ปทีป สั่งขึ้นบัญชีดำตำรวจปล่อยเงินกู้นอกระบบ

ปทีป สั่งขึ้นบัญชีดำตำรวจปล่อยเงินกู้นอกระบบ

ปทีป สั่งขึ้นบัญชีดำตำรวจปล่อยเงินกู้นอกระบบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังพบใช้เมียทำ แทน กำชับทุกหน่วยจับตาลูกน้อง ลั่นถ้าเจอฟันไม่เลี้ยง ด้าน ผบช.น.คาดโทษวินัย-อาญา จ่อเอาผิดผู้บังคับบัญชาด้วย รอง ผบช.ก.เผย จับนายทุนแล้วหลายราย แนะลูกหนี้เข้าร้องเรียนพร้อมเก็บเป็นข้อมูลลับ "ธานี" มอบนโยบาย ตร.วันนี้

ตามที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีการตั้งศูนย์ปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบมา เป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อปราบปรามนายทุนแก๊งทวงหนี้นั้น มีประชาชนร้องเรียนเข้ามายังศูนย์แล้ว 400 ราย ส่วนใหญ่ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น เป็นนายทุนใหญ่ในการปล่อยกู้ และให้ลูกน้องไปตามทวงหนี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องปัญหาเงินกู้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมจะสนองนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่ มีการเร่งรัดปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กำชับไม่ให้ครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้กู้ หรือเป็นนายหน้าเพื่อออกเงินกู้เสียเอง โดยให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเข้าไปตรวจสอบว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไป เกี่ยวข้องหรือไม่

"หากเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นฝ่ายกู้ก็ให้ไปลงทะเบียนให้ถูกต้องตามนโยบาย รัฐบาล แต่ถ้าเป็นคนปล่อยกู้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการเช่นเดียวกัน และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างมาก เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดเสียเอง และให้หัวหน้าโรงพักออกประชาสัมพันธ์และสำรวจลูกน้องว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับ วงจรเงินกู้นอกระบบหรือไม่" พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว

พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะควบคุมดูแลศูนย์ปราบปรามเงินกู้นอกระบบ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์มามีผู้มาร้องเรียนแล้วกว่า 400 ราย ได้ทยอยดำเนินการออกหมายจับและจับกุมนายทุนเงินกู้ไปแล้วหลายราย โดยจะเน้นทำงานจับกุมทั้งระบบ ตั้งแต่นายทุนจนถึงคนทวงหนี้ คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่รับจ้างทวงหนี้ ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักการเมืองท้องถิ่นอยู่เบื้องหลังการ ปล่อยเงินกู้ จนทำให้ประชาชนเกรงกลัวไม่กล้ามาร้องเรียนหรือมาลงทะเบียนนั้น ตั้งแต่เปิดศูนย์เรายังไม่มีข้อมูล

"เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่ามีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ เราจึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ที่ผ่านมามีแต่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้เสียหายเป็นลูกหนี้ของนักการเมืองท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้ามาให้เบาะแสต่อศูนย์ เพื่อจะดำเนินการจับกุม เราจะไม่เปิดเผยข้อมูล จะเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ ไม่ต้องกลัวจะได้รับอันตราย" พล.ต.ต.วินัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ มีคำสั่งกำชับการป้องกันและปราบปรามการให้กู้เงินนอกระบบที่ ผิดกฎหมายมายัง บช.น. และตำรวจทุกหน่วยงานในสังกัด ให้สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคล กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบใน อัตราที่ดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด และส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปตามทวงหนี้ โดยวิธีข่มขู่ให้หวาดกลัว ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกาย โดยสั่งการให้แต่ละพื้นที่จัดทำเป็นบัญชีรายชื่อและประวัติให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสะดวกในการตรวจสอบหรือติดตามพฤติกรรม และให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และป้องปรามกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ให้ยุติการดำเนินการที่ผิดกฎหมายดังกล่าว หากกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่เลิกพฤติกรรม และกระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมายในการให้กู้เงินและการทวงหนี้ ให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้เกี่ยวข้องทุกรายตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเฉียบ ขาด

ในส่วนของ บช.น.นั้น พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. สั่งการในที่ประชุมบริหารให้ผู้บังคับบัญชากำชับสอดส่องเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก นาย ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมให้กู้เงินและการทวงหนี้ โดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมมือ หรือกระทำความผิดให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางกฎหมายและทางวินัย พร้อมทั้งให้พิจารณาข้อบกพร่องต่อผู้บังคับบัญชาด้วย

ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนหนี้นอกระบบใน สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้มีประชาชนมาลงทะเบียนแล้วประมาณ 1.2 แสนราย มูลค่าหนี้รวมแล้วประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยการเป็นหนี้จะอยู่ที่ประมาณรายละ 1 แสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นการมาลงทะเบียนในระดับปกติตามที่คาดไว้

นอกจากนี้ ในวันที่ 8 ธันวาคม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เตรียมจะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมอบนโยบาย และขอความร่วมมือในการช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีบทบาทสูงมากในการช่วยเหลือประชาชนครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการข่มขู่เจ้าหนี้ แต่จะเป็นเพียงการขอความร่วมมือในการลดภาระให้แก่ลูกหนี้เท่านั้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook