สะเทือนใจ แม่ชรากินกล้วยประทังชีวิต 10 วัน ไม่รู้ลูกชายกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ

สะเทือนใจ แม่ชรากินกล้วยประทังชีวิต 10 วัน ไม่รู้ลูกชายกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ

สะเทือนใจ แม่ชรากินกล้วยประทังชีวิต 10 วัน ไม่รู้ลูกชายกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สะเทือนใจ แม่ชรากินกล้วยประทังชีวิต 10 วัน ไม่รู้ลูกชายกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ เพื่อนร่วมงานมาตามหาถึงรู้ว่าเสียชีวิต

(20 ม.ค.65) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.ต สุรินทร์ สมบุตร สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องน้ำหลายวันแล้ว บริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ใกล้แยกสัญญาณไฟศรีนาวา จึงได้ไปยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรและกู้ภัยสว่างอริยะนครนายก

พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นแบ่งเป็นห้องนอน และห้องน้ำ ซึ่งภายในห้องน้ำพบศพ นายศิริอรุณ อายุ 51 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำลักษณะนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ เสียชีวิตมาได้ประมาณ 10 วัน ศพเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น แพทย์เวรนำศพส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาล มศว องครักษ์

จากการให้สัมภาษณ์ของญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่าผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน เนื่องจากได้แยกกันอยู่กับภรรยาแล้ว โดยทำงานอยู่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก มีโรคประจำตัวหลายโรค เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล มศว องครักษ์ อยู่เป็นประจำ โดยทุกวันผู้เสียชีวิตจะคอยดูแลหาอาหารให้ นางสำลี อายุ 86 ปี ผู้เป็นแม่ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อยู่ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 ผู้เสียชีวิตได้หายตัวไปโดยที่แม่ไม่ทราบว่าลูกชายนั้นได้เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำภายในบ้านนานนับ 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -20 มกราคม 2565 แม่ไม่ได้ทานข้าวอาศัยกล้วยน้ำว้าที่วางอยู่ในบ้านแทนข้าว

จากการให้สัมภาษณ์ของนายวันชัย สอนศรี หัวหน้างานป้องกันองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายกได้เล่าว่า นายศิริอรุณ เป็นลูกน้องทำงานอยู่ที่ อบจ.นครนายก ได้ขาดงานไปตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 จนมาถึงวันที่ 20 มกราคม 2565 เป็นเวลารวม 10 วัน ใกล้จะถึงกำหนดของการขาดราชการ ตนจึงให้ลูกน้องขับรถมาดูเกือบทุกวัน เห็นบ้านปิดประตูอยู่ จนวันนี้ลูกน้องแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นโชยออกมาจากตัวบ้านจึงได้แจ้งทางญาติผู้เสียชีวิตและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบจึงได้ทราบว่าเสียชีวิตดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook