มีงี้ด้วย! หนุ่มโร่แจ้งจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชา บ่นอึดอัดใจทำเมีย-แม่ทะเลาะกัน

มีงี้ด้วย! หนุ่มโร่แจ้งจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชา บ่นอึดอัดใจทำเมีย-แม่ทะเลาะกัน

มีงี้ด้วย! หนุ่มโร่แจ้งจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชา บ่นอึดอัดใจทำเมีย-แม่ทะเลาะกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มเครียดหนักไม่รู้จะทำยังไงที่เป็นต้นเหตุให้ภรรยากับแม่ทะเลาะกัน ตัดสินใจเสพกัญชาแล้วเข้าแจ้งความที่โรงพักให้จับตัวเอง สุดท้ายอารมณ์เย็นลงบอกตำรวจนึกซะว่ามาขอคำปรึกษาก่อนเดินเท้าเปล่ากลับบ้าน

เมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เวลาประมาณ 22.00 น. นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี อาชีพช่างสัก เดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น เดินเท้าเปล่ามาเข้าพบร้อยเวรสอบสวน เพื่อขอแจ้งความจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์หน้าห้องเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน

โดยช่างสักรายนี้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ต้องการให้จับกุมตัวเองในข้อหาเสพกัญชา เนื่องจากก่อนที่ตนจะเดินออกจากบ้านมาแจ้งความที่โรงพัก เกิดมีปากเสียงกับภรรยาเรื่องที่ตนไปช่วยทาสีให้กับร้านสักของเพื่อนแล้วกลับบ้านผิดเวลา ทำให้ภรรยาไม่พอใจด่าทอตนเสียๆ หายๆ ลามไปถึงบุพการี

ทำให้แม่ตนซึ่งนั่งอยู่ในบ้านได้ยิน และไม่พอใจที่ภรรยาด่าว่าตนด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันระหว่างภรรยากับแม่ตัวเองจนเสียงดังไปทั่ว ทำให้ตนเกิดความเครียดที่ภรรยากับแม่มาทะเลาะกันเพราะเรื่องที่ตนกลับบ้านช้าผิดเวลา ไม่รู้จะเข้าข้างใคร จึงตัดสินใจสูบกัญชาและดื่มเบียร์ย้อมใจ ก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านมาโรงพักเพื่อแจ้งความจับตัวเองจะได้พ้นปัญหาไป เพราะตนเครียดเป็นอย่างมากที่เห็นแม่กับภรรยาทะเลาะกัน

หลังรับฟังหนุ่มช่างสักรายนี้ระบายความอึดอัดในใจจนร่ำไห้ถึงสาเหตุที่เดินทางมาเข้าแจ้งความจับตัวเองแล้ว พ.ต.ต.พายุ นิลละออ สว.สส.สภ.บางใหญ่ ได้ปลอบใจและชี้แจ้งให้นายวรพจน์ทราบว่า เรื่องการเสพกัญชานั้นไม่พบของกลางในตัว และนโยบายของรัฐบาลนั้น ผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการส่งตัวไปบำบัดรักษา ดังนั้นข้อหาที่นายวรพจน์จะแจ้งจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชานั้นก็เป็นเพียงความผิดลหุโทษ จึงไม่สามารถจับติดคุกได้ตามที่นายวรพจน์ต้องการ ส่วนปัญหาเรื่องในครอบครัวที่มีปากเสียงกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ ขอให้นายวรพจน์สงบสติอารมณ์ลงก่อน

หลังอารมณ์สงบลง นายวรพจน์กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถือว่าตนไม่ได้มาเข้าแจ้งความแล้วกัน นึกว่าตนมาหาเพื่อน มาขอคำปรึกษา เพราะเครียดมากไม่รู้จะหาทางออกทางไหน จึงคิดว่าแค่ให้ถูกตำรวจจับติดคุกไปจะได้ไม่ต้องมาเจอกับเรื่องเครียดๆ แบบนี้อีก จากนั้นหลังได้ระบายและได้คำปรึกษาจนใจเย็นลงแล้ว นายวรพจน์จึงขอตัว แล้วเดินเท้าเปล่าไม่สวมเสื้อออกจากโรงพักเพื่อกลับบ้านไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook