แม่วิศวกรซบเด็กจิ๋วไม่พึ่งมาร์ค

แม่วิศวกรซบเด็กจิ๋วไม่พึ่งมาร์ค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อ๋อยให้ส่งทุตกลับหวังฟื้นคืนดีเขมร

รอรัฐบาลไม่ไหวแม่ศิวรักษ์เข้าพบเด็กบิ๊กจิ๋วปิดห้องคุย 2 ชั่วโมง ยิ้มได้มีผู้ใหญ่พร้อมช่วย ยัน พล.อ.ชวลิต ไม่แย่งซีนบินไปรับตัววิศวกร ไทย ปล่อยตามขั้นตอนการทูต นายกฯ ย้ำ บัวแก้ว ดูมาตรการคุ้มครองนักลงทุน ตั้งหาทนายเข้าช่วย ศิวรักษ์ ขึ้นศาลกัมพูชา กษิต ท้า จตุพร เปิดเทปลับ ย้อนไปรับใช้เขมรตั้งแต่เมื่อไร ลั่นอยากฟังของจริง ชวนนท์ เผยโฆษกเขมรยันไม่มีการดักฟัง บมจ.สามารถ วอนรัฐบาลเร่งเคลียร์ปัญหา เผยลงทุนสะดุด ปณิธาน โวมาตรฐานการการทูตไทยยังเจ๋ง อ๋อย ถามรัฐบาล แม้ว กลับแล้วทำไมไม่คืนทูตเข้าประจำการ บรรณวิทย์ สับ นายกฯ-สุเทพ อืด จ้องแจ้งจับปล่อย แม้ว บินผ่านน่านฟ้าไทย ทักษิณ ทวิตฯ แหย่ขยับมาอยู่อีสาน สาทิตย์ จ้องรวบ จักรภพ ปล่อยข่าวขนอาวุธเข้าไทย

* สั่งหาช่องคุ้มครองนักลงทุน

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้แต่งตั้งผู้แทนของ State Secretariat of Civil Aviation ของประเทศกัมพูชา เข้ามาดูแลกิจการของ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟ ฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ในเครือของ บมจ.สามารถ คอร์เปอเรชั่น เป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้พนักงานชาวไทยเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทว่า มีประเด็นที่มีการดำเนินการกับบริษัทดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเข้าไปดูเรื่องข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุน และ ทางบริษัทฯ คงได้ปรึกษากับทางกระทรวงฯอีกครั้งว่าจะรักษาสิทธิของตัวเองได้อย่างไร

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้บริษัทเอกชนของไทยที่ลงทุนในกัมพูชาเสียขวัญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราต้องอธิบาย ให้เข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจากอะไร เมื่อถาม ว่าถือว่าเหตุการณ์ลุกลามบานปลายจากการจับ กุมตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะเมื่อเขาตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความลับ เขาก็พยายามจะใช้มาตรการที่อ้างว่าเพื่อรักษาความมั่นคงของเขา ส่วนเรื่องอื่น ๆ กระบวนการยุติธรรมคงเดินต่อไป เราก็ดำเนินการเรื่องทนายความตนเข้าใจว่าได้ตัวแล้ว ทั้งนี้ยังไม่มีสัญญาณ ที่บอกชัดว่าเรื่องจะลุกลามบานปลาย และด้านอื่นยังไม่มีอะไรผิดปกติ

* ไม่ให้ราคาเทปลับแฉกษิต

ผู้สื่อข่าวถามว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่าจะเปิดเทปบันทึกเสียงลับที่อ้างว่าเป็นการพูดคุยสั่งการระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กับเลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เห็นเปิดอะไรเลยนี่ครับ ผมก็เพิ่งทราบว่าคุณจตุพรกับทางกัมพูชามีการแบ่งข้อมูลกันอยู่ เจ้าตัวบอกเองว่าทางกัมพูชาเก็บข้อมูลไว้ ก็แสดงว่าทางกัมพูชากับคุณจตุพรต้องติดต่อกัน เมื่อถามว่าคิดว่าจะส่งผลอย่างไรต่อคดีและการดำเนินการของรัฐบาลไทยในขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีผล และเห็นว่านายกษิตก็ท้าให้เปิดเทปนี้

เมื่อถามต่อว่าเรื่องนี้จะถือว่านาย จตุพรที่เป็น ส.ส.ไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบ ทราบแต่ว่าแปลกอยู่ว่าจะรักษาผลประโยชน์ของคนไทยกันหรือเปล่า เมื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทยที่ พัฒนาไปถึงขั้นที่มีการนำผลประโยชน์ของ ชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปแลก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามคนทำสิ่งเหล่านี้ แต่ตนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ทำกันอยู่แบบนี้ คนอื่นเขาไม่ทำกัน อย่างไรก็ตามตนหวังว่าจะได้สติกัน ไม่ไปเอาประโยชน์ของประเทศหรือของคนไทยไปแลกกับอะไร

* ตอกจตุพรรับใช้กัมพูชา

นายกษิต กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร อ้างว่ามีเทปบันทึกเสียงลับที่อ้างว่าเป็นการพูดคุยสั่งการระหว่างนายกษิต กับอัครราชทูตและเลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญว่า ถ้านายจตุพรมีก็ขอให้นำมาเปิด เพราะตนก็อยากฟังเสียงตัวเองด้วย ทั้งนี้ ตนขอถามกลับไปยังนายจตุพรว่าเป็น ส.ส. มีหน้าที่ดักฟังโทรศัพท์ หรือทำงานรับใช้ประเทศกัมพูชา

ส่วนกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาสั่งห้ามเจ้าหน้าที่คนไทยเข้าไปทำงานในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส (CATS) ที่อยู่ในเครือบริษัท สามารถ คอร์เปอเรชั่น โดยส่งคนกัมพูชาเข้าไปควบคุมการทำงานและยึดอุปกรณ์ของบริษัทนั้น รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายการลงทุนและกฎหมายภายในของกัมพูชา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะรอรับฟังการรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ และคงต้องสอบถามจากรัฐบาลกัมพูชาให้เกิดความชัดเจนด้วย ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศก็ต้องหาทางดำเนินการต่อไป

* หาทนายช่วยศิวรักษ์แล้ว

สำหรับการให้ความช่วยเหลือนาย ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ที่ถูกควบคุมตัวนั้น นายกษิต ระบุว่า ทางกระทรวงฯได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ไปพูดคุยกับนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ และกำลังรอคำยืนยันจากกัมพูชา ว่าจะอนุญาตให้นางสิมารักษ์เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ได้เมื่อใด นอกจากนี้ กระทรวงฯ ได้ว่าจ้างทนายให้ดำเนินการช่วยเหลือและคุยกับเจ้าของบริษัทแล้ว

นายกษิต ยังกล่าวถึงการที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลกดดันประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อดำเนินการจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้ายิ่งกดดันมาก พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะเดินทางมาแถบชายแดนใกล้กับภาคอีสานว่า พ.ต.ท. ทักษิณจะทำอย่างไรก็ทำ เพราะปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับประเทศ เกิดจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ทั้งนี้ ตนไม่มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเคยเป็นเพื่อน เป็นคนร่วมงาน เป็นลูกน้อง และคอยให้คำปรึกษา แต่ตนก็ต้องทำตามหน้าที่และกฎหมาย แต่ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปอยู่ที่แถบภาคอีสาน เราก็ต้องไปตามตัว

* รอรวบจักรภพโผล่ตัว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโฟนอินแถลงข่าวมายังประเทศไทย ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า นายจักรภพมีหมายจับอยู่แล้ว ต้องดูว่าการโฟนอินมีเนื้อหาที่มีความเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องดำเนินการ รวมทั้งคนที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก หรือเผยแพร่ข่าวก็ต้องระมัดระวังด้วย หากผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการทั้งหมด เพราะเป็นแผนการเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง

นายสาทิตย์ ยังกล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่านายจักรภพไม่ประสงค์ดีแน่ และมีท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ สถาบันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นต้องดูที่มาที่ไปของการโฟนอินใช้ที่ไหนของห้างอิมพีเรียล ต้องดูว่าเข้าข่ายกฎหมายใดหรือไม่ที่จะต้องดำเนินการ เพราะถึงเวลาแล้วที่เราต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศไม่รู้จักจบ

* วอนสื่ออย่าตกเป็นเครื่องมือ

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้สื่อต่างประเทศเคยรายงานว่านายจักรภพขนอาวุธมาทางภาคอีสาน รัฐบาลได้รับทราบข้อมูลหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องติดตามต่อไป ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการเสนอข่าว ต้องกรอง อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนที่ไม่หวังดีกับบ้านเมือง เพราะบางทีเพียงแค่ทวิตเตอร์สั้น ๆ ไม่เกิน 140 คำนำมาขยายเป็นข่าวใหญ่โตจนสร้างความสับสน เมื่อถามต่อว่าแล้วรัฐบาลจะจัดการกับความเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้อย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลจัดการอยู่ตลอดเวลา เขาก็หนีตลอด โจรก็หนีรัฐบาลก็มีหน้าที่จับโจร เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากรณนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้า นายสาทิตย์ กล่าวว่า มีที่มาที่ไปแน่นอน และมีความซับซ้อนมาก ไม่ใช่แค่ไปจัดการคนไทยคนหนึ่งแต่เป็นลักษณะของการไปแก้แค้น ซึ่งมีเบื้องลึกและเบื้องหลังมากกว่านั้นเยอะ โดยเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ ด้วย อีกระยะหนึ่งคงจะรู้ข้อเท็จจริง

* เผยโฆษกเขมรแจงไม่ดักฟัง

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขา นุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร ระบุว่าจะให้ทางการกัมพูชาเป็น ฝ่ายเปิดเทปลับที่อ้างว่าเป็นนายกษิต สั่งการกับเลขานุการเอกของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ และอ้างว่าการดัก ฟังโทรศัพท์ในกัมพูชาถือเป็นเรื่องปกติว่า การกล่าวหาว่าประเทศอื่นมีการดักฟังและอัด เทปจึงถือว่าเป็นการดูหมิ่นเขา ดังนั้น อย่าพยายามสร้างเรื่องราวให้เกิดความขัดแย้งบานปลาย นอกจากนี้ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ออกมาปฏิเสธชัดเจนว่าเขาไม่มีการดักฟังหรือยุ่งเกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคลของใคร

นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงข่าวที่ว่าทางการกัมพูชาจะนำตัวนายศิวรักษ์ ขึ้นศาล ภายใน 1-2 วันว่า เข้าใจว่าต้องขึ้นศาลเร็ว ๆ นี้ ยังไม่รับแจ้งวันที่ชัดเจน ทั้งนี้เข้าใจว่ากระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนการประกันตัว เราต้องทำแน่นอน ขึ้นอยู่กับ รัฐบาลกัมพูชว่ามองเรื่องนี้เป็นภัยต่อความมั่นคงขนาดไหน และจะมีข้อยกเว้นอะไรหรือไม่ ส่วนกรณีที่กัมพูชาเข้ายึดบริษัท CATS นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสัญชาติของบริษัทนี้ และหุ้นใหญ่เป็นของชาติใดระหว่าง ไทยหรือสิงคโปร์ รวมถึงเข้าข่ายกฎหมายข้อไหนในการปกป้องการลงทุน

* รอรัฐบาลช่วยเหลือนักลงทุน

นายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยว่า กรณีที่มีการจับกุมนายศิวรักษ์ ในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการนำข้อมูลตารางการบินไปเปิดเผย รัฐบาลกัมพูชาจึงได้แต่งตั้งผู้แทนของ State Secretariat of Civil Aviation ของประเทศกัมพูชา เข้ามาดูแลกิจการของบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% เป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้พนักงานชาวไทยเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทดังกล่าว โดยขณะนี้ยังให้บริการภายใต้การควบคุมดูแลของผู้แทนดังกล่าว และบริษัทอยู่ระหว่างการประสานงาน รวมทั้งขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ในการเจรจากับรัฐบาลกัมพูชา เพื่อ คลี่คลายสถานการณ์

สำหรับบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส ประกอบธุรกิจจัดตั้งระบบและให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ได้รับจากรัฐบาลกัมพูชา รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 32 ปี จากปี พ.ศ. 2544-2576 ปัจจุบัน มีรายได้จากการให้บริการประมาณ 800 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของรายได้รวมของกลุ่มบริษัทสามารถ โดยประเทศไทยและกัมพูชา มีข้อตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างกัน ขณะที่บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัท Axiata Group Berhard รัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมของประเทศมาเลเซียถือหุ้นอยู่ด้วย ในสัดส่วน 18.96%

* ปณิธานโวการทูตไทยแข็ง

ที่อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวในการเสวนา หยุดศึก ชักศึก หรือ เปิดศึก ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในกระแสความขัดแย้งการเมืองไทย ว่า ปัญหา ระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นปัญหาลิ้นกับฟัน ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ยังเป็นเพื่อนบ้านกันอยู่ แม้ความสัมพันธ์ครั้งนี้ถูกปรับระดับทางการทูตลงมา แต่ภาพรวมคิดว่ายังมีพื้นฐานที่ดี นอกจากนี้ทางการไทยได้รับการยอมรับว่ามีจุดแข็งทางการทูต และมีสิ่งที่เหนือกว่าอดีตนายกฯ ที่ผ่าน ๆ มา คือ ความรวดเร็วและแม่นยำ

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า ปัญหาทั้งหมดนี้ยืนยันว่าเราเองไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปรับระดับความสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศ มันเป็นเพียงการลดระดับความสัมพันธ์ ดังนั้นมีความยินดีที่จะยกระดับความสัมพันธ์กลับคืนอีกครั้งเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนแปลง หรือย้อนกลับไปครั้งก่อนที่กัมพูชาจะแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา อีกทั้งประเทศอินโดนีเซียไม่เคยเสนอตัวมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยปัญหาอย่างที่เป็นข่าว เพียงแต่มาขอรับฟังในฐานะเพื่อนบ้าน

* อ๋อยถามทำไมไม่ส่งทูตกลับ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กล่าวว่า ยอมรับว่ากระแสความรู้สึกชาตินิยมกำลังแรง และส่วนตัวคิดว่าความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่รัฐบาลกล่าวอ้าง สถาน การณ์โลกจากวิกฤติเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นโอกาสทองของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนที่จะเจรจากับประเทศมหาอำนาจ รวมทั้งขณะนี้มีหลายฝ่ายมักแสดงความคิดเห็นโดยลืมไปว่าประเทศกัมพูชาเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อไทย ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในปัจจุบันคือต้องผูกมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ผนึกอาเซียนให้แข็งแกร่ง และไปแสดงบทบาทกับประเทศมหาอำนาจเพื่อใช้ประโยชน์จากเวทีโลกให้เกิดประโยชน์กับประเทศตัวเอง

นายจาตุรนต์ กล่าวถึงกรณีที่มีการ กล่าวหาว่า พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ชักศึกเข้าบ้านว่า เป็นเรื่องธรรมดาของฝ่ายค้านที่จะไปแลกเปลี่ยนข้อมูลกับต่างประเทศ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นคือมีความตั้งใจสร้างความขัดแย้ง และถูกขยายมากจนเกินไปด้วยกระแสความคิดชาตินิยมและมีแนวโน้มคลั่งชาติ เพื่อทำลายคู่แข่งทางการเมือง ขอถามรัฐบาลว่าเหตุที่เรียกทูตกลับเป็นเพราะอะไร เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณออกนอกประเทศกัมพูชา แล้วถามว่าทำไมทูตยังไม่ได้กลับไปทำงานเช่นเดิม ส่วนเรื่องวิวาทะระหว่างสองประเทศ นั้น ส่วนตัวตนมองว่ามีการกล่าวหาด้วยคำพูดที่รุนแรงพอ ๆ กัน

* เตือนโดนเขมรปีนเกลียว

พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศเดินมาไกลเกินกว่าคิดจะรักษาผลประโยชน์ ของประเทศเท่านั้น แต่ต้องคิดให้สมดุลกับผลประโยชน์ของภูมิภาคและเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าประเทศของเราดำเนินนโยบายการต่างประเทศอ่อนแอมาก จนประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาสามารถมาขยายผลจากจุดอ่อนนั้นได้ สิ่งนี้เองทำให้กัมพูชากล้ารุกด้านการต่างประเทศมากขึ้น ดังนั้นในมุมมองด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงแล้ว หากปล่อยความขัดแย้งนี้เนิ่นนานไปจะทำให้บทบาททางการเมืองของประเทศกัมพูชาตีคู่ขึ้นมาเทียบเท่าไทยได้มากขึ้น

อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อว่า การตอบโต้กันระหว่างประเทศจำเป็นต้องดูข้อจำกัดในประเทศตัวเองด้วย อย่าไปยึดวิธีการของประเทศใหญ่ที่ใช้ตอบโต้ประเทศเล็ก เพราะมีบทเรียนว่าจะทำให้ความขัดแย้งขยายตัวเพิ่ม ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีกรอบคิดใหม่ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ตนคิดว่าประเทศไทยเราน่าจะได้บทเรียนหลายประการ หากรัฐบาลมุ่งสร้างประเทศให้เข้มแข็งขึ้น ตนเชื่อว่าปัญหา ไทยกัมพูชาจะลดระดับลงได้

* สับนายกฯ-สุเทพฝีมือฝืด

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจรัฐของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนจะไปร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ในมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีที่นายสุเทพ ได้แถลงข่าวต่อ สื่อมวลชนว่าทราบตารางการบินของ พ.ต.ท. ทักษิณ เพราะตารางการบินไม่ได้เป็นความลับนั้น แล้วเครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณมา ก็บินผ่น่านฟ้าไทย ทำไมนายสุเทพไม่แจ้งกองทัพอากาศ ดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อบังคับให้เครื่องบินลงได้

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ยังกล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงไม่ทำ หรือนายสุเทพ กลัวว่าหากมีการจับกุมจะเกิดการเดินขบวน หรือเป็นเพราะว่าทั้งนายอภิสิทธิ์ และนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ไม่มีความรู้ในเรื่องระหว่างประเทศและการรักษาความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ ตนเห็นว่า กรณีที่ นายศิวรักษ์ ถูกจับกุมตัวในข้อหาขโมยข้อมูลลับ อันมีผลต่อความมั่นคงของชาติ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปาหี่ทางการเมือง ที่เป็นการจัดฉากที่ต้องการให้ พ.ต.ท. ทักษิณเป็นฮีโร่ เรื่องดังกล่าวนั้นตัววิศวกรที่ถูกจับและแม่ของวิศวกรนั้นคงไม่ทราบ

* แม้วทวิตแหย่ขออยู่อีสาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ระบุว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นของสูงไม่ควรนำมาเป็น เครื่องมือทางการเมืองเพื่อตนเองหรือเพื่อทำลายคนอื่นผู้ใดทำผู้นั้นไม่รักจริงเพียงหาประโยชน์ ผมขอขอบคุณรวม ๆ สำหรับกำลังใจทุกกำลังใจที่ส่งมารวมทั้งทุกความห่วงใยครับและผมขอฝากความห่วงใยเช่นกันมายังทุกท่านยามบ้านเมืองไร้ทิศทางไร้ยุติธรรม

นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นตอบสมาชิกรายหนึ่งซึ่งเข้ามาสอบถามความเป็นอยู่ในดูไบหลังรัฐบาลไทยแจ้งทูตดูไบว่า ได้ใช้ดูไบเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการ เมืองด้วยว่า ถ้ามันวุ่นวายนักผมจะไปอยู่แถวชายแดนอีสานเสียเลยดีไหมครับ?

* ประเมินม็อบงัดพ.ร.บ.ขู่

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะมาอยู่แถบชายแดนภาคอีสานว่า ถ้ามาก็ต้องเข้ามารับโทษตามกฎหมาย เมื่อถามว่าจะเข้าทางของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศจะปิดเกมให้ได้ภายใน วันที่ 3 ธ.ค. นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องเกม และรัฐบาลไม่ประสงค์จะเล่นเกม แต่ต้องการรักษาระบบกฎหมายและ ความถูกต้องในบ้านเมือง เมื่อถามว่ารัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ต่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปลายเดือนนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายข่าวต้องหยิบยกขึ้นมาก่อน ถ้าเห็นว่ามีความเหมาะสม จึงจะเสนอเรื่องนี้เข้ามา แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร

ต่อข้อถามว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเคยเสนอข้อความในเว็บไซต์ส่วนตัวว่าอาจเกิดเหตุระเบิดใน การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ไม่ให้ความร่วมมือหลังจากที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เชิญตัวมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูและต้องดำเนินการต่อไป เพราะทุกหน่วยงานต้องให้ความร่วมมือ และ พล.ต.ขัตติยะพูดเรื่องนี้ออกมาเอง แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ พล.ต.ขัตติยะ จึงควรให้ความร่วมมือกับ บ้านเมือง

* แม่ศิวรักษ์คุยพท.หาช่องช่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องคณะกรรม การประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้ าน อาคารรัฐสภา เวลาประมาณ 15.00 น. นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดา ของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกกัมพูชาควบคุมตัว พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัชรินทร์ ณ นครพนม ได้เดินทางเข้าพบ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและพล.ต.ศรชัย มนตริวัตร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และประธานพรรคเพื่อไทย โดยใช้เวลาพูดเป็นการส่วนตัวนานกว่า 2 ชั่วโมง

โดยมารดาของนายศิวรักษ์ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด ระบุเพียงว่า หลังจากได้พูดคุยก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น ทราบว่าผู้ใหญ่ได้มีการพูดคุยกันแล้วและผู้ใหญ่รับปากว่าจะช่วยดูแลให้ ส่วนลูกชายสบายดี เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศได้นัดหมายวันเดินทางไปกัมพูชาหรือยัง นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้นัดหมายมา

* สบายใจหลังรู้มีผู้ใหญ่ช่วย

นายชวลิต กล่าวว่า เหตุผลที่มารดาของนายศิวรักษ์ มาพบตนเนื่องจากเป็นคน จ.นครพนม ด้วยกัน ตนรู้จักกับ พ.ต.อ. พัชรินทร์ ซึ่งเป็นญาตินางสิมารักษ์มาตั้งแต่สมัยที่ตนยังรับราชการเป็นนายอำเภอท่าอุเทน ส่วน พ.ต.อ.พัชรินทร์เป็นสารวัตรใหญ่ขณะนั้น การที่มาพูดคุยกับตนเพราะนางสิมารักษ์อยากรู้ว่าลูกชายสุขสบายดีหรือไม่ตามประสาหัวอกคนเป็นแม่ เมื่อทราบว่าผู้ใหญ่ช่วยดำเนินการประสานก็สบายใจขึ้น

พล.อ.ชวลิต ได้ติดต่อไปทางผู้ใหญ่ของกัมพูชานานแล้ว ตั้งแต่หลังเกิดเรื่องไม่นาน แต่ท่านต้องการให้ยึดระบบตามหลักของกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ชวลิตจะเป็นเพียงตัวช่วยเสริมเท่านั้น และท่านเป็นสุภาพบุรุษพอจะไม่แย่งซีนใคร นายชวลิต กล่าว เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิตจะร่วมเดินทางไปกัมพูชากับมารดาของนายศิวรักษ์หรือไม่ นายชวลิต กล่าวว่า ทางสถานทูตเตรียมการให้อยู่แล้ว ซึ่งทราบว่าอุปทูตได้ติดต่อมาหานางสิมารักษ์แล้ว แต่ พล.อ.ชวลิต บอกให้ยึดตามช่องทางตามระบบไป

* ยันจิ๋วไม่จุ้นปล่อยรัฐบาลลุย

เมื่อถามว่าได้ต่อสายให้นางสิมารักษ์พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต หรือไม่ นายชวลิต กล่าวว่า เป็นมารยาทที่ตนตอบไม่ได้ เมื่อถามว่าเหตุใดนางสิมารักษ์ถึงไม่ไปพบผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง นายชวลิต กล่าวว่า การพูดคุยกับเราเป็นเรื่องส่วนตัว แต่นางสิมารักษ์ก็เข้าพบทั้งสองทางอยู่แล้ว

พล.ต.ศรชัย กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต คงจะไม่เดินทางไปกัมพูชาร่วมกับมารดา ของนายศิวรักษ์ เพราะปล่อยให้เป็นไป ตามกระบวนการของรัฐบาลไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่ พล.อ.ชวลิตก็ช่วยประสานพูดคุยกับกัมพูชา ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ท่านก็ได้ทำหน้าที่ไปแล้ว เมื่อถามว่า ทำไมนางสิมารักษ์ ถึงได้ประสานขอให้ พล.อ.ชวลิตช่วย พล.ต.ศรชัย กล่าวว่า เขาก็คงเป็นห่วงเป็นธรรมดา มาขอคำปรึกษาแต่เราก็ได้บอกให้เขาสบายใจได้ ที่เหลือก็เป็นไปตามกระบวน การ เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่ว่าหมายถึงความ ขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชาหรือไม่ พล.ต.ศรชัย กล่าวยอมรับว่า ใช่ เป็นอย่างนี้ใครก็ต้องคิดทั้งนั้นแต่วันนี้หลังจากพูดคุยเขาก็สบายใจแล้ว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook