เปิดใจ รปภ.ใจเด็ด เล่านาทีสู้โจรปล้นแบงก์ คิดแค่ว่าต้องหยุดคนร้ายให้ได้

เปิดใจ รปภ.ใจเด็ด เล่านาทีสู้โจรปล้นแบงก์ คิดแค่ว่าต้องหยุดคนร้ายให้ได้

เปิดใจ รปภ.ใจเด็ด เล่านาทีสู้โจรปล้นแบงก์ คิดแค่ว่าต้องหยุดคนร้ายให้ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจ รปภ.ใจเด็ด เล่านาทีสู้โจรปล้นแบงก์ คิดแค่ว่าต้องหยุดคนร้ายให้ได้ วิ่งไปบอกคนในธนาคารไม่ให้ออกมา สุดท้ายโจรเสียชีวิต

จากกรณีชายอายุ 28 ปี คนร้ายใช้อาวุธมีดก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารออมสิน สาขาทียูโดมรังสิตถนนเชียงราก-บางขัน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนเกิดการต่อสู้กับ นายขุนทอง ศรีชัยยะ เจ้าหน้าที่ รปภ.จนคนร้ายเสียชีวิต ส่วน รปภ.ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุเกิดเวลา 14.10 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(3 ธ.ค.64) พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง (รักษาการแทน ผกก.สภ.คลองหลวง) กล่าวว่าในทางสอบสวนเราได้มีการรับการร้องทุกข์เป็นคดีอาญาที่คนร้ายได้ก่อเหตุในครั้งนี้ แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและรอฟังข้อมูลและการชี้แจ้งต่างๆ จากชุดสืบสวน โดยส่วนอาการล่าสุดของ นายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยในเวลาทาง พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี จะเดินทางเข้าเยี่ยม รปภ. ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ส่วนเรื่องคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการในคดีชิงทรัพย์กับคนร้าย แต่ในคดีนี้ทางผู้ก่อเหตุเสียชีวิต ก็จะทำสำนวนในคดีนี้เป็นการสั่งไม่ฟ้อง ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปทั้งหมดจำนวน 143,000 บาท โดยทางธนาคารได้เก็บไปจนเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่แค่ติดตัวคนร้ายอีกประมาณ 1,000 กว่าบาท ก็จะได้ส่งตรวจและนำคืนทางธนาคาร

ขณะที่วันเดียวกันเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ที่อาคารปัญจา สายาลักษณ์ ภายในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารที่ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.

พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวาน ที่ทาง รปภ. ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจและเสียสละ ทาง  พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้มอบหมายให้กระผมเดินทางมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบสิ่งของ และเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในส่วนคดีของทาง รปภ. ที่ใช้อาวุธมีดเพื่อป้องกันทรัพย์สินของธนาคารนั้น ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ก็ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องคดีไปก่อน จนกว่าทาง รปภ. จะสามารถออกจากโรงพยาบาลและมาให้การ เพื่อประกอบสำนวนได้ จึงจะได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

นายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร  กล่าวเปิดเผยว่า ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บที่บาดแผล วานนี้ขณะเกิดเหตุตอนแรกตนเข้าใจว่าเป็นพวกแกร็บหรือไรเดอร์ เพราะพวกเขาไม่ถอดหมวกกันน็อค แต่หลังจากที่คนร้ายมาล็อกคอผมแล้วใช้มีดแทงผมรู้สึกว่าผมร้อนที่คอจึงได้สะบัดแล้ววิ่งหนี โดยได้วิ่งไปบอกกับทางพนักงานของธนาคารว่าไม่ให้ออกมา หลังจากที่คนร้ายได้เงินไปแล้ว ตอนนั้นตนอยู่ข้างนอก จึงได้มองหาอุปกรณ์เพื่อที่จะทำให้คนร้ายไม่สามารถหลบหนีได้ จึงหันไปเห็นเก้าอี้ที่นั่งอยู่จึงได้หยิบมาจังหวะนั้นคนร้ายวิ่งออกมาพอทีจึงได้ใช้เก้าอี้ฟาดคนร้าย คิดในใจต้องสู้ต้องหยุดคนร้ายให้ได้ จึงทำสุดความสามารถ

นางสาวอำพร สีโคกกรวด อายุ 49 ปี ภรรยา รปภ. เปิดเผยว่า ตอนนี้โล่งในเพราะว่าสามีเขาปลอดภัย และมีความภูมิใจที่มีเขาเป็นคนดี โดยในตอนแรกตนเองรู้สึกห่วงมาก แต่ตอนนี้ก็ยังห่วงเพราะแฟนยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ตนเองรู้สึกภูมิใจที่มีแฟนที่ดี และ ช่วยเหลือคนอื่น โดยแฟนบอกว่าจะยังทำงานต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook