ดันตั้งกองทุนสร้างทางด่วน

นายกุลิศ สมบัติศิริ รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเห็นด้วยกับแนวทางการก่อสร้างกองทุนรวมสาธารณูปโภค (อินฟาร์สตรัคเจอร์ ฟันด์) เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายบางซื่อ-ตลิ่งชันภายใต้ชื่อโครงการทางด่วนศรีรัตน์ มูลค่าโครงการ 29,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างไปตามแนวรางรถไฟสายใต้ เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จึงได้ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ศึกษาว่าจะแย่งลูกค้ากันกับรถไฟฟ้าด้วย หรือไม่ แต่ในรูปแบบการระดมทุนต่าง ๆ นั้นได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งนี้ทางพิเศษสายนี้ เป็นการสร้างตามแนวเขตพื้นที่องการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จึงใช้เงินลงทุนในโครงการไม่มาก เนื่องจากไม่ต้องเวนคืนที่ดินยกเว้นแนวทางขึ้นลง

ถ้าก่อสร้างได้ตามแผน ถือเป็น โครงการนำร่องที่ดีในการจัดตั้งกองทุนสาธารณูปโภค ทำให้รัฐบาลประหยัดต้นทุนก่อสร้างลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ และเป็นการดึงเงินออมในประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งส่วนของผู้ลงทุนเองก็ได้ผลตอบแทนที่ดีเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 5-8% ต่อปี โดยนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยต่างให้ความสนใจ

ขณะนี้กำลังรอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อนุมัติ โดยการก่อสร้างอาจทยอยสร้างไปที่ละระยะ ประมาณ 10% ที่เหลืออาจนำไปลงทุนในตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบเเทน โดยต้องเสนอวิธีการให้คลังก่อนว่าจะเลือกวิธีไหน หากตั้งกองทุนเสร็จสิ้นคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างโครงการทางด่วนศรีรัตน์ 4 ปี

สำหรับโครงการทางพิเศษศรีรัตน์ คาดว่ามีรถยนต์ใช้วันละ 80,000 คัน ซึ่งทางด่วนดังกล่าวจะคู่ขนานไปกับรถไฟฟ้าสายสีแดง โดย กลต.ได้จัดรับฟังความคิดเห็นไปบ้างแล้ว เบื้องต้นกำหนดขนาดกองทุนไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยให้ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานได้ ทั้งในโครงการที่มีรายได้แล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง.