เก่ง-เด่น-มีผลงานกกท.เพิ่มเงินให้

เก่ง-เด่น-มีผลงานกกท.เพิ่มเงินให้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บิ๊กหนุ่ม นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการพิจารณา จัดสรรเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ 2553 เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ห้อง 211 ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งที่ประชุมได้มีการพูดถึงระเบียบการพิจารณาเงินอุดหนุนให้กับ 57 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ในรูปแบบใหม่ หลังจากได้ทำความเข้าใจกับสมาคมกีฬาต่าง ๆ มาตั้งแต่ต้นปี โดยจะดูจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. การบริหารจัดการสมาคมกีฬา แบ่งเป็น 1.1 การบริหารภายในสมาคมกีฬาว่า มีบุคลากรมากแค่ไหน เพียงพอกับงานที่ได้รับมอบหมายหรือไม่, การติดตามงานมีการประชุมประจำเดือนหรือเปล่า และการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีตรงตามที่ได้กำหนดไหม 1.2 การบริหารงบประมาณ เช่น หลังจากที่ได้รับเงินอุดหนุน ประจำปีจาก กกท.แล้ว ทางสมาคมกีฬา นั้น ๆ มีการหางบประมาณเพิ่มเติมได้มาก-น้อยแค่ไหน

2.การดูผลงานของนักกีฬาแต่ละสมาคม จะมีการติดตามดูผลงานของนักกีฬาแต่ละสมาคมว่า มีการแข่งขันในประเทศหรือไม่ ส่งแข่งต่างประเทศในรายการนานาชาติมากแค่ไหน และแต่ละรายการประสบความ สำเร็จ่าใด, มีการพัฒนาบุคลากร จัดอบรมเพิ่มศักยภาพหรือเปล่า และดูผลสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก, ระดับเอเชีย, ระดับอาเซียน

ขณะที่ นายกนกพันธุ์ เปิดเผยว่า งบประมาณที่ กกท.จะจัดให้กับ 57 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2553 เป็นเงิน 149,206,935 บาท แบ่งเป็น งบอุดหนุนประจำปี 91,423,632 บาท, งบส่งแข่งขันต่างประเทศ 12,979,000 บาท, การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 20,945,500 บาท, พัฒนาบริหารองค์กรกีฬา 1,096,500 บาท, สมาคมกีฬาจัดประชุมกับสหพันธ์ 4,000,000 บาท, ประสานงานองค์กรกีฬาระหว่างประเทศ 5,000,000 บาท, เจ้าหน้าที่ประสานงานสมาคม 7,291,440 บาท, งบสนับสนุนสมาคมกีฬาระหว่างปี 2,720,000 บาท, งบบริหารโครงการ 3,818,560 บาท ซึ่งการจัดเงินอุดหนุนให้กับแต่ละสมาคม จะดูผลงานในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อทำให้เกิดการบริหารงานแบบ ธรรมาภิบาล เป็นธรรมกับทุกสมาคม โดยสมาคมกีฬาที่มีผลงาน และถูกประเมินให้อยู่ในเกรด A ก็จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มเติม 30%, สมาคมที่ได้เกรด B รับเงินเพิ่ม 20%, สมาคมเกรด C 10%, สมาคมเกรด D ได้เงินเท่าเดิม, สมาคมเกรด E ถูกตัดเงินลดลง 5%

ส่วนการพิจารณาเงินอุดหนุนให้กับสมาคมกีฬาประจำปี 2553 ปรากฏว่า สาคมที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด คือ สมาคมวอลเลย์บอลฯ ได้เงิน 3,602,209 บาท, สมาคมแบดมินตันฯ 3,509,017 บาท, สมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ 3,420,300 บาท, สมาคมยกน้ำหนักฯ 3,187,186 บาท, สมาคมเทควันโดฯ 3,101,846 บาท สำหรับสมาคมที่ได้รับเงินอุดหนุนน้อยที่สุด คือ สมาคมฟุตวอลเลย์ฯ และสมาคมเอ็กซ์ตรีมฯ ได้รับเงินแค่ 380,000 บาท ขณะที่กีฬายอดฮิตอย่าง ฟุตบอล ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับเงิน 2,912,143 บาท นอกจากเงินอุดหนุนแล้ว สมาคมกีฬาต่าง ๆ ยังได้รับเงินช่วยเหลือในการส่งนักกีฬาไป แข่งขันต่างประเทศ และการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในประเทศด้วย โดยข้อสรุปทั้งหมดจะนำเสนอให้ บอร์ด กกท. พิจารณาในการประชุมเดือน ธ.ค.ทันที.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook