ชาวบ้าน อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา ได้รับความเดือดร้อนจากตลิ่งทรุดตัว บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 50 หลังคาเรือน

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับความเดือดร้อนจากตลิ่งทรุดตัว มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบประมาณ 50 หลังคาเรือน นายฉัตรพล อินทโชติ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต. ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก ต.ท่าหลวง ได้รับความเดือดร้อนจากดินริมแม่น้ำป่าสักทรุดตัว มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบประมาณ 50 หลังคาเรือน รวมระยะทางที่ดินทรุดตัว กว่า 600 เมตร และมีพื้นที่เสี่ยงดินทรุดตัวอีกกว่า 16 หลังคาเรือน เบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลท่าหลวง ได้นำผ้าใบขนาดใหญ่มาปิดในจุดที่ทรุดตัว เพื่อไม่ให้น้ำฝนไหลลงกัดเซาะ ด้าน นายทวีศักดิ์ โสมะเกตรินทร์ อายุ 81 ปี ชาว ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ เจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เปิดเผยว่า จุดที่ดินทรุดตัวดังกล่าว เป็นถนนรถยนต์สามารถวิ่งผ่านเพื่อที่จะใช้เป็นทางลัดได้ แต่เมื่อดินทรุดตัวลงก็จะมีเพียงแค่รถจักยานยนต์ที่สามารถวิ่งผ่านได้ เท่านั้น เบื้องต้นชาวบ้านในแถบนี้เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากช่วงน้ำท่วม ทีเขื่อนพระราม 6 ได้เปิดประตูเขื่อนแล้วเฟืองของประตูน้ำแตกไม่สามารถปิดประตูได้ จึงรักษาระดับน้ำให้อยู่ในระดับปกติไม่ได้ จนระดับน้ำต่ำเกินไป ทำให้ดินเกิดการทรุดตัวลง ประกอบกับช่วงบริเวณดังกล่าวเป็นโค้งน้ำ เป็นไปได้ว่าน้ำที่มาจาก จ.ลพบุรี และสระบุรี ที่มากและไหลแรง ยิ่งทำให้กัดเซาะตลิ่งพังเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่า ยังมีจุดที่อาจจะเกิดการทรุดตัวในลักษณะดังกล่าวอย่างน้อย 6 จุด ซึ่งขณะนี้ นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ สั่งให้มีการสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบแล้ว ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งหลายครอบครัว ต้องการให้มีการสร้างแนวกำแพงเขื่อนต่อจากวัดหัวหินมาถึงจุดที่ทรุด โดยการตอกเสาเข็มขนาดใหญ่ เพราะเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาตลิ่งพังได้ นอกจากนี้ยังขอให้กรมชลประทาน แจ้งประชาชนหากมีการปล่อยน้ำ และกักเก็บน้ำไว้ เพราะชาวบ้านจะได้เตรียมตัวในการขนสิ่งของย้ายหนีหากเกิดตลิ่งทรุดตัวอีก