ความสุขของคนไทย คือ ความสุขของพ่อ

ความสุขของคนไทย คือ ความสุขของพ่อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 รวมทั้งภาพที่พระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพร้อมกับแย้มพระสรวล นับเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจเหล่าพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ เพราะเป็นวันที่ทุกคนต่างเฝ้ารอชมพระบารมี และร่วมกันเปล่งเสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ อย่างพร้อมเพรียงตลอดเส้นทางที่พระองค์เสด็จฯ รวมทั้งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คนไทยทุกคนจะได้รับฟังกระแสพระราชดำรัสที่พระองค์จะพระราชทานเป็นประจำทุกปี และถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นห้วงเวลาที่ทุกคนมีความสุข ประทับใจและปลื้มปิติอย่างล้นพ้น ซึ่งบางรายเมื่อเห็นพระองค์ท่าน ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เหล่านี้ ล้วนเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งยากที่จะหาหรือนำกษัตริย์ราชวงศ์ใดในโลกมาเปรียบเทียบได้ นั่นเพราะ พระองค์ไม่เคยลืมราษฎร แม้แต่วันเดียว ดังเช่น กระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานในพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครั้งนี้ ตอนหนึ่งว่า ".....ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญมั่นคง เป็นปกติสุข..... และ "..ความปรารถนาดี มุ่งหมายให้ข้าพเจ้ามีความสุข ความสวัสดี โดยประการต่างๆ นั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคน ทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติ รู้ตัว ด้วยปัญญา รู้คิด และยความสุจริต จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น.... ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่า ภายหลังพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษาผ่านพ้นไป ในวันเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากหลายสำนัก จึงพบสถิติค่าความสุขมวลรวมของคนไทยพุ่งสูงอย่างมาก เช่น ศูนย์วิจัยความสุขชุมชนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย เอแบคเรียลไทม์โพลล์ เรื่อง สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันกับความสุขมวลรวมของคนไทยวันนี้ สำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,147 ครัวเรือน เมื่อ 5 ธ.ค.52 พบว่า ระดับความสุขของคนไทยในวันดังกล่าว มีคะแนนสูงถึง 9.86 เกือบเต็ม 10 คะแนน และสูงกว่าความสุขคนไทยที่ค้นพบจากการสำรวจ ในช่วงพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อเดือน มิ.ย.2549 อยู่ที่ 9.21 ทั้งนี้ ประชาชนส่วนมาก 80.7% ติดตามการถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จออก มหาสมาคมเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่บ้าน นอกจากนี้ ภายหลังจากที่ได้รับชมการถ่ายทอดพระราชพิธีดังกล่าว พบว่าตัวอย่างส่วนมาก 81.9% ระบุว่าตนเองมีกำลังในการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆในชีวิตเพิ่มมากขึ้น และเมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนควรจะน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงไปปฏิบัติ พบว่า อันดับแรก ระบุ การใช้ชีวิตด้วยความพอเพียง 88.3% ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ 86.9% ตั้งจิตตั้งใจทำความดีเพื่อตัวเองและสังคม 85.0% มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้ผิดรู้ชอบ 84.0% และมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง 81.2% เช่นเดียวกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่ได้การสำรวจความคิดเห็นของประชนทั่วประเทศ เพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 2,589 คน ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม 2552 พบว่า ประชาชนประทับใจ กับ การเสด็จพระราชดำเนิน เยี่ยมประชาชนในท้องถิ่นต่างๆของประเทศ มากถึงร้อยละ 70.28% และร้อยละ 43.19% รับมีความสุขมาก ทุกครั้งที่ระลึกถึง ภาพพระราชกรณียกิจต่างๆที่ท่านทรงงานเพื่อประชาชน ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชน ตั้งใจทำถวายในหลวง ร้อยละ 53.82% เลือกเป็นคนดี ซื่อสัตย์ สุจริต /ยึดมั่นในความดี ส่วนร้อยละ 43.71% ไม่อยากให้เอาความไม่สามัคคีกันของคนไทย ไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท และคำว่า "ทรงพระเจริญ คือคำที่คนไทยอยากพูดมากที่สุด 38.74% รองลงมาร้อยละ 30.82% ขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง นั่นคือผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจ และเป็นที่รัก เทิดทูนยิ่งของคนไทย แต่ ณ วันนี้ เมื่อคนไทยทั้งชาติได้ยินกระแสพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตรัสบอกคนไทยครั้งนี้แล้ว ว่า ความสุขของพระองค์คือสิ่งใด ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินกำลังที่คนไทยจะรวมพลังทำเพื่อ "พ่อของแผ่นดิน เพื่อให้พระองค์ท่านมีความสุขให้สมดั่งที่พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกายตลอดมาก็เพราะต้องการเห็นพสกนิกรไทยมีความสุขนั่นเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook