เขมรปลุกระดมค้านปล่อยตัววิศวกรไทย
วิทยุเขมรยุชาว กัมพูชาค้านรัฐบาลปล่อยตัววิศวกรไทยข้อหาจารกรรม ขณะที่แม่ค้าชาวเขมรตลาดโรงเกลือกลัวด่านถูกปิด วอนรัฐบาลปล่อยคนไทยเพื่อดึงความสัมพันธ์ที่ดีกลับคืน
(19พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเปิดด่านชายแดนฯ ในช่วงเช้ามีพ่อค้า แม่ค้าและกรรมกรชาวเขมรจำนวนมากแห่กันเดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ เข้ามาเพื่อทำการค้า และรับจ้างในตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทย กว่า 8 พันคน ทำให้บรรยากาศบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ ขาเข้ามีบรรยากาศที่คึกคัก
ส่วนช่องทางขาออกไปกัมพูชา ด่าน ตม.อรัญประเทศ ยังมีนักพนันชาวไทย เดินทางออกไปบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ไม่มากเท่าที่ควร โดยมีนักพนันบางตากว่าปกติ จากการสอบถามพนักงานต้อนรับของบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่ง ซึ่งคอยอำนวยความสะดวกให้นักพนันบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ ต่างยอมรับว่า นักพนันชาวไทยยังเดินทางมาที่บ่อนฯน้อยกว่าปกติโดยลดลงกว่าเดิมถึง 40% แต่ก็ยังดีกว่าช่วงที่เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเพราะตอนนั้นเหลือแค่ 20%
โดยพนักงานคนดังกล่าวบอกว่า สาเหตุเนื่องจากนักพนันบางส่วนได้เดินทางไปเสี่ยงโชคในบ่อนชายแดนภาคเหนือ กันมาก และยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ทางชายแดนด้านติดกับเขมร เนื่องจากยังมีข่าวเรื่องรัฐบาลเขมรจับวิศวกรชาวไทยในพนมเปญ ทำให้นักพนันหวั่นเกรงอยู่
ส่วนบรรยากาศการค้าในตลาดโรงเกลือ ซึ่งกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วโดยมีชาวเขมรมาเปิดร้านค้าขายกันเต็มทุกร้าน โดยเฉพาะต่างขนเสื้อกันหนาวและผ้าห่มออกมาแขวนและวางขายกันเป็นจำนวนมาก แต่บรรยากาศการค้ากลับไม่คึกคักเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมา ตลาดโรงเกลือยังน้อยอยู่ เนื่องจากข่าวการที่รัฐบาลกัมพูชาจับกุมวิศวกรไทยตั้งข้อหาจารกรรม และมีการตอบโต้กันไป-มา ระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยกล้ามาตลาดโรงเกลือ เนื่องจากเกรงปัญหาบานปลายทำให้ด่านพรมแดนถูกปิด
ส่วนพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ยังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันถึงกรณีเช้าวันนี้ประมาณ 06.00 น.สถานีวิทยุของกัมพูชา ซึ่งรับฟังได้ในตลาดปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยผู้ประกาศ ได้ชักชวนชาวเขมรทุกคนให้รักประเทศและสนับสนุนรัฐบาลฮุน เซ็น และชักชวนให้ชาวเขมรร่วมคัดค้าน ไม่ให้รัฐบาลกัมพูชาหรือสมเด็จฮุน เซ็น ปล่อยตัววิศวกรชาวไทยที่ถูกจับข้อหาจารกรรม โดยหาว่าเป็นสายลับของไทย ซึ่งก็มีชาวเขมรหลายคนเห็นด้วยแต่ก็ยังมีพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรจำนวนไม่น้อยอยากให้รัฐบาลกัมพูชาปล่อยคนไทย เพื่อความสัมพันธ์จะได้กลับมาเหมือนเดิม
นางยอ เสยือม อายุ 40 ปี ชาวเขมรที่มาค้าขายเสื้อผ้ามือสอง ในตลาดโรงเกลือ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ขณะที่ชาวเขมรกำลังจะเดินทางมาค้าขายในตลาดโรงเกลือ สถานีวิทยุกัมพูชา ซึ่งรับฟังได้ที่ตลาดปอยเปต ผู้จัดรายการซึ่งเป็นผู้ชาย ได้ชักชวนชาวเขมรให้ร่วมกันคัดค้านอย่าให้สมเด็จฮุน เซ็น ปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับข้อหาจารกรรม คืนให้ประเทศไทย
โดยกล่าวหาว่าคนไทยคนดังกล่าวเป็นสายลับรัฐบาลไทยส่งมาล้วงความลับ กัมพูชา และยังพูดว่าให้สมเด็จฮุน เซ็น เข้มแข็งอย่ายอมรัฐบาลไทย นางยอ เสยือม ยังบอกอีกว่าจากคำประกาศของวิทยุกัมพูชา มีชาวเขมรหลายคนไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดโรงเกลือต่างไม่เห็น ด้วย
โดยบอกกันว่ารัฐบาลกัมพูชาควรปล่อยคนไทยเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาจะได้กลับมาเหมือนเดิม
ทั้งนี้นางยอ บอกอีกว่า ไม่อยากให้กัมพูชาและไทย ทะเลาะกันเพราะทะเลาะทีไรกระทบการค้าชายแดนทุกที จึงอยากให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา มีการพูดคุยดีๆกันเหตุการณ์จะได้ไม่ตึงเครียดอีก
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัว ว่า ตนได้มอบให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพื่อเข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ โดยยอมรับว่า ตนไม่สบายใจหลังได้รับทราบข่าวว่าเรือนจำเพรย์ซอว์ไม่อยู่ในมาตรฐานสากล
จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมไปดูแลผู้ต้องหาชาวไทยว่า ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีอย่างไร และเชื่อว่าฝ่ายผู้ต้องหาเองคงต้องการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ทั้งนี้ยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือก้าวก่ายการดำเนิน คดีของทางการกัมพูชา แต่จะขอเข้าตรวจสอบว่ามีการดูแลผู้ต้องหาชาวไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่
ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดกฎหมายอาญาของประเทศกัมพูชาว่าเหมือนหรือแตกต่าง กับกฎหมายอาญาของไทยอย่างไร แต่เชื่อว่าโดยหลักการกฎหมายของแต่ละประเทศคงไม่แตกต่างกัน แต่ในรายละเอียดอาจแตกต่างกันได้บ้าง
นางสุวณา กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะเข้าไปดูแลผู้ต้องหาชาวไทยในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ตามที่ได้รับมอบหมายจากรมว.ยุติธรรม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้กรมคุ้มครองสิทธิฯจะต้องเข้าไปดูแลคนไทยที่ ถูกจับกุมดำเนินคดีในต่างประเทศทุกราย แต่จะเน้นไปในกรณีที่มีเหตุวิกฤติ ซึ่งกรณีของนายศิวรักษ์นั้นถูกจับกุมตัวเป็นเวลานานและเพิ่งมีการแจ้งข้อหา เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาในวันที่ 23 พ.ย.นี้ พ.ต.อ.ทวีได้รับหน้าที่ในการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและทางการกัมพูชา เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์