งัดกฎเหล็กครึ่งเดือนกำราบแดง''มาร์ค''ลังเลบุกถ้ำเสือ

งัดกฎเหล็กครึ่งเดือนกำราบแดง''มาร์ค''ลังเลบุกถ้ำเสือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ศาลไม่อนุมัติหมายจับแกนนำ ชม.ขู่ฆ่านายกฯ''แม้ว''ทวิตขอบคุณ''ป๋า''

เทพเทือกประกาศกร้าว งัด พรบ.มั่นคงกำราบม็อบเสื้อแดง ชงเสนอ ครม.ใช้ในพื้นที่เขตดุสิต นานถึง 2 สัปดาห์เต็ม ตั้งแต่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.นี้ ล่าสุดย่องเงียบขึ้นเหนือ แอบตรวจสถานการณ์ อาจจำเป็นต้องประกาศ พ.ร.บ.ที่เชียงใหม่ด้วย ขณะที่ มาร์ค เริ่มเสียงอ่อย ก่อนตัดสินใจบุกถิ่นเสื้อแดง ขอรอฟังหน่วยข่าวอีกครั้ง ล่าสุดปูดแผนลับ ระดม ต่างด้าว ผสมโรงชุมนุม ด้านตำรวจ-แรงงาน ผวาโดดรับลูกตรวจสอบทันควัน อ.ปริญญา ออกโรงค้านหัวชนฝาใช้ พ.ร.บ.มั่นคง หวั่นปัญหา 2 มาตรฐาน ทักษิณ ทวิตขอบคุณ ป๋า เปลี่ยนท่าที เตือนระวังพวกย้ายข้าง อาจเป็นมือที่ 3 ทูตอังกฤษ นำทีมหารือ บิ๊กจิ๋ว ลือสะพัดมาหยั่งเชิงดึงประชาคมโลกช่วยสางปัญหาขัดแย้ง ลูกแม้ว เปิดทีวีอินเทอร์เน็ต ยันไม่ใช่โทรโข่งให้พ่อ ส่วน ผวจ.เชียงใหม่ วางแผนใช้เฮลิคอปเตอร์บินอารักขานายกฯ

ความเคลื่อนไหวภายหลังแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ประกาศระดมพลเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาล เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่อาคารสำนักงานจัตุรัสจามจุรี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) ถึงกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย แสดงความเป็นห่วงที่ตนจะเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย. ว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย และเสนอให้มีการทบทวนหรือส่งคนไปแทนนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือความคิดเห็นของผู้จัดงานเพราะผู้จัดงานมีความตั้งใจที่จะสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องเศรษฐกิจและผู้จัดงานก็ยังอยากให้ตนเดินทางไปร่วม

* มาร์คเริ่มผวาขึ้นเชียงใหม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า แต่อย่างที่ตนเคยบอกคือจะขอฟังรายงานด้านการข่าวและความเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ผู้สื่อข่าวถามว่าหากความเห็นของฝ่ายความมั่นคงเสนอว่าไม่ควรจะเดินทางไปจะยกเลิกการเดินทางใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ในชั้นนี้เท่าที่ได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง บอกยังไม่มีอะไร ส่วนจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการร่วมสัมมนาโดยใช้การโฟนอินหรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แทนทำได้อยู่แล้ว แต่ความตั้งใจของภาคเอกชนตั้งแต่ต้นคือต้องการแสดงให้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ มา สร้างความสมานฉันท์ เช่นที่ จ.เลย ทำและประสบความสำเร็จจึงอยากให้ขยายผลไปในพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น

* แฉจ้างต่างด้าวร่วมชุมนุม

นอกจากนี้นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 24 พ.ย. ระหว่างการประชุม ครม. หน่วยงานด้านความมั่นคงจะมีการรายงานเข้ามา ก่อนหน้านี้มีข่าวการใช้ คนต่าง ด้าว เข้ามาชุมนุมรายงานมาเป็นระยะ ๆ และขอเตือนว่าอาจจะมีบางเรื่องที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งจะเป็นตัวบ่งบอกอย่างหนึ่งด้วยว่าถ้ามีการนำคนต่างด้าวเข้ามาชุมนุมอย่างนี้ก็ไม่ใช่การชุมนุมเพื่อการแสดงออกของคนที่ต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะฉะนั้นเราต้องเข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้ และคงต้องถามฝ่ายกลุ่มเสื้อแดงว่าจริง ๆแล้วกำลังทำอะไรกันอยู่เพราะขณะนี้ตนอยากให้ทุกอย่างเดินไปได้หากอยากแสดงความคิดเห็นก็มีเวทีที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้หรือจะชุมนุมก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะไปทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไปจ้างคนต่างด้าวมาชุมนุมมันเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

