หนุ่มขับชนกรวยบนทางด่วน ยกพวกขึ้นโรงพัก ต่อยตำรวจจมูกแตก-นิ้วก้อยหัก

หนุ่มขับชนกรวยบนทางด่วน ยกพวกขึ้นโรงพัก ต่อยตำรวจจมูกแตก-นิ้วก้อยหัก

หนุ่มขับชนกรวยบนทางด่วน ยกพวกขึ้นโรงพัก ต่อยตำรวจจมูกแตก-นิ้วก้อยหัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มยกพวกขึ้น สน. ทางด่วน 1 ถามสาเหตุตั้งกรวยยางบนทางด่วน หลังขับชนจนรถเสียหาย ตำรวจชี้แจงกลับถูกต่อยจมูกหัก นิ้วก้อยมือขวาหัก 

(28 พ.ย.64) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.ท.อารัญ ชวานนท์ รอง สว.จร.งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน กก.2 บก.จร. ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.64)​ เวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สน.ทางด่วน 1 ได้มีชายทราบชื่อต่อมา นายสิทธิโชค ศาลา อายุราว 32 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน เดินทางมาที่โรงพัก โดยแจ้งว่า เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. ได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ขึ้นมาตามทางด่วนท่าเรือ 2 มุ่งหน้าบางนา ก่อนเฉี่ยวชนกรวยยาง ซึ่งตั้งอยู่บนผิวจราจร จนทำให้รถได้รับความเสียหาย ตนจึงพยายามชี้แจงสาเหตุการตั้งกรวยยางและอธิบายข้อกฎหมายให้ทราบ

ร.ต.ท.อารัญ เปิดเผยต่อว่า จากนั้น นายสิทธิโชคได้โต้แย้ง แล้วเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวและแสดงความไม่พอใจ ตนจึงแจ้งให้มาติดต่อเจ้าพนักงานจราจรในเวลาราชการ แต่ชายดังกล่าวกลับพูดจาเสียงดังข่มขู่ และนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ ตนเลยยกมือขึ้นปิดหน้ากล้องพร้อมบอกให้ใจเย็นๆ นายสิทธิโชคได้ใช้กำปั้นชกเข้าบริเวณใบหน้าตนจนเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ขณะที่กลุ่มเพื่อนชายดังกล่าวที่มาด้วยแสดงท่าทีจะเข้าทำร้าย ทาง ด.ต.สินสาคร ศรีโสมาศ ซึ่งทำหน้าที่สิบเวรได้เข้ามาห้ามปราม ซึ่งหลังจากนายสิทธิโชคก่อเหตุแล้วก็ได้ขับรถออกจากโรงพักไป ส่วนตนถูกส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.ตำรวจ แพทย์ได้เย็บบาดแผลบริเวณจมูก 2 เข็ม และวินิจฉัยว่ากระดูกนิ้วก้อยมือขวาหัก

ร.ต.ท.อารัญ เปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าระหว่างที่ตนเข้ารับการรักษาอยู่นั้น ทางนายสิทธิโชค คู่กรณี ได้ไปแจ้งความเอาผิดตนข้อหาทำร้ายร่างกายกับพนักงานสอบสวนที่สน.ท่าเรือ โดยอ้างว่าฝ่ายตนซึ่งเป็นตำรวจพยายามจะชักปืน และต่อยนายสิทธิโชคก่อน ตนจึงเข้าแจ้งความที่ สน.ท่าเรือ ด้วย เบื้องต้นในส่วนเรื่องแจ้งข้อหา ตอนนี้ยังไม่สามารถแจ้งได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงขอภาพจากกล้องวงจรปิดบนทางด่วน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook