าพร้อมให้การช่วยเหลือ หากรัฐบาลต่อสายมานั้น นายชวน กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ติดต่อกับรัฐบาลกัมพูชาโดยตรง ส่วนคนนอกจะช่วยพูดในฐานะเป็นญาติพี่น้อง พรรคพวกกันก็เป็นสิทธิ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของความถูกต้อง ถ้าไม่ได้ทำความผิดก็ไม่มีสิทธิไปจับ ถ้าสมมุติบ้านเราจับคนทำความผิด แล้วมันเอาญาติมาอ้างว่าเป็นญาติของมันจะได้หรือไม่ เพราะฉะนั้น จึงต้องยึดความถูกต้องชอบธรรมเอาไว้ ผมเชื่อว่าคนไทยไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ที่รัฐบาลพยายามประสานเพื่อดูแล อย่างน้อยในเบื้องต้น การเยี่ยม การตั้งทนายเพื่อดูแลก็ เป็นสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาควรอนุญาตให้ทำได้

ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ประเมินว่ารัฐบาลจะอยู่ได้แค่เดือน ก.พ. 2553 ว่า ถ้า นับไปก็อีก 3 เดือน ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็น 3 เดือน กี่ครั้ง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า 3 เดือน มาหลายครั้งแล้ว ถ้า 10 ครั้งก็ 30 เดือน 12 ครั้งก็ 36 เดือน แล้วแต่ว่าจะบอกมากี่ครั้ง

* กองทัพแย้มรัฐไม่ได้ร้องขอ

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกัมพูชาจับตัววิศวกรไทยว่า แผนการบินและเส้นทางการบินเป็นข้อมูลที่เปิดเผย คงไม่ใช่ประเด็นปัญหา อาจจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกมากกว่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังไม่ได้ขอให้กองทัพเข้าไปดูแล กองทัพก็คงเฝ้าติดตามดู หากรัฐบาลประสานมากองทัพก็พร้อมให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่า จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม พูดคุยประสานกับ พล.อ.เตีย บันห์ รมว.กลาโหมกัมพูชา หรือไม่ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ น่าจะใช้ช่องทางวิธีการทูตที่จะดำเนินการ ยังไม่ได้ผ่านกระทรวงกลาโหมให้ช่วยใช้ความสัมพันธ์ในส่วนของกองทัพสองประเทศ มีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ก็คงพูดจากันได้อยู่

* เผยอดกลั้นไม่ให้ปัญหาลุกลาม

ต่อข้อถามว่า มีการมองว่าเป็นการดิสเครดิตและทดสอบกึ๋นของนายกฯ และ รมว. การต่างประเทศของไทย พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงต้องติดตามดู เชื่อว่านายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ต้องให้ความเชื่อมั่นกับท่าน เราอย่าไปคิดว่าท่านถูกดิสเครดิตแล้วจะทำอะไรไม่ได้ เชื่อว่าสิ่งที่พวกท่านได้พยายามอยู่คือการแก้ไขปัญหาบนหลักสากล ส่วนที่มีข้อเสนอให้ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ นายทหารคนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มีความใกล้ชิดกับกัมพูชาเข้าไปช่วยเหลือคนไทยนั้น คงต้องเป็นเรื่องที่รัฐบาลคุยกับ พล.อ.วิชิต เอง

ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวระหว่างสองประเทศหรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เราต้องอดทนอดกลั้นพอสมควร เป็นเรื่องของความรักชาติ รักศักดิ์ศรีของประเทศชาติ แต่ในสิ่งที่จะทำและแสดงออกต้องอยู่บนพื้นฐานของความระมัดระวังกันพอสมควร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบหรือทำให้เกิดจุดอ่อนขึ้นมาได้

* ผบ.เหล่าทัพประเมินเหตุการณ์

เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงในระดับกระทรวงและ ผบ.เหล่าทัพ ได้พูดคุยเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าไปในกัมพูชาหรือไม่ พล.อ.อภิชาต ยอมรับว่า มีการพูดคุยกันอยู่ ความจริงเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เข้าไปและการที่กัมพูชาให้เกียรติตั้งเป็นที่ปรึกษาก็เป็นเรื่องการเมืองภายใน เราคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างไรก็ดีหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากกัมพูชาไปแล้วคิดว่าแนวโน้มคงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศดีขึ้น ถ้าไม่มีการเข้ามาป่วนอย่างต่อเนื่อง หรือมีการดำเนินการใดที่มีผลกระทบในการทำให้ศักดิ์ศรีของประเทศไทยถูกทำลายลงหรือมีการลบหลู่

ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยว่า หลายคนอาจมองว่ากองทัพไม่ทำอะไรเลย กองทัพนิ่งเฉย และอดทนได้อย่างไร อันนี้คือสิ่งที่ตนเห็นว่าพวกเราต้องใช้ความอดทน อดกลั้นอยู่พอสมควรในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเรายินยอม หรือยอมไปทุกอย่าง

* แม้วว้ากพวกกูทำอะไรก็ผิด

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ โดยระบุว่า แผ่นดินเกิดไม่ให้เหยียบ แผ่นฟ้าไม่ให้บินผ่าน หนังสือเดินทางไม่ให้ถือ เงินหามาสุจริตไม่ให้ใช้ ยศพระราชทานจะเอาคืน เครื่องราชฯ จะยึด ชีวิตก็จะไม่ไว้ จะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนก็รังควาน จะไปทำมาหาเลี้ยงชีพก็จะไล่ล่า ได้รับเกียรติจากประเทศอื่นก็บอกว่าขายชาติ พูดปกป้องเจ้านายก็ว่าไม่จงรักภักดี ไม่ป่วยก็บอกว่าเป็นมะเร็ง มีคนมาเยี่ยมก็หาว่าเป็นกิ๊ก อยู่ดูไบมีระเบิดเมืองไทยก็หาว่าเป็นคนทำ ต่อสู้หาความเป็นธรรมอย่างสันติก็หาว่ารุนแรง สมกับที่เขาว่า พวกมึงทำอะไรก็ถูก พวกกูทำอะไรก็ผิด แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร จะสันติได้อีกกี่น้ำ ตนจะขอร้องให้คนเสื้อแดงอดทนได้อีกนานแค่ไหนไม่รู้

* เปรียบปรีดีเจ็บขนาดไหน

อดีตนายกฯ ยังทวิตข้อความตอบแฟนคลับกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวหาว่าแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว รวมถึงขายรัฐวิสาหกิจว่า ไอ้พวกนี้แต่งนิยายโกหกอย่างเป็นระบบมาตลอด องค์กรอิสระ ศาล และสื่อมวลชน กระแสหลักไม่เป็นกลางและเป็นธรรมบ้านเมืองก็เละอย่างนี้ และ หลวงพ่อคอยเตือนตลอดให้ใจเย็น อย่าไปโกรธใคร ให้รับกรรมเขาเอง อย่าสร้างกรรมใหม่ ใช้กรรมเก่าไม่นานก็หมด

นอกจากนี้ยังทวิตข้อความสนทนากับแฟนคลับต่อกรณีนายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกฯ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จับใจครับ ขนาดผมมีความพร้อมพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเงินทองและเครือข่ายเพื่อนฝูง ผมยังเจ็บปวดขนาดนี้ ไม่รู้ว่าท่านปรีดีจะเจ็บปวดขนาดไหน พร้อมกับขอบคุณแฟนคลับที่เข้ามาให้กำลังใจ ว่า ขอบคุณครับ ตอนนี้รัฐบาลนี้กำลังส่งเสริมให้คนร้องเพลงชาติตอนชักธงลง ผมว่าเสียฮวงจุ้ยหมด จะร้องให้ไทยรุ่งเรืองน่าจะชักขึ้น และ ผมเชื่อที่ Jo*atha* Livi*gsto* พูดว่าYou are what you thi*k เพราะฉะนั้นต้อง thi*k positive ครับ

* ชี้เอาผิดวินัยเสธ.แดงไม่ได้

อีกประเด็นหนึ่ง พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึง พล.ต.ขัตติยะ