* ผบ.เหล่าทัพถกด่วนรับมือ

ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก ช่วงเช้าวันเดียวกัน มีการประชุม ผบ.เหล่าทัพ (นัดพิเศษ) โดยมี พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนปช. หรือ กลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 28 พ.ย. โดยเฉพาะประเด็นการประกาศของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการจะล้มล้างรัฐบาลให้ได้ภายในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ยังประเมินถึงกลุ่ม มือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความ วุ่นวายอีกด้วย

* เทพเทือกหารือเครียด

จากนั้นเวลาประมาณ 10.30 น. นาย สุเทพ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ได้เรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงคณะใหญ่ประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ. พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผอ.สำนัก ข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) เพื่อรับทราบรายละเอียดข้อมูลก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 24 พ.ย. ก่อนที่จะตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในวันที่ 28 พ.ย.

* จ่อประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคง

ภายหลังประชุมนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนจะเสนอ ครม. ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพื่อให้ประกาศพื้นที่ที่จะมีผลกระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่เขตดุสิต และเพิ่มพื้นที่ความมั่นคงอีก 2 แขวง คือ แขวงโสมนัส และแขวงบางขุนพรหม ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่บริเวณลานพระราชวังดุสิตทั้งหมด ทำเนียบ รัฐบาล ถนนราชดำเนิน แต่ไม่ครอบคลุมไปถึงสนามหลวง เพราะผู้ชุมนุมประกาศชัดเจนว่าจะชุมนุมจุดแรกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะประกาศพื้นที่ความมั่นคงระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.นี้ เพื่อบูรณาการกำลังของพลเรือน ตำรวจ ทหาร มารักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และป้องกันการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนมาเที่ยวงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้จัดงาน หรือเจ้าหน้าที่ทหารที่มาซ้อมพิธีสวนสนาม

* อัดเสื้อแดงชุมนุมไม่เหมาะ

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า อยากขอร้องกลุ่มเสื้อแดงว่าอย่ามาชุมนุมในช่วงนี้ เพราะ หน่วยราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ต้องการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ยิ่งใหญ่ในปีนี้ โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตลอดแนวถนนราชดำเนิน จนถึงท้องสนาม หลวง ระหว่างวันที่ 2-13 ธ.ค. ซึ่งต้องใช้เวลาเตรียมสถานที่ล่วงหน้า 3-4 วัน ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ชุมนุมประกาศว่าจะมาชุมนุมพอดี อีกทั้งในวันที่ 2 ธ.ค. ยังจะมีพิธีสวนสนามของทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งกว่าจะถึงวันจริง ทหารเขาต้องซ้อมกันทุกวัน หากมีการชุมนุมในช่วงนั้นจะทับซ้อนกันทำให้บริหารจัดการลำบากถือว่าไม่เหมาะสม

* อ้างทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

ที่สำคัญหากเอาทั้งงาน ทั้งการชุมนุม มารวมกัน จะทำให้เกิดปัญหาการจราจร เดือดร้อนคนกรุงเทพฯ มาก ยิ่งถ้าผู้ชุมนุมคิด จะดาวกระจาย แบ่งสายไปตามถนนต่าง ๆ อย่างที่ประกาศก็จะทำให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อนมาก จึงอยากเรียนไปยังผู้ชุมนุมว่าอย่าชุมนุมตอนนี้เลย การชุมนุมแสดงพลังยังมีช่วงเวลาในโอกาสอื่นอีก และก็อยากฝากไปถึงประชาชนทุกหมู่เหล่า ให้ช่วยกรุณาพูดจาห้ามปรามคนที่คิดจะมาชุมนุมว่าอย่าได้มาในช่วงนี้เลย ควรให้เวลาประเทศได้มีความ สุขสงบสักระยะ เพื่อจัดงานเฉลิมฉลองถวาย ความจงรักภักดีให้เต็มที่ นายสุเทพ กล่าว และว่าได้สั่งการเจ้าหน้าที่รัฐ หากใครพอจะพูดจากับกลุ่มเสื้อแดงได้ก็ให้ไปพูดจากันเพื่อไม่ให้มาชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว

* หวั่นดาวกระจายบานปลาย

ต่อข้อถามว่าหากกลุ่มเสื้อแดงยกเลิกการชุมนุม จำเป็นต้องประกาศพื้นที่ความมั่นคงต่อไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จะติดตามดูสถานการณ์ หากไม่ชุมนุมได้ก็จะดีที่สุด การที่เขาประกาศชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอย่างเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเคลื่อนออกไปตามที่ต่าง ๆ ก็จะโกลาหลมาก เป็นปัญหากับการจราจรใน กทม. มาก ที่สำคัญกลัวว่าเขาจะควบคุมกันไม่ได้ และไปทำร้ายประชาชนกลุ่มอื่นที่มาเที่ยวงาน คนที่มาเตรียมก่อสร้างเวที หรือทหารที่มาซ้อมพิธีสวนสนาม

เมื่อถามอีกว่าหากผู้ชุมนุมดาวกระ จายไปยังที่ต่าง ๆ จะรับมืออย่างไร นาย สุเทพ กล่าวว่า หากเขาก่อความวุ่นวายเพิ่มขึ้น ตนก็จะประกาศพื้นที่ความมั่นคงเพิ่มขึ้นภายหลัง ยอมรับว่าก็กังวลใจเพราะฟังดูที่เขาเตรียมการมาก็ตั้งใจจะยั่วยุ สร้างสถาน การณ์ให้รุนแรง แต่เราก็พยายามกำชับทุกหน่วยให้ดูแลเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาให้อดทน อดกลั้น คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม แต่รัฐบาลคงไม่อนุญาตให้ไปเที่ยวปิดถนนสายนั้น สายนี้ เพราะประชาชน ที่ใช้ชีวิตตามปกติจะเดือดร้อน หากเมื่อไหร่ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลก็ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

* จวกยับพวกขู่ฆ่านายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องประกาศพื้นที่ความมั่นคงที่ จ.เชียงใหม่ ในระหว่างที่นายกฯเดินทางไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่เชียงใหม่ผมจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายคืนนี้ ถ้าจำเป็นก็จะต้องประกาศ เป็นไปไม่ได้ที่นายกฯ ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะไปปฏิบัติหน้าที่ แล้วจะให้คนกลุ่มหนึ่งออกมาประกาศไม่ให้ท่านเข้าพื้นที่ อย่างนี้รัฐบาลไหนก็ยอมไม่ได้ ผมจะต้องดูแลให้นายกฯปลอดภัย เมื่อถามถึงข่าวที่กลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจที่มีการออกหมายจับแกนนำที่ขู่ทำร้ายนายกฯ และอาจถึงขั้นปิดสนามบินวันที่นายกฯ จะไป จ.เชียงใหม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงปิดไได้ หากปิดสนามบินก็ผิด เราจะให้คนร้ายลุกขึ้นมาประกาศฆ่าคนโน้นคนนี้อยู่กลางบ้าน กลางเมืองจะได้อย่างไร ประเทศ จะอยู่ไม่ได้

* ตร.เจรจาขอเลื่อนชุมนุม

ที่ บช.น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. กล่าวถึงมาตรการเตรียมความพร้อมในการดูแลความสงบเรียบร้อยในการนัดรวมตัวชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า วันนี้ตำรวจนครบาลได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติคงทำตามที่เคยได้ปฏิบัติมาก่อนหน้า ยืนยันว่าตำรวจนครบาลมีความพร้อมในการดูแลการชุมนุม โดยใช้อุปกรณ์เพียงโล่ กระบอง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุอย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเกณฑ์ชาวต่างด้าวเข้ามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ไปประสานและตรวจสอบยังโรงงานต่าง ๆ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ และยังให้ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้ไปประสานแกนนำเพื่อขอเลื่อนการชุมนุมออกไปก่อน

* แรงงานรับมุกตรวจต่างด้าว

ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า การที่มีข่าวว่าแรงงานต่างด้าวจะมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-2 ธ.ค.นี้ ตนได้สั่งการนายจีระศักดิ์ สุคนธชาติ อธิบดีกรมการจัดหางาน และนางอัมพรนิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังนายจ้างสถานประกอบการทั่วประเทศ เพื่อให้กำชับไม่ให้แรงงานต่างด้าวออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมกับคนเสื้อแดง เนื่องจากมีรายงานของหน่วยข่าวกรองว่าในการชุมนุมทางการเมือง เคยมีแรงงานต่างด้าวเข้าร่วมและอยู่ในสภาพเมาสุรา รวมทั้งพูดภาษาไทยไม่ได้ ซึ่งคนเหล่านี้ถูกว่าจ้างให้มาร่วมชุมนุมเพื่อให้ปริมาณ ของผู้ร่วมชุมนุมมีมากขึ้น

ถ้าสืบพบว่านายจ้างคนใด ที่มีส่วนรู้เห็นให้ลูกจ้างแรงงานต่างด้าวไปร่วมชุมนุม ก็จะมีความผิดกระทรวงแรงงานจะดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวทันที พร้อมกับส่งกลับประเทศต้นทาง

* ผวจ.เชียงใหม่เชื่อคุมไหว

ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน ที่ห้อง ประชุมศาลากลางจังหวัด โดยมี พล.ท.ทนง ศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 พร้อมข้าราชการทหาร ตำรวจ ประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้นายอมรพันธุ์ เปิดเผยว่าในการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมหารือหน่วยงานความมั่นคงเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยนายกฯ ที่จะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ โดยมั่นใจมากว่าการเดินทางมาของนายกฯ จะต้องปลอดภัย ไม่มีปัญหาใด ๆ แน่นอน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือตอนนี้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่กำลังเริ่มฟื้นตัวทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี อยากวอนทุกฝ่ายให้เห็นแก่หน้าตาของเมือง

* ใช้เฮลิคอปเตอร์บินคุ้มกัน

ด้าน พล.ท.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพภาคที่ 3 จะตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัยดูแลนายกฯ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ดูแลตลอดเส้นทาง เพราะหากพูดตามกระแสข่าวก็ถือว่าหนักส่วนจะเป็นข่าวจริงหรือไม่จริง หรือเป็นแค่คำขู่ก็ต้องตรวจสอบให้รู้แน่ชัดเพื่อความไม่ประมาท เรามั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ไม่น่าจะเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้พร้อมยาบ้าเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีประชาชนบางคนลอบออกไปฝึกอาวุธในประเทศกัมพูชาจริงแต่น่าจะเป็นการชักชวนกันไปเป็นคน ๆ ไม่น่าจะเป็นกลุ่มขบวนการ

* ไล่บี้ออกหมายจับแกนนำ

พล.ต.ท.สมคิด ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องการออกหมายจับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ได้ออกมาพูดออกอากาศทางสถานีวิทยุ ข่มขู่ว่าจะมีระเบิดพลีชีพ นายกฯ นั้นในเรื่องนี้เราทราบแล้วว่าคนพูดคือแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวให้มาพบกับพนักงานสอบสวน แล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวยังไม่เข้ามาพบ จึงได้ให้พนักงานสอบสวนเร่งสรุปสำนวนและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเสนอออกหมายจับ

ส่วนความเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ในวันนี้ยังคงเงียบสงบไม่มี ความเคลื่อนไหวใด ๆ ด้านบรรดาแกนนำก็ไม่อยู่ในพื้นที่ ทราบแต่เพียงว่าไปประชุมที่กรุงเทพฯ เพื่อประสานแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดอื่น ๆ คาดเพื่อเตรียมระดมกันมาชุมนุมใหญ่ต้อนรับนายอภิสิทธิ์ ที่จะเดินทางมา จ.เชียงใหม่ วันที่ 29 พ.ย.นี้

* ตร.หน้าแตกหลักฐานไม่พอ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม เมื่อเวลา 16.00 น. ภายหลังจาก พ.ต.ท.ปริญญา เพชรมี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้สรุปสำนวนหลักฐานกรณีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ได้ออกมาพูดออกอากาศทางสถานีวิทยุ ข่มขู่ว่าจะมีระเบิดพลีชีพนายกฯนำไปยื่นต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ตอนช่วงบ่าย เพื่อขอให้อนุมัติออกหมายจับนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำเสื้อแดงกลุ่มรัก เชียงใหม่ 51 อย่างไรก็ดีพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนที่นำไปยื่นวันนี้ เป็นคลิป เสียงเพียงอย่างเดียว ศาลยังไม่สามารถที่จะอนุมัติออกหมายจับได้ โดยแนะนำให้กลับไปทบทวนในเรื่องของข้อกล่าวหา รวมทั้งยังต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นค่อยนำมาเสนอใหม่ได้

* ปริญญาค้านใช้พ.ร.บ.มั่นคง

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณี นายกฯ เตรียมขอมติ ครม. ในวันที่ 24 พ.ย. ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เตรียมพร้อมในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อดักหน้าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เพราะอาจขัดกับวิถีทางในระบอบประชาธิป ไตยที่สามารถให้ประชาชนสามารถชุมนุมอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญมาตรา 28 ว่า บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือสิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และมาตรา 63 ว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ทั้งนี้รัฐบาลมีหน้าที่เตรียมความพร้อมเท่านั้น โดยใช้กฎหมายธรรมดาก็ถือว่าเพียงพอแล้วในการรับมือ หากเกิดความวุ่นวายจริง สังคมจะเรียกร้องให้ใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าวเอง

* เน้นระวัง 2 มาตรฐาน

หากเสื้อแดงจะชุมนุมรัฐบาลก็งัดพ.ร.บ.ความมั่นคงขึ้นมาดักหน้า ต่อไปใครจะกล้าชุมนุม และที่สำคัญอาจยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการยั่วยุนำไปซึ่งความรุนแรงได้ รัฐบาลจึงไม่ควรจะตื่นเต้น ขณะเดียวกันหากประกาศจริง อาจต้องมานั่งอธิบายในเรื่อง 2 มาตรฐานอีกเพราะเมื่อครั้งกลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมก็ไม่มีมาตรการดังกล่าว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของรัฐบาลต้องปฏิบัติแก่ผู้ชุมนุมไม่ว่าจะสีอะไรอย่างเสมอภาค

นายปริญญา กล่าวและเชื่อว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่มีความรุนแรงก็ได้เพราะผู้ชุมนุมเสื้อแดงมีบทเรียนจากเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาสังคมเรียนรู้ความบอบช้ำมามาก หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีกจะส่งผลให้มวลชนต่าง ๆ ปฏิเสธสนับสนุน

* ทูตอังกฤษนำทีมถกบิ๊กจิ๋ว

ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯและประธานพรรคเพื่อไทย ได้ให้การต้อนรับนายพอล กริกสัน เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย นายโจฮันเนส เพเทอร์ลิก เอกอัครราชทูตสาธารณ รัฐออสเตรีย ประจำประเทศไทย และนาย ควินตัน เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำ ประเทศไทย ตามลำดับ หลังจากที่เอกอัครราชทูตทั้ง 3 ประเทศได้ขอเข้าพบเนื่องในโอกาสที่ พล.อ.ชวลิต เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเพื่อทำความรู้จักและหารือถึงสถานการณ์ทั่วไป ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ในประเทศไทย มิตรประเทศก็เป็นห่วงอยากให้เป็นไปด้วยวิถีทางสันติ ตนเองก็ได้อธิบายให้ฟังว่าลักษณะสังคมเราอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข แต่วันนี้เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องอดทนกันนิดหนึ่ง อีกไม่นานคงมีความเข้าใจคลี่คลายลง

* หยั่งเชิงดึงประชาคมโลกช่วย

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า เนื้อหาโดยรวมทูตจากทั้ง 3 ประเทศต่างได้แสดงความเป็นห่วงการชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มคนเสื้อแดงในปลายเดือนพ.ย. นี้ จะเกิดความรุนแรงจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ เลยมีท่าทีเสนอให้ประชาคมโลกเข้ามาช่วยเหลือ โดยกล่าว อ้างว่าประเทศที่พัฒนาจนมีประชาธิปไตยสมบูรณ์แล้วก็ล้วนผ่านประสบการณ์เรื่องความขัดแย้ง ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็ต้องให้ประชาคมโลกได้มีส่วนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเช่นกัน อย่างไรก็ดี พล.อ.ชวลิต ไม่ได้แสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าว ระบุเพียงว่าเราจะแก้ไขปัญหากันเองได้ โดยใช้กลไกให้ประชาชนได้มีโอกาสออกเสียงเลือกตั้ง

* สมชายหนักใจแทนรัฐบาล

ที่สนามกอล์ฟเลควูด บางนา มีการจัดแข่งขันกอล์ฟ สังสรรค์สามัคคีกอล์ฟ ปาร์ตี้ 111+37 = เพื่อไทย ครั้งที่ 4 ชิงถ้วยรางวัล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมกับจัดเลี้ยงก่อนปิดประชุม สภาสมัยนิติบัญญัติ ในช่วงเย็นวันเดียวกันภายใต้ชื่อ ร้อยใจ เพื่อไทย เป็นหนึ่งเดียว โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนตลอดจน ส.ส. พรรคเพื่อไทยเข้าแข่งขันคึกคัก นายมชาย กล่าวว่า ถ้านายกฯเดินท างไปที่ไหนแล้วต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ตนว่าน่าเป็นห่วงเพราะแสดงให้เห็นว่ารัฐบาล มีปัญหา ขณะเดียวกันประชาชนจะคิดอย่างไรที่นายกฯ ไปไหนต้องมี พ.ร.บ. ความมั่นคงฯนำหน้า ต้องใช้ภาษีของประชาชนมาคอยดูแลความปลอดภัย

* มูลนิธิ111ตามจี้ยุบปชป.

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและเลขานุการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการของมูลนิธิ 111 ไทยรักไทยเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์หลังจากพยานปากเอกออกมารับสารภาพว่า ถูกว่าจ้างให้การเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคไทยรักไทยว่า พยานทั้ง 2 คนที่ให้การเบิกความเท็จต่อศาลเพราะถูกว่าจ้างด้วยเงินจำนวน 15 ล้านบาทจึงต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา ขณะที่ในส่วนของคนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้จ้างวานควรจะต้องรับผิดชอบด้วย เมื่อเรื่องนี้ปรากฏต่อนายทะเบียนหรือ กกต. กฎหมายระบุว่าแม้จะไม่มีผู้ใดแจ้งต่อนายทะเบียน แต่นายทะเบียนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่ออัยการให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

* ดันพ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภา

นายวิชิต กล่าวว่า นอกจากนี้ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติก็ควรมีส่วนร่วมในการดำเนินการในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากการยุบพรรคเพื่อไทย นอกจากอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน จะไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว สมาชิกพรรคอีก 14 ล้านคนก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นฝ่ายนิติบัญญัติควรที่จะผลักดัน พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่ได้เสนอต่อ สภาให้พิจารณานานแล้วขึ้นมาหารือเพื่อ สร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย อย่างไร ก็ตามขณะนี้มีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยประมาณ 60 คนร่วมกันเรียกร้องความเป็นธรรม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคนอื่นให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกระบวนการดังกล่าวร่วมกัน

* ทักษิณ ทวิตขอบคุณป๋า

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ย. โดยระบุว่า วันก่อนป๋าพูดว่าอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ผมขอขอบคุณในท่าทีใหม่ของป๋ามา ณ ที่นี้ด้วยผมและผู้สนับสนุนก็อยากให้เกิดความปรองดองขึ้นโดยเร็ว เงื่อนไขสำคัญของการปรองดองคือความยุติธรรม แต่อุปสรรคสำคัญคือคนหูเบาเจอคนพูดเท็จและสอพลอเพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากอำนาจที่เปราะบางและกลัวสูญเสีย

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังตอบคำถามของสมาชิกเรื่องข่าวกลุ่มเสื้อแดงจะลอบสังหารนายกฯ ตอนมาเชียงใหม่ด้วยว่า คนเชียงใหม่จิตใจดีไม่คิดแบบนี้แน่นอน แต่คนเชียงใหม่รักความถูกต้องจึงไม่รับกระบวนการปล้นอำนาจประชาชนแต่ไม่คิดฆ่าใครแน่นอนครับ นอกจากนี้สมาชิกหลายรายได้แสดงความเป็นห่วงเรื่อง มือที่ 3 จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ระหว่างชุมนุมคนเสื้อแดง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ระบุว่า มือที่ 3 อาจจะมีขึ้นได้โดยเฉพาะไอ้พวกย้ายข้างอาจไปสอพลอเอาใจนายใหม่

* ลูกแม้วเปิดทีวีอินเทอร์เน็ต

ส่วนที่อาคารบีบีดี ถนนวิภาวดีรังสิต ข้างสโมสรกองทัพบก บริษัทวอยซ์ทีวี จำกัด ได้จัดงานเปิดตัว วอยซ์ทีวี ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมรายการต่าง ๆ ได้ทาง www. voicetv.co.th และผ่านทางจานดาวเทียมดีทีวี ทางช่องดีชาแนล และรับชมผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ http://wap.voicetv. co.th ซึ่งในช่วงเริ่มต้น วอยซ์ทีวีจะผลิตรายการ ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 20.00-21.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.00-22.00 น. และในปี พ.ศ. 2553 จะออกอากาศตลอด 24 ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้บริหารที่น่าสนใจ อาทิ นายทรงศักดิ์ เปรมสุข อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตร พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะ ที่พิธีกรรายการ อาทิ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทว กุล น.ส.ตวงพร อัศววิไล นายจอม เพชรประดับ ฯลฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท

* โอ๊คลั่นไม่เน้นการเมือง

นายพานทองแท้ กล่าวยืนยันว่า การเปิดวอยซ์ทีวีเพื่อต้องการนำเสนอเนื้อหาสาระที่หลากหลาย รอบด้าน และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือมีจุดประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงไม่กลัวจะถูกกล่าวหาหรือโจมตีเพราะหน้าของตนก็เป็นโลโก้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่แล้วยืนยันว่าเราไม่เน้นทำเรื่องการเมืองเรื่องเสื้อแดง แต่เน้นเนื้อหาสาระที่ดีขอให้ประชาชนดูและพิจารณาก่อนที่จะตัดสิน อย่างไรก็ตามเรื่องการเมืองก็ต้องเสนอ เพราะเป็นเรื่องปกติของข่าวของสื่อ แต่เราจะเสนอไปตามความเป็นจริง วอยซ์ทีวี ไม่มีสีอะไรทั้งสิ้น คนสีไหนก็ดูได้ แม้คนตาบอดสีก็ดูได้ จึงขอให้สปอนเซอร์ช่วยซื้อโฆษณา

* เทือกบินเงียบไปเชียงใหม่

ต่อมาช่วงหัวค่ำมีรายงานว่า นาย สุเทพ รองนายกฯ พร้อมคณะได้เดินทางไปที่จ.เชียงใหม่ คาดว่าไปหารือกับหน่วยงานมั่นคงและตรวจสถานการณ์เพื่อเตรียมดูแลความปลอดภัยให้กับนายกฯ โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า หากนายกฯจะเดินทางมา จ.เชียงใหม่ก็จำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.บ. ความมั่นคง แค่ 3 วัน คือระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.นี้ โดยจะประกาศในบางตำบล และเขตที่ตั้งโรงแรมที่ประชุมหอการค้า เนื่องจากหน่วยข่าวแจ้งว่ามีการกำหนดให้ ส.ส. ในพื้นที่ภาคเหนือจัดคนมาร่วมชุมนุม 1,000 คน ต่อ ส.ส. 1 คน ซึ่งส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือมีทั้งหมด 34 คน เมื่อผสมกับเครือข่ายของแนวร่วมนปช. อีกประมาณ 4,000 คน ทำให้เสื้อแดงตั้งเป้าระดมคนเข้าร่วมชุมนุมประมาณ 38,000 คน แต่หน่วยข่าวทหารเชื่อว่ากลุ่มเสื้อแดงจะเกณฑ์คนมาได้ 5,000 คนเท่านั้น

สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ หน่วยข่าวแจ้งเตือนให้ระวังวันที่ 30 พ.ย. เพราะกลุ่มเสื้อแดงจะดาวกระจายไปตามจุดต่าง ๆ โดยพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เบื้องต้นจึงเตรียมใช้กำลังตำรวจ ทหาร เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ พร้อมกำลังสนับสนุน ในที่ตั้งอีก 86 กองร้อย

* มอบยันต์5แถวให้นายกฯ

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่าเคยแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ นายกฯทบทวนการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ หลังมีข่าวลอบสังหาร ว่า ไม่เคยพูด ใครบอก ผมจะไปแนะนำนายกฯ ได้อย่างไร นายกฯ สิต้องแนะนำผมเพราะท่านเป็นนายผม เมื่อถามถึงการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ยอมรับว่าแผนการรักษาความปลอดภัยในขณะนี้ต้องมีมากกว่าที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้เตรียมอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ไปช่วยรับมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายสามารถ มะลูลีม ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำอาจารย์หนู กันภัย อาจารย์สักยันต์ชื่อดัง เข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบเหรียญยันต์ 5 แถวและพระหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ แก่นายกฯ เพื่อให้คุ้มกันแคล้วคลาดจากอันตราย นอกจากนี้ยังมอบเครื่องรางให้กับทีมรักษาความปลอดภัยของนายกฯ ด้วย.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook