ดูไบ เวิลด์ ขาดสภาพคล่อง

ดูไบ เวิลด์ ขาดสภาพคล่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ว่า ชี้ค อาเหม็ด บิน-ซาอีด อัล-มัคทูม ประธานคณะกรรมการด้านการเงินสูงสุดของนครรัฐดูไบ แถลงว่า ตามที่บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ดูไบ เวิลด์ ของดูไบ ได้ประกาศพักชำระหนี้ไว้ก่อน เพราะขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ซึ่งเรื่องนี้ทางบริษัทได้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว และตระหนักดีถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากตลาดหุ้นทั่วโลก และความวิตกกังวลของนักลงทุน รัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้สินเพื่อแก้ปัญหานี้ ซึ่งความคืบหน้าจะแถลงให้ทราบอีกครั้งประมาณต้นสัปดาห์หน้า

สำหรับดูไบถือว่า มีการเติบโตด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างรวดเร็ว มีการก่อสร้างอาคารสูงระฟ้าขึ้นมากมายในดินแดนแถบทะเลทรายของภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่เพิ่งมาประสบกับปัญหาจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ดูไบ เวิลด์ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เช่น ดีพี เวิลด์ ที่บริหารจัดการท่าเรือในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และ นัคฮีล ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือนั้น มีภาระหนี้สินทั้งสิ้น 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท หนี้สินส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่รัฐบาลให้การหนุนหลัง และบริษัทนัคฮีลมีกำหนดจะต้องชำระหนี้ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 1.2 แสนล้านบาท ภายในวันที่ 14 ธ.ค.นี้

ด้านบริษัทสำรวจความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้นิยามของการพักชำระหนี้ว่า เป็นการผิดสัญญา พร้อมลดระดับความน่าเชื่อถือของบริษัทในเครือ 5 บริษัทของดูไบ เวิลด์ เช่นเดียวกับ มูดี้ส์ บริษัทสำรวจความน่าเชื่อถืออีกแห่ง ก็ลดระดับความน่าเชื่อถือ 6 บริษัทของรัฐบาลดูไบ ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปอีกหลายบริษัทของรัฐบาลดูไบว่า อาจจะทำผิดสัญญา ขาดความน่าเชื่อถือ ขณะที่รัฐอาบูดาบี หนึ่งในเจ็ดรัฐของยูเออี เช่นเดียวกับดูไบ ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ดูไบล้มละลายด้านการเงินอย่างเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน ข่าวประกาศพักการชำระหนี้ดังกล่าว ยังส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทั่วภูมิภาคเอเซียปรับตัวลดลง เพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น เช่น ตลาดหุ้นในเกาหลีใต้กับฮ่องกง ลดลงเกือบร้อยละ 5 ตลาดหุ้นโตเกียวลดลงร้อยละ 3.22 เช่นเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดเอเซีย สำหรับการส่งมอบเดือน ม.ค.นี้ ได้ปรับลดลงมา 3.77 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 74.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนที่นิวยอร์ก ลดลงมา 2.75 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 75.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ปรับลดลงเช่นกัน เหลือ 86.05 เยนต่อ 1 ดอลลลาร์สหรัฐ และราคาทองในตลาดฮ่องกง ก็ลดลงกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 1,145.00-1,146.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ออนซ์.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook