ทองคำพุ่งไม่หยุดทุบสถิติใหม่

นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกทำสถิติใหม่ อยู่ที่ 1,195 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ เพิ่มอีก 200 ตัน จากที่ก่อนหน้านี้ได้ซื้อทองเป็นทุนสำรองเงินตราต่างประเทศกับไอเอ็มเอฟแล้ว 200 ตัน ประกอบกับช่วงนี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจจะโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ขณะที่ตลาดหุ้นฮั่งเส็งที่ฮ่องกงนั้น ดัชนีร่วงลงกว่า 200 จุด จึงมีการคาดการณ์กันว่านักลงทุนเอเชียอาจ ย้ายฐานการลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส็งมาลงทุนในทองคำมากขึ้น

สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศสูงสุดรับซื้อบาทละ 18,700 บาท และขายออกบาทละ 18,800 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,434 บาท และขายออกบาทละ 19,200 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณบาทละ 250 บาท ส่วนแนวโน้มราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้นคงต้องรอดูว่า หลังจากผ่านพ้นวันหยุดขอบคุณพระเจ้าไปแล้วราคาทองคำในต่างประเทศจะขึ้นอีกหรือไม่ และดูผลกำไรของเฮจฟันด์ในเดือน ธ.ค.นี้เป็นอย่างไร ซึ่งหากเฮจฟันด์ต้องการให้นักลงทุนเห็นว่าลงทุนกับ เฮจฟันด์แล้วได้รับผลตอบแทนที่ดีอาจทำให้เฮจฟันด์มีการเทขายทองคำออกมาบางส่วนเพื่อทำกำไร โดยจะทำให้ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าราคาทองคำแท่งและราคาทองคำรูปพรรณในสิ้นปีนี้ราคาขายจะไม่ถึงบาทละ 20,000 บาท เพราะค่าเงินบาทยังแข็งค่า โดยอยู่ระดับ 33.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมอยู่ระดับ 33.24 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำวันที่ 26 พ.ย. มีการปรับราคาขึ้นลง 5 ครั้ง มาจากปัจจัยเดิม แต่เชื่อว่าราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสแตะอยู่ที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและเฮจ ฟันด์ยังมีการเก็งกำไรทองคำอย่างต่อเนื่อง.