ในหลวง เสด็จออกมหาสมาคม 5ธันวาคม

พสกนิกรทั่วหล้าปลาบปลื้ม "ในหลวง" เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 5 ธันวาคมนี้ พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ส่วนพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ในวันที่ 2 ธันวาคม ให้เลื่อนออกไปก่อน

นับเป็นข่าวมหามงคลที่สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ประชาชนชาวไทยอย่างมาก เมื่อสำนักราชเลขาธิการ แถลงข่าวเรื่องการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าถวายพระพรชัยมงคล และชื่มชมพระบารมีในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคมนี้

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง นำแถลงข่าวเรื่อง การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2552 ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2552 ดังนี้ 1.วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2552 พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ประจำปี 2552 ให้เลื่อนออกไปก่อน 2.วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2552 ตามที่คณะบุคคลและประชาชน ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เช่นทุกปีนั้น ให้เลื่อนออกไปก่อน

3.วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552 เวลาเช้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล และเวลาบ่าย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์

4.วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2552 เวลาเช้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เลี้ยงพระ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 5.วันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2552 เวลาบ่าย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต คณะทูตเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีแถลงการณ์เลื่อนพระราชพิธีต่างๆ ออกไปว่า ในส่วนของการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงไม่มีการปรับงานต่างๆ โดยรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป ไม่ยกเลิกแต่อย่างใด

ด้านนางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า วันที่ 3 ธันวาคมนี้ สำนักงาน ก.พ.จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เวลา 06.30-08.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายอภิสิทธิ์จะเป็นผู้กล่าวนำ ครม. ข้าราชการระดับสูงของส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร ผู้บริหารองค์กร รัฐวิสาหกิจ ในขณะที่ส่วนราชการทุกหน่วยงาน ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค จะจัดให้มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ในที่ตั้งของหน่วยงานอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้ข้าราชการทั่วประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดี แสดงความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน โดยประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดีตามรอยพระยุคลบาท มุ่งมั่นแก้ปัญหาชาติและประชาชน สร้างสรรค์ประโยชน์แก่แผ่นดิน ดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักคำสอนแห่งศาสนาความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ภายหลังพิธี สำนักงาน ก.พ.จะดำเนินการจัดทำสมุดรวบรวมใบลงนามถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ของผู้ร่วมพิธีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ส่วนการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะคณะบุคคลจากทุกสาขาอาชีพ ยังคงเดินทางมาลงนามถวายพระพรกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเย็น โดยยอดของประชาชนที่มาร่วมลงนามถวายพระพรรวม 72 วัน จำนวนทั้งสิ้น 1,280,881 คน

ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างสวมเสื้อสีชมพู เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคมนี้ โดยหลายคนบอกว่า จะตั้งใจทำความดี นำหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้ยังมีผู้แทนเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ทูลเกล้าฯ ถวายสมุดลงนามถวายพระพร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครนำเงินที่นักศึกษาร่วมกันทูลเกล้าฯ ถวาย ตามโครงการ 1 เหรียญ 1 คำอธิษฐานเพื่อในหลวง

ขณะที่คณะบุคคลจำนวนมากนำแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าฯ ถวายหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ อาทิ คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดตลิ่งชัน รวมถึงคณะพระภิกษุจากโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดโพธาราม จ.สุรินทร์ ที่นำหลวงพ่อพระพุทธเมตตา จากประเทศอินเดีย และผ้าไหมสุรินทร์ มาทูลเกล้าฯ ถวายด้วย