สธ.ให้ทุกจังหวัดเข้มมาตรควบคุมป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ช่วงธันวาคมจนถึงมกราคมปีหน้า

สธ.ให้ทุกจังหวัดเข้มมาตรควบคุมป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ช่วงธันวาคมจนถึงมกราคมปีหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กระทรวงสาธารณสุข เผยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบมีสัญญาณการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอก 2 เนื่องจากพบในเมืองใหญ่ กลุ่มค่ายทหาร โรงเรียน และพบในชุมชนทุกภาค ให้ทุกจังหวัดเข้มข้นควบคุมป้องกันโดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมมกราคมปีหน้า นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า สถานการณ์การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในรอบ 7 วันที่ผ่าน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2552-21 พฤศจิกายน 2552 ได้รับรายงานพบมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มขึ้น 226 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นชายทั้งคู่ อยู่ที่ จ.เลย และ กทม.มีโรคประจำตัว คือ ตับแข็งและเป็นโรคคอพอกเป็นพิษ เสียชีวิตวันที่ 5 และ 16 พฤศจิกายน 2552 โดยยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 มีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 29,165 ราย และเสียชีวิตรวม 187 ราย โดยมีรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ แถบเมืองใหญ่ เช่น กทม. จ.นครราชสีมา และพบในกลุ่มค่ายทหาร โรงเรียน และพบในชุมชนทุกภาค จึงคาดการณ์ว่าการระบาดระลอกที่ 2 น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงขอความร่วมมือโรงเรียน ให้ทำความสะอาดจุดที่มือสัมผัสให้เข้มข้นมากขึ้น ถี่ขึ้น โดยเฉพาะลูกบิดประตู โทรศัพท์ ก๊อกน้ำ แก้วน้ำ ให้ล้างมือบ่อยๆ และขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยดูแลเด็ก หากพบป่วยเป็นไข้หวัดให้หยุดเรียน สังเกตอาการ พบมีไข้สูง อ่อนเพลีย ให้พาไปพบแพทย์ทันที นายแพทย์ไพจิตร์ ยังห่วงช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมปีหน้า ที่จะมีการจัดงานจำนวนมาก อาทิ งานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 และงานวันเด็ก งานกาชาด จะมีประชาชนมารวมตัวกันจำนวนมาก ประชาชนบางส่วนจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อาจรับเชื้อกลับมาด้วย ระยะวิกฤตที่ต้องเฝ้าระวังควบคุมเข้มข้นคือ ช่วงตั้งแต่คริสมาสต์จนถึงหลังปีใหม่ ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทั้งนี้จากการประมาณการจำนวนผู้ติดเชื้อของระลอกแรกมีประมาณ 8.4 ล้านราย ในจำนวนนี้มีอาการ 6 ล้านราย และเสียชีวิต 185 ราย แต่จำนวนผู้ติดเชื้อในระลอก 2 น่าจะลดเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของระลอกแรก เหลือประมาณ 4 ล้านราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook