ผู้นำสหรัฐ-จีนยันเข้าร่วมประชุมโลกร้อน
ประธานาธิบดีโอบามา ให้คำมั่นว่า สหรัฐจะดำเนินการเป็นลำดับขั้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าจะเริ่มต้นด้วยลดการปล่อยลงร้อยละ 17 จากระดับที่ปล่อยในปี 2548 ภายในปี 2563 ซึ่งสหรัฐจะมีข้อเสนอนี้ต่อ ที่ประชุมฯที่กรุงโคเปนเฮเกนในเดือนธ.ค. ประธานาธิบดีโอบามา จะเดินทางเข้าร่วมประชุมในวันที่ 9 ธ.ค. แต่จะไม่อยู่ร่วมในขั้นตอนการประชุมที่สำคัญ
ขณะที่ นา กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน จะเข้าร่วมการประชุมประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติ และว่าการเข้าร่วมการประชุมของนายเหวินจะแสดงให้เห็นบทบาทของจีนอย่างชัดเจนต่อประเด็นดังกล่าว และความสมัครใจในการร่วมมือกับประชาคมโลก
ด้านรัฐบาลเดนมาร์กเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย สำหรับการประชุมระหว่างวันที่ 7-18 ธ.ค.นี้ โดยมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน การประชุมดังกล่าวอาจมีผู้เข้าร่วมประมาณ 30,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ก่อกวน ด้วยการวางกำลังเจ้าหน้าที่มากเป็นประวัติการณ์
ส่วนนักวิทยาศาสตร์ 26 คน จาก 8 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐและอังได้เปิดเผยรายงานสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ระบุว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก กระบวนการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน ในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากระดับในปี 2533 ถึง ร้อยละ 40 จึงเตือนว่า หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อุณหภูมิทั่วโลก อาจร้อนขึ้น 2-7 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ ยังเผยด้วยว่า ธารน้ำแข็งในแถบขั้วโลกกำลังละลายลงรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาจนถึง 2551 ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 5 เซนติเมตร จึงคาดการณ์ว่า สิ้นศตวรรษนี้ระดับน้ำทะเลอาจเพิ่มขึ้นถึง 2 เมตร.