สป.ศธ.กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการ รวมถึงการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน

สป.ศธ.กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการ รวมถึงการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการ รวมถึงการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน เน้นการประเมินผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก เพื่อเตรียมใช้การเลื่อนเงินเดือนในระบบใหม่ในปีงบประมาณ 2553 นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฎิบัติราชการและการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเพื่อเตรียมการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการ รวมถึงการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน เนื่องจากในปีงบประมาณ 2553 จะต้องเริ่มใช้การเลื่อนเงินเดือนในระบบใหม่ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จากเดิมเป็นขั้นเงินเดือน โดยกำหนดให้การประเมินผลการปฏิบัติราชการ มี 2 องค์ประกอบ คือ ผลสัมฤทธิ์ของงาน ร้อยละ 80 และพฤติกรรมการปฏิบัติราชการ หรือสมรรถนะ ร้อยละ 20 จากที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)กำหนดว่าต้องให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ของงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 อย่างไรก็ตามเนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกที่เริ่มใช้ระบบนี้ ที่ประชุมจึงต้องการให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ของงานมากกว่าสมรรถนะ เพราะการกำหนดสมรรถนะของแต่ละสายงานอาจจะยังไม่ชัดเจน แต่หลังมีความชัดเจนแล้ว ก็จะเพิ่มสัดส่วนสูงขึ้น นายชินภัทร กล่าวอีกว่า ในการประเมิน จะมีการกำหนดช่วงคะแนน ตลอดจนกำหนดจำนวนข้าราชการในแต่ละช่วงละคะแนนด้วยเพราะต้องเชื่อมโยงกับการเลื่อนเงินเดือน ซึ่งต่างจากระบบเลื่อนขั้นเงินเดือนในอดีต ที่ไม่มีการกำหนดจำนวนข้าราชการในแต่ละช่วงคะแนน จึงทำให้แม้ผลคะแนนการประเมินออกมาสูง แต่ข้าราชการกลับไม่ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือน เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับมีจำกัด ทั้งนี้การประเมินเพื่อเลื่อนเงินเดือนจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเสร็จสิ้นในวันที่ 31 มีนาคม และช่วงที่ 2 เสร็จสิ้นวันที่ 30 กันยายน 2553
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook