ดอนเมือง''โทลล์เวย์''ปรับราคาส่อโมฆะ!

กมธ.ป.ป.ช.แนะ 22 ธ.ค.นี้ หากมีการปรับขึ้นราคา ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ให้ประชาชน เก็บใบเสร็จ แจ้งความดำเนินคดีอาญา-แพ่ง กับกรมทางหลวง-บริษัทดอนเมืองฯ ระบุพฤติกรรมฉ้อฉล และใช้อำนาจโดยมิชอบ เผยสัญญาขึ้นราคาเป็นโมฆะไม่เข้าข่าย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เชิญกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม มาชี้แจงกรณีที่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) จะขึ้นค่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2552 เป็นต้นไป ว่า จากการตรวจสอบ และ หลักฐานที่ได้รับมา กมธ.พบว่าสัญญาไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย เพราะในการต่อสัญญาเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2550 สมัยที่ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เป็น รมว.คมนาคม

เนื่องจากสำนักอัยการสูงสุดได้ให้ความ เห็นว่า การต่อสัญญาซึ่งถือเป็นการร่วมงานในกิจการของรัฐ จึงต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 หรือ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ซึ่งจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมา มาตรา 13 แต่ปรากฏว่าจนถึงวันนี้ไม่มีเอกสาร หลักฐาน ระบุว่ามีการตั้งคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 13 ขึ้นมาพิจารณาในการปรับเพิ่มค่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์

นายชาญชัย กล่าวต่อว่า จากกรณีนี้ได้เทียบเคียงกับกรณีที่ศาลปกครองวินิจฉัยกรณีกรมชลประทานทำสัญญาจ้าง บริษัท อีสวอเตอร์ ให้สร้างท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จ.ระยอง และไม่เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ส่งผลให้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ ซึ่งกรณีสัญญาดอนเมืองโทลล์เวย์ก็เข้าข่ายเดียวกัน นอกจากนี้คณะกรรมการกฤษฎีกายังเคยให้ความเห็นไว้ว่า สัญญาการขึ้นค่าทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นโมฆะเช่นเดียวกัน ดังนั้นในวันที่ 22 ธ.ค.หากทางประชาชนที่ใช้บริการทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งมีการปรับขึ้นราคา ก็ขอให้เก็บใบเสร็จมาแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีอาญากับกรมทางหลวง และบริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เนื่องจากพฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อฉล และใช้อำนาจโดยมิชอบ ตามมาตรา 157

นอกจากนี้ยังสามารถฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายได้ ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความหรือไม่ดำเนินการใด ๆ ก็จะมีหน่วยงานอื่นเข้ามาดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม กมธ. จะให้โอกาสกรมทางหลวง และบริษัทฯ มาชี้แจงข้อเท็จจริง อีก 3 สัปดาห์ หากไม่มา กมธ.ป.ป.ช. ก็จะสรุปผลไปยัง ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป ซึ่งตนยืนยันว่าเรื่องนี้มีปัญหากับกรมทางหลวงแน่นอน.