''เดอะ เวิลด์ อิส นอท อินาฟ''

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยโฉมคอลเลกชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนังและเครื่องประดับในพระองค์ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 ของแบรนด์ สิริวัณณวรี ภายใต้แนวพระดำริ เดอะ เวิลด์ อิส นอท อินาฟ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ร้านเซ้นส์ เซ็นทรัล เวิลด์ สะท้อนสีสันไลฟ์สไตล์ของชาว เมดิเตอร์เรเนียน ทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยเมื่อครั้งทรงทำงานในยุโรปและได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์ชาวยุโรปที่อาศัยในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เสื้อผ้าจึงมีความพลิ้วไหว เซ็กซี่ และดูสบาย ๆ มากขึ้น แต่ยังคงแฝงไว้ซึ่งความโก้หรูและทันสมัย จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ทรงนำลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ซึ่งจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะ ฮาว ไอ ซี ยู มาสรรค์สร้างเป็นลายกราฟิกบนผืนผ้า อันเป็นเอกลักษณ์ประจำคอลเลกชั่นนี้ด้วย

เสื้อผ้าคอลเลกชั่นทรงออกแบบในครั้งนี้ แฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่ ใช้เทคนิคเซมิกูตูร์ผสานกับเสื้อผ้าแบบลำลอง ทำให้ ดูโก้หรูแบบมีสไตล์ ทั้งค็อกเทลสั้น ราตรียาว กาง เกงสามส่วน เพิ่มความสง่างามด้วยการใช้ผ้าไหมชีฟอง, ผ้าไหมซาติน, ผ้าทูล, ลูกปัดและดิ้นทอง โทนสีฉูดฉาด อาทิ แดงปะการัง, บรอนซ์ทอง, เขียวมะนาว แต่ยังคงสีแบบเมดิเตอร์เรเนียนอย่าง ขาว สีงาช้าง และน้ำเงินไว้ด้วย พิเศษด้วยการนำกราฟิกลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ลายหัวใจ ลายขนนกยูง ตัดเย็บเข้าคู่กับเสื้อลายกะลาสี ที่นำมาตัดต่อให้เกิดเป็นลายทางขาวน้ำเงิน ชุดเสื้อกระโปรงผสานเสื้อเชิ้ตจับเดรปคู่กับกระโปรงยิปซี, ชุดค็อกเทลสุดหรูด้วยการนำผ้าลาเม่มาตัดต่อสลับกับผ้าชีฟองให้เกิดเป็นลายทาง จับเดรปถ่วงเผยแผ่นหลัง, ชุดคัฟทานชายเสื้อระบายกรุยกรายตัดเย็บจากไหมซาตินลายกราฟิกรูปหัวใจ และชุดราตรียาวผ้าทูลและชีฟองสไตล์เทพธิดากรีก หรูหราด้วยการปักลูกปัดและดิ้นทอง

ส่วนเสื้อผ้าบุรุษ เอส ออม นั้น ทรงออกแบบภายใต้แนวพระดำริเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ผู้ชายที่ดูสบาย ๆ แต่เท่และมีสไตล์ที่โดดเด่น โดยเฉดสีหลักที่ทรงเลือกคือ ขาว เบจธรรมชาติ น้ำเงิน และดำ ตั้งแต่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น ผ้าพันคอสีแดง หมวกแบบปานามา กระเป๋าเป้ และกระเป๋าถือที่ทำด้วยวัสดุผ้าลินิน ตลอดจนเสื้อลายกะลาสีเรือที่ทรงได้รับแรงบันดาลพระทันุ่มกะลาสีเรือจนถึงเศรษฐีเรือยอชท์รวมถึงกางเกงขายาวแบบหูรูดและเชิ้ตผ้าลินินตีเกล็ดส่วนหน้าของเสื้อและกุ๊นปกด้วยสีดำ

คอลเลกชั่นเครื่องประดับและเครื่องหนัง ทรงออกแบบให้มีความหลากหลาย ตั้งแต่สร้อยคอสีฉูดฉาด ทั้งแดง ชมพู ส้ม เหลือง ฟ้า เทอร์ควอยซ์ ที่ถักร้อยจากปะการัง เปลือกหอย หินสี แก้ว และลูกปัด, ผ้าพันคอลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ทั้งลายหัวใจ นกเพนกวิน ลายกะโหลก ด้านกระเป๋ารองเท้า ออกโทนน้ำเงิน ขาว แดง และเบจ โดยรองเท้าในคอลเลกชั่นนี้ทรงออกแบบไว้ 2 แบบ คือร้องเท้าสานไม่มีส้นและรองเท้าส้นสูงสีขาวขลิบน้ำเงิน และเบจขลิบน้ำตาล มีแพลทฟอร์มขนาดครึ่งฝ่าเท้า ส่วนกระเป๋ามีทั้งกระเป๋าถือใบเล็ก แบบสะพายไหล่ และกระเป๋าสะพายไหล่ที่นำริบบิ้นหนังมาผูกเป็นหูรูดกระเป๋า

ทั้งนี้คอลเลกชั่นในพระองค์ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 ภายใต้แบรนด์ สิริวัณณวรี มีจำหน่ายแล้วที่ สิริวัณณวรี บูติค ภายในร้านเอฟ เซน ดีไซน์ โชว์เคส ร้านค้าปลีกคอนเซปต์สโตร์ รวมสินค้ามีดีไซน์ทั้งในและต่างประเทศ บนพื้นที่ 500 ตารางเมตร ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซน.

@@@

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงรับสั่งถึงคอลเลกชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับและเครื่องหนัง ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ ฤดูร้อน 2010 ว่า ทรงได้แรงบันดาลพระทัยมาจากไลฟ์สไตล์ของชาวเมดิเตอร์เรเนียน ทรงสังเกตว่าการแต่งตัวและสีสันเช่นนั้นสามารถนำมาสวมใส่ที่ประเทศไทยได้ เพราะ ภูมิอากาศคล้ายคลึงกัน จึงทรงศึกษาวัฒนธรรมเมดิเตอร์เรเนียนมากขึ้น และนำมาตีความใหม่ผสานเทคนิคการตัดเย็บอันประณีตของแบรนด์ สิริวัณณวรี ทรงใช้เทคนิคการนำผ้าต่างสีต่างชนิดมาเย็บตัดต่อเข้าด้วยกันให้กลายเป็นเสื้อลายกะลาสี โดยใช้พระองค์เองเป็นฐานในการคำนึงถึงความต้องการของผู้หญิงเพื่อทรงออกแบบ โดยเสื้อผ้าคอลเลกชั่นนี้ทรงดึงให้ต่างจากคอลเลกชั่นอื่น ๆ ที่ผ่านมา ดูสบายมากขึ้น ผ้ามีความโปร่งเบาทิ้งช่วงปลายให้เห็นรูปร่างช่วงบน มีพระประสงค์ให้ผู้หญิงสวย จนผู้ชายเหลียวหลัง ส่วนผู้ชายไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นคุณปู่คุณลุง เพราะมีไลฟ์สไตล์มีสิทธิที่จะแต่ง จึงทรงมีสร้อยคอ เครื่องประดับ กระเป๋าเพิ่มให้คอั่นผู้ชายที่แต่งแล้วยังเป็นผู้ชายอยู่

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ รับสั่งต่อว่า การที่ได้ไปทรงเรียนรู้งานกับห้องเสื้อจิออร์จิโอ อาร์มานี่ ทำให้ทรงได้แนวคิดมากมาย ที่นั่นสอนทั้งเรื่องการวางไลน์ผ้า การตลาด ฯลฯ ให้ทรงคำนึงถึงในสิ่งที่อาจคาด ไม่ถึง นอกจากนี้ยังทรงเรียนรู้ผ่านการทำงานของ โดเซ่ แอนด์ กาบาน่า โดยเฉพาะโดเซ่ ที่ทรงถือเป็นแบบอย่าง เพราะเขาละเอียดและใจเย็นมาก เช็กนางแบบทุกคนด้วยตัวเอง ให้ความสำคัญกับทุกอย่าง สำหรับชื่อคอลเลกชั่น เดอะ เวิลด์ อิส นอท อินาฟ ต้องการสื่อให้เห็นว่าโอกาสในการเรียนรู้ไม่เคยพอ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ วัฒนธรรมใหม่ ๆ ถือเป็นการเปิดโลกกว้างแห่งการเรียนรู้ที่ไม่เคยพอ ซึ่งคอลเลกชั่นนี้มีบายเออร์จากฝรั่งเศสติดต่อซื้อแล้ว

คอลเลกชั่นนี้มีการวางผ้าที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งอาร์มานี่สอนว่าอย่างแรกที่ควรออกแบบคือ ผ้า แล้วทำให้ผ้าเข้ากับคอลเลกชั่นของตัวเอง จึงออกแบบลายผ้าขึ้นหลายชิ้น ระหว่างทำคอลเลกชั่นนี้อยู่ต่างประเทศ เมื่อออกแบบแล้วจึงมีการประสานงานกับทางเมืองไทยให้ทำตามแบบที่วางไว้ ส่วนไหนที่ทำไม่ได้ก็กลับมาทำเอง ไปเดินเลือกซื้อสร้อย หมวก ลูกปัดเก่า ๆ เอง นำมาออกแบบให้ลูกน้องที่เมืองไทยร้อยตามแบบ คอลเลกชั่นนี้ไม่เครียด ความเครียดน้อยลงเรื่อย ๆ ส่วนลายมารีนที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสนั้นนำมาตีความใหม่และสร้างมารีนในแบบของเรา จึงเกิด เป็นลายขวางอย่างที่เห็น เราไม่ได้ก๊อบปี้ แต่เราสร้างขึ้น

หลังจากนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จะเสด็จไปทรงงานกับห้องเสื้อบัลแมง โดยมีต่างชาติเข้ามาช่วยดูแล แบรนด์สิริวัณณวรี และมีรับสั่งทิ้งท้ายด้วยว่า ต้องพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อย ๆ พูดน้อย ๆ ดูที่ผลงาน.