ข่มขืนฆ่าป.5 ดาวเด่นร.ร.แปดริ้วทิ้งไร่มัน

ข่มขืนฆ่าป.5 ดาวเด่นร.ร.แปดริ้วทิ้งไร่มัน

ข่มขืนฆ่าป.5 ดาวเด่นร.ร.แปดริ้วทิ้งไร่มัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนร้ายลากหนูน้อยวัย 11 ข่มขืนยับ ใช้เชือกหูรูดกางเกงรัดคอ ขันชะเนาะฆ่าดับสยอง หมกศพทิ้งไร่มันสำปะหลังเมืองแปดริ้ว หลังพ่อปล่อยให้นอนอยู่บ้านเพียงลำพัง เผยเป็นเด็กหน้าตาดี แถมทำกิจกรรมเป็นดาวเด่น ร.ร. ตร.ล่าตัว เชื่อฝีมือคนรู้จักในพื้นที่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2552 ร.ต.ท.จรัญ ดลโสภณ พนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ประวัติ แพพ่วง รอง ผกก. สภ.สนามชัยเขต พ.ต.ท.สมบูรณ์ อุดม สวป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวรจาก รพ.สนามชัยเขต เข้าตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งจากคนงานในไร่มันสำปะหลังว่าพบศพเด็กสาวถูกฆ่ารัดคอ

ที่เกิดเหตุกลางไร่มันสำปะหลัง ซึ่งห่างจากด้านหลังวัดท่าซุงเก่า พื้นที่หมู่ 3 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ประมาณ 300 เมตร พบศพถูกฆ่ารัดคอด้วยเชือกหูรูดกางเกงสีขาวแบบขันชะเนาะติดอยู่กับโคนต้นมันสำปะหลัง สวมชุดนอนสีฟ้าลายดอกไม้ นอนในลักษณะตะแคงข้างคว่ำหน้าแบบติดกับคันดินร่องมัน ใต้ศพมีผ้าขนหนูผืนใหญ่และรองเท้าหนังแบบสวมสีดำตกอยู่ 1 คู่ ที่เกิดเหตุพบรอยเท้าของคนร้าย และร่องรอยการดิ้นแบบทุรนทุรายต่อสู้ของเหยื่อ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 24 ชั่วโมง

จากการชันสูตร พบว่าหนูน้อยรายนี้ถูกคนร้ายลงมือข่มขืนจนมีเลือดไหลออกมาจากอวัยวะเพศเปื้อนติดอยู่ รวมทั้งยังติดแห้งกรังอยู่ที่เป้ากางเกงชุดนอน นอกจากนี้ตามแขนขายังมีร่องรอยของการดิ้นรนต่อสู้จนมีรอยถลอก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บเศษเส้นผมและขนเพชรของคนร้ายไว้ได้ในที่เกิดเหตุ

สอบสวนบิดาให้การว่า ลูกสาวหายตัวไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน หลังจากพบกันครั้งสุดท้ายอยู่ที่บ้าน เมื่อเวลา 20.00 น. ก่อนที่ตนจะออกไปรับจ้างกรีดยางยังต่างหมู่บ้าน และได้กลับมาบ้านพักอีกครั้งเมื่อเวลา 04.00 น. เพื่อส่งไปโรงเรียนตอนใกล้รุ่งสางวันที่ 21 พฤศจิกายน เพื่อจะเดินทางไปประกวดการแสดงตีกลองยาวของนักเรียนที่ จ.ชลบุรี แต่ไม่พบบุตรสาว

จากนั้นจึงเข้าไปแจ้งความต่อตำรวจว่าบุตรสาวหายตัวไป ทั้งยังแจ้งผู้ใหญ่บ้านและกำนันให้ช่วยกันออกมาช่วยค้นหา แต่ก็ไร้วี่แวว จนมาพบอีกครั้ง หลังจากมีคนงานในไร่มันเข้ามาถางไร่เพื่อขุดหัวมัน เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ทั้งนี้เหตุที่ปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากตนและอดีตภรรยาเลิกรากันตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ เมื่อ 8 ปีก่อน ส่วนตนนั้นมาอยู่กินกับภรรยาใหม่ที่บ้าน ในวันเกิดเหตุภรรยาใหม่ไปทำงานกะกลางคืน ส่วนตนไปรับจ้างกรีดยาง จึงปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านลำพัง หากภรรยาใหม่เข้ากะกลางวันและตนไม่ได้ไปกรีดยางก็คงไม่เกิดเหตุนี้ขึ้น

นางวิรัตน์ ช่วยงาน อายุ 36 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ทราบว่าเด็กคนนี้นิสัยดี ขยันช่วยงานโรงเรียน และยังเป็นดาวเด่นของโรงเรียน ร่วมทำกิจกรรมการแสดงต่างๆ ของโรงเรียน ทั้งฟ้อนรำ การแสดงตีกลองยาว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีชื่อเสียงของโรงเรียน และเป็นเด็กหน้าตาดี จึงทำให้คนร้ายหมายที่จะเข้ามาข่มขืนทำร้าย เพราะทราบว่าอยู่บ้านเพียงคนเดียว และบ้านยังปลูกสร้างด้วยไม้ยกพื้น ฝาประตูหน้าต่างเป็นสังกะสี ไม่มีห้องกั้น อยู่เป็นหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ห่างออกมาจากในตัวชุมชน จึงค่อนข้างเปลี่ยวในเวลากลางคืน

นางบังอร เจริญแพทย์ อายุ 58 ปี กำนันตำบลลาดกระทิง กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้านในวันที่เด็กหายตัวไป ได้พากันช่วยออกค้นหาอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่พบ ที่ผ่านมาในตำบลและหมู่บ้านบ้านแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุร้ายแรงสะเทือนขวัญ ฆ่าข่มขืนเด็กอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน เด็กคนนี้เป็นเด็กนิสัยดี หน้าตาดี ขยัน และร่วมกับโรงเรียนทำกิจกรรมสร้างชื่อเสียงมาโดยตลอด จนเป็นที่รักใคร่ของครูในโรงเรียน จึงอยากให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว

ด้าน พ.ต.อ.สุรพล กล่าวว่า จากการตรวจชันสูตรในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่และน่าจะลงมือเพียงลำพัง หรือไม่เกิน 2 คน โดยอาจเป็นคนใกล้ชิด รู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี จึงลงมือฆ่าเพื่อปิดปาก เพราะรู้ถึงความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยได้พบหลักฐานหลายอย่างตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทัน คาดว่าถูกลงมือฆ่าทิ้งมาแล้วไม่นานนัก เนื่องจากขณะพบศพ ร่างของผู้เสียชีวิตยังอุ่นอยู่ โดยจะส่งศพไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook