พระสหายเป๊าะเด็งลงนามถวายพระพร

พระสหายเป๊าะเด็งลงนามถวายพระพร

พระสหายเป๊าะเด็งลงนามถวายพระพร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พระสหายพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "วาเด็ง ปูเต๊ะ" ร่วมลงนามถวายพร ณ รพ.ศิริราช พร้อมนำทุเรียนก้านยาวทูลเกล้าฯถวาย นร.-เด็กพิการชมงานมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ

(7ธ.ค.) บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่โรงพยาบาลศิริราชไป อย่างคึกคักโดยประชาชนจำนวนมากจากทั่วสารทิศ เดินทางไปลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายวาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ เป๊าะเด็ง อายุ 95 ปี พระสหายแห่งสายบุรี ได้เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพร พร้อมกับนำทุเรียนก้านยาว จากสวนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จไปมาถวายด้วย

นายวาเด็ง กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงพระองค์ท่านและได้ทำการละหมาดฮายัด ร่วมกับโต๊ะอิหม่ามและชาว อ.สายบุรี เพื่อขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์โดยเร็ว

นร.-เด็กพิการชมงานมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ

วันสุดท้ายของงานมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้น ที่โรงละครแห่งชาติ เวทีสังคีตศาลา และบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ยังได้รับความสนใจจากประชาชน เดินทางเข้าชมการแสดงตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนในต่างจังหวัดเดินทางมาเป็นหมู่คณะ และเด็กพิการจากบ้านปากเกร็ด เข้าชมการแสดง ซึ่งมีกิจกรรมตลอดวัน

สำหรับวันนี้เริ่มด้วยการแสดงมายากล การแสดงร่วมสมัย ชุด "เทวะอัปสรา" การแสดงหุ่นช่างฟ้อน ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการแสดงหุ่นไทยที่น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจ ผันชีวิตจากการทำธุรกิจส่งออกมาทำงานด้านศิลปวัฒนธรรมเชิดหุ่นแทน และได้รับรางวัลพิเศษจากงานประกวดหุ่นโลกในปีนี้ ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก นอกจากนี้ในค่ำคืนนี้ ที่โรงละครแห่งชาติ จะปิดท้ายการแสดงด้วยชุดการแสดงฟินาเร่ ของการแสดงหุ่นนานาชาติ กว่า 10 ประเทศด้วย

ปชป.น้อมรับกระแสพระราชดำรัสในหลวงมาปฎิบัติ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอน้อมรับกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งดุจเป็นแสงสว่างนำทางของบ้านเมืองถือเป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ หากพวกเราคนไทยจะช่วยกันทำให้เป็นปณิธานปีใหม่ของชาวไทยทุกคน โดยการทำการบ้านถวายแด่พระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการทำดีและแสดงออกโดยที่คนไทยทุกคนร่วมกันทำทุกอย่างเพื่อให้บานเมือง ปกติสุขและมั่นคง ในการนี้พรรคประชาธิปัตย์ขอเชิญชวนทุกพรคและทุกกลุ่มการเมืองร่วมกันกระทำ 3 สิ่ง คือ 1. ร่วมกันสร้างความสมานฉันท์และปฏิรูปการเมืองเพื่อนำการเมืองออกจากวิกฤติของ ปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นตลอด 3 ปี ที่เกิดขึ้น 2. ร่วมกันนำการเมืองกลับสู่สภาและลดความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกันเอง และ 3. ร่วมกันทำประชาธิปไตยให้มั่นคง โดยให้ทุกฝ่ายร่วมกันแสดงถึงการยอมรับในความเห็นที่แตกต่างและพิสูจน์ให้ เห็นว่าคนไทยสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องแตกแยกแม้มีความเห็นที่แตกต่าง กันทางความคิด

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันขอเรียกร้องทุกพรรคการเมือและทุกกลุ่มการเมืองให้เลิก 3 อย่างคือ 1. เลิกพาดพิงทุกองค์กรและสถาบัน ที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง 2. เลิกสร้างความแตกแยกทุกวิถีทาง ไม่ว่าโดยการปลุกระดมมวลชนเพื่อให้คนไทยต้องเลือกข้างหรือการใช้ข้อมูลหลัก ฐานที่เป็นเท็จ หรือ ดึงเอาเพื่อนบ้านมาเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ และ 3. ขอให้ทุกฝ่ายยุติการส่งสัญญาณความวุ่นวาย ความรุนแรงและไม่ว่าพรรคใดหรือสีใดขอให้ยุติการพูดถึงสงครามกลางเมืองหรือ สงครามประชาชน ทางพรรคประชาธิปัตย์มีความมั่นใจว่าหากทุกฝ่ายช่วยกันทำ 3 สิ่ง และเลิก 3 อย่างนี้ ฝันร้ายในปีเก่าก็จะถูกทดแทนด้วยฝันดีที่จะเป็นจริงในปีใหม่ที่จะถึงนี้

ร.12พัน2นำชาวบ้านจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ

พันเอกเทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา โดยมี พ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิ์เดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ นำ นายทหาร หัวหน้าส่วนราชการอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน คณะครู องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนจำนวนมากร่วมกิจกรรม เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างเคารพเทิดทูนและน้อมระลึกถึงพระมหา กรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทยนับอเนกอนันต์หาที่สุดมิได้

ถวายราชสดุดีพร้อมน้อมลำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาเป็นข้อ เตือนใจให้ประชาชนช่วยกันรักษาป่าและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความชุ่มชื่น ชาวจังหวัดสระแก้ว น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระราชวงศ์ทุกพระองค์ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสระแก้วนับ ครั้งไม่ถ้วน ยังประโยชน์ให้พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดสระแก้ว สงบร่มเย็น ประชาชนยากจนมีพื้นที่ประกอบอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ เบญจภาคีทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูภูมินิเวศน์ในพื้นที่รับผิดชอบ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook