รมว.ทรัพยากรฯ พร้อมร่วมประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร

รมว.ทรัพยากรฯ พร้อมร่วมประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะคณะผู้แทนประเทศไทย พร้อมร่วมประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก พร้อมย้ำท่าทีเดิมจากการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13-18 ธันวาคมนี้ คณะของเจ้าหน้าที่จากกระทรวง ที่มี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะ จะเดินทางไปยังกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพื่อประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่จัดโดยสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น มีผู้แทนจาก 192 ประเทศเข้าร่วมประชุม รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอาเซียน ที่จะเดินทางไปร่วมประชุมด้วยโดยจะเดินทางวันที่ 16 ธันวาคมนี้ สำหรับการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมเกี่ยวกับสภาพอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 15,000 คน ทั้งนี้ประมุขและผู้นำรัฐบาลของกว่า 100 ประเทศจะเข้าร่วมประชุมในช่วง 2 วันสุดท้ายด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ทุกประเทศตั้งความหวังเอาไว้ว่าอยากให้มีข้อสรุปชัดเจน แม้ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องยาก แต่หากการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่ไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็อาจจะได้ข้อสรุปในระดับผู้นำทางการเมืองของแต่ละประเทศ โดยประเทศไทยนั้นนายกรัฐมนตรีจะมี 2 บทบาทคือ ในฐานะผู้นำประเทศไทย และประธานอาเซี่ยน ซึ่งจะแสดงจุดยืนของอาเซียนที่มีข้อตกลงร่วมกันแล้วเมื่อครั้งการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 28-29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่สรุปว่า ในระยะยาวกลุ่มอาเซียนเห็นด้วยกับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์เรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ ไอพีซีซี ที่ว่า จะต้องทำให้อุณหภูมิโลกสูงไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส และจะต้องไม่ให้มีการเพิ่มปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเกินกว่า 450 ส่วนในล้านส่วน และในเรื่องการปรับตัวนั้นประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องสนับสนุนด้านการเงินกับประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อลดปัญหาโลกร้อน รวมทั้งต้องขยายกองทุนการสนับสนุนการแก้ปัญหาโลกร้อนให้กว้างขวางขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook