วันนี้เวลา 11.26 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอาทิตยาทรกิติคุณ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตรมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฏรทุกหมู่เหล่า นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนสมาชิกรัฐสภาตามลำดับ ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส ว่า ขอขอบพระทัยและขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรมาจากใจซึ่งปรารถนาดี มุ่งหมายให้ข้าพเจ้ามีความสุขความสวัสดีโดยประการต่างๆ ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้า จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญมั่งคงเป็นปรกติสุข ความเจริญมั่งคนทั้งนั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติมุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น จึงขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ แลชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่างแล้วตั้งจิตตั้งใจให้เที่ยงตรงหนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือชาติบ้านเมืองอันเป็นถิ่นที่อยู่ที่ทำกินของเรา มีความเจริญมั่นคงยั่งยืนไป ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่าน ให้ปราศจากทุกข์ปราศจากภัย และอำนวยสุขสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคล ให้สัมฤทธิ์แก่ท่านทั่วหน้ากัน เวลา 17.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จในการนี้ด้วย เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคลของบรรพชิตจีนและญวน เสร็จแล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา เทียบเท่าพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ เทียนเท่าพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลาด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชา -พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี -พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการหน้าธรรมาสน์ศิลา จากนั้นทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสนสงฆ์ พระสงฆ์สวดนวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดาบนแท่นซึ่งตั้งอยู่พระทวารกลางแล้วเสด็จลงจากพระอุโบสถ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ข้าทูลละอองพระบาทผู้สูงอายุฝ่ายหน้า ฝ่ายใน เฝ้าทูลละอองพระบาท สำนักในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ชานพระอุโบสถ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ครั้นเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ อาลักษณ์ สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์ชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ จบแล้ว พระสงฆ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคม สังข์ แร ดุริยางค์ จากนั้น ทรงประเคนหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ แด่สมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา และทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ แด่พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ใหม่ ตามลำดับ จากนั้น พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก พระสงฆ์ 83 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เสร็จแล้วทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นมหาเศวตฉัตร เทียนเท่าพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในตู้ข้างพระแท่นมหาเศวตฉัตร และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปพระเคราะห์ที่โต๊ะหมู่แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องมนัสการที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เมื่อถึงบทเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ ทรงจุดเทียนที่ฝาครอบพระกริ่ง แล้วพระราชแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่โต๊ะข้างหน้าประธานสงฆ์ แล้วทรงพระดำเนินไปทรงประเคนครอบพระกริ่งแด่ผู้เป็นประธานสงฆ์ จากนั้น เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทางทวารเทวราชมเหศวร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จกลับไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้วสมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก ถวายพระพรลา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ได้รับคัดเลือกเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ในงานวันพ่อแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร ในวันเดียวกันนี้ เวลา 18.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน "ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 23 และมอบถ้วยรางวัลพระราชทานแก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ณ โรงแรมกะตะบีชรีสอร์ท อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
