"พระพยอม" เปิดใจกระแส "นะหน้าทอง" ถ้าทำแล้วดี ทำไมไม่ไปช่วยกระทรวงการคลัง

"พระพยอม" เปิดใจกระแส "นะหน้าทอง" ถ้าทำแล้วดี ทำไมไม่ไปช่วยกระทรวงการคลัง

"พระพยอม" เปิดใจกระแส "นะหน้าทอง" ถ้าทำแล้วดี ทำไมไม่ไปช่วยกระทรวงการคลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"พระพยอม" เปิดใจกระแส "นะหน้าทอง" ถ้าทำแล้วดี ทำมาค้าขึ้น ทำไมไม่ไปช่วยกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์

จากกรณีที่วัดศาลารี ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เหล่าลูกศิษย์ลูกหาและนักท่องเที่ยวที่นับถือและศรัทธาเลื่อมใสทั้งในจังหวัดนนทบุรีและที่มาจากกรุงเทพฯ เดินทางเข้ามาพบพระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลารีแน่นวัด เพื่อทำบุญหนุนดวงชะตา เสริมสร้างบารมีและช่วยในเรื่องทำมาค้าขาย และขอโชคลาภโดยมีการเขียนยันต์ต่างๆ เพื่อเป็นการเตือนสติทุกคนไว้ และให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตด้วยสติสัมปชัญญะ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมและรักษาศีล 5 และที่ฮือฮาคือการเขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และ การลงนะหน้าทองแบบเต็มใบหน้า ถ้าใครจะเข้ามาทำพิธีต้องจองคิวล่วงหน้าก่อน

(17 ม.ค.65) ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสวนแก้วต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบพระราชธรรมนิเทศ พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว พระพยอม เปิดเผยว่า คนการศึกษาไม่เพียงพอ ฝ่ายพระไม่รู้กิจของตนคืออะไร และไปทำให้ประชาชนฉลาดขึ้นหรือฉลาดลง ถ้าลงนะหน้าทองแล้วมันดีทำไมไม่ไปช่วยกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร ประเทศเราจะได้บึ้มขึ้นมา ไม่ใช่เจิมแค่ 1-2 คน และที่แปลกคือคนท้องถิ่นไม่สนใจ ไม่ทราบด้วยซ้ำ แต่คนไกลใช้วิธีการโปรโมทไกลๆ สร้างกระแสร่ำลือ เดี๋ยวให้โหนกระแสไปโหนซักหน่อย จตุคาม ไอ้ไข่ ส้มฉุน แม่น้ำหนึ่ง ไอ้นั่นไอ้นี่ การเจิมถ้าพระไปแตะนิ้วที่หน้าผากจะกำหนัดหรือไม่ ถ้าไม่กำหนัดก็ถูกตำหนิติเตียน พระคุณเจ้าทั้งหลาย จังหวัดนนทบุรีมีหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ แต่ท่านเสียไปแล้ว ถ้าท่านอยู่ก็จะน่าดู และถ้าท่านที่ทำแบบนี้ในรัชกาลที่ 3 ก็น่าดู สำนักพุทธฯ ก็ไล่กันไม่ทัน ตรงนู้นหยุดตรงนี้เกิด ต้องตั้งแบบตำรวจพระ ต้องคอยดูและน่าจะทำให้พวกนี้จางบางเบา

ขอเตือนสติปัญญาชาวพุทธเถิดประโยชน์หรืออานิสงส์หรือผลที่ตามมาจากการเจิมได้อะไรบ้าง มีเสน่ห์ ทำมาค้าขาย แล้วเศรษฐกิจเป็นแบบนี้อยากให้แต่ละกระทรวงลองส่งเจ้าหน้าที่ไปเจิมด้วยและลองดูว่าได้ผลหรือไม่ การเชื่อของชาวพุทธควรมี 2 หลัก เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อความเพียร เชื่อการกระทำอะไรที่ถูกที่ดีเติมวิริยะอุตสาหะเข้าไปจะประสบความสำเร็จตามสูตรสำเร็จของชีวิต เรียกว่า อิทธิบาท 4 ทำแบบนี้ล้มล้างคำสอนพุทธเจ้า ล้มวิริยะ จิตตะ วิมังสา คนที่แห่ไปไหนเยอะแยะไม่ใช่ว่าไปแล้วดีไปแล้วได้ ไปแล้วเสียก็เยอะ การแห่ไปมันต้องมีตัวสุดท้ายให้ใคร่ควรก่อนค่อยคิดจะไป มีการรับบัตรคิวถือว่ามีความล้ำสมัยแต่ไม่พัฒนาตัวเองให้อยู่ในร่องรอยธรรมวินัย  ญาติโยมขอให้สติมาอยู่กับเนื้อกับตัว ศึกษาให้แน่นอน ถึงเชื่อก็ต้องเรียนรู้ให้แจ่มแจ้งไม่งั้นไม่ช้าก็จะเข้ารกเข้าพงไปตามกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